เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Google สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งอุตสาหกรรมเกม เมื่อชิงประกาศเปิดตัว Stadia แพลตฟอร์มเกมสตรีมมิงที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงเกมต่างๆ ได้แบบออนดีมานด์โดยไม่จำเป็นต้องมีฮาร์ดแวร์เครื่องเกมคอนโซล จนทำให้เกมเมอร์ทั่วโลกเฝ้าคอยกันอย่างพร้อมเพียง
ล่าสุด (6 มิ.ย.) Google ได้เปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการของ Stadia แล้ว โดยจะเริ่มเปิดให้ใช้บริการในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ สนนค่าบริการรายเดือนที่ 9.99 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 320 บาท พร้อมเปิดเผยรายชื่อเกมที่จะสามารถสตรีมเล่นบนแพลตฟอร์ม
ในช่วงแรก Stadia จะเปิดให้บริการเฉพาะ 14 ประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, แคนาดา, ไอร์แลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์, สเปน, เบลเยียม, ฟินแลนด์, เดนมาร์ก, สวีเดน และนอร์เวย์ สนนราคาค่าบริการแตกต่างกันตามพื้นที่ที่ให้บริการ
บนแพลตฟอร์ม Stadia จะมีเกมให้เลือกเล่นอย่างน้อย 31 เกมจาก 21 ค่ายผู้พัฒนา เช่น Dragon Ball Xenoverse 2 (Bandai Namco), Football Manager 2020 (Sega), Assassin’s Creed Odyssey, Tom Clancy’s Ghost Recon Breakpoint, Tom Clancy’s The Division 2 (Ubisoft), Final Fantasy XV (Square Enix), NBA 2K (2K Games) ฯลฯ ส่วน Rockstar Games และ Electronic Arts ยังไม่ประกาศรายชื่อเกม โดยคาดว่าในงาน E3 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 มิถุนายนนี้จะมีการเปิดเผยรายชื่อเกมอื่นๆ เพิ่มเติม
แม้จะไม่ต้องใช้ฮาร์ดแวร์เครื่องเล่นเกมคอนโซล แต่ถ้าจะใช้บริการ Stadia ก็จำเป็นจะต้องซื้ออุปกรณ์จอยคอนโทรล Stadia Controller ด้วย สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 69 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,200 บาท หรือสามารถสมัครแพ็กเกจ Founder’s Edition ในราคา 129 เหรียญสหรัฐ หรือราว 4,100 บาท ซึ่งในชุดจะแถมแพ็กเกจบริการฟรี 3 เดือน, Stadia Controller สีพิเศษ Night Blue และ Chromecast Ultra TV เพื่อใช้สตรีมเกมมาให้ด้วย
สำหรับข้อกังวลเรื่องสเปกความเร็วอินเทอร์เน็ตเพื่อใช้ในการสตรีมเกม ทาง Google แนะนำว่าผู้เล่น Stadia ควรจะมีความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ 10Mbps เป็นอย่างน้อย เพื่อให้สามารถสตรีมเกมที่ความละเอียด 720p ได้ (60 FPS) และ 20Mbps เพื่อให้เล่นเกมที่ความคมชัดระดับ 1080p ส่วนถ้าอยากได้ความคมชัดระดับ 4K ก็ควรจะต้องมีความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ 35Mbps (HDR Video 60 FPS)
ถ้าสังเกตให้ดีก็จะพบว่า Google และ Stadia จะเริ่มทดลองให้บริการเฉพาะกับประเทศในโซนอเมริกาและยุโรปเป็นหลัก ก่อนขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในเฟสถัดไป แต่เชื่อว่าในเดือนพฤศจิกายนเราคงจะได้ทราบกันแล้วว่าฟีดแบ็กและท่าทีตอบรับของผู้บริโภคต่อแพลตฟอร์มที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Netflix ของวงการเกมจะออกมาในทิศทางใด
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: