เมื่อวานนี้ (4 ต.ค.) บริษัทกูเกิล (Google) ได้จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สุดล้ำในเจเนอเรชันที่ 2 ของพวกเขาออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งแต่ละตัวก็มีความน่าสนใจและพิเศษอยู่ไม่น้อย เช่น สมาร์ทโฟนไร้ซิมการ์ด Pixel 2, ลำโพงติดบ้านอัจฉริยะขนาดจิ๋ว Google Home Mini, แล็บท็อป Pixelbook หรือหูฟังช่วยแปลภาษา Pixel Buds
ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์เจเนอเรชันล่าสุดนี้ไม่ได้อยู่แค่จำนวนผลิตภัณฑ์ที่ปล่อยออกมาเยอะเท่านั้น เพราะกูเกิลได้นำเอาผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) มาเสริมความสามารถในการทำงานให้กับอุปกรณ์ของพวกเขาเพื่อความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้งาน
ส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ว่านี้จะมีอะไรบ้าง เราได้สรุปมาให้คุณเรียบร้อยแล้ว
Google Pixel Buds : หูฟังแปลภาษาไร้สาย
หูฟังอัจฉริยะแบบไร้สาย ใช้วัสดุผ้าถักในการผลิตที่คงทนแข็งแรง และนอกจากจะมาพร้อมกับคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมแล้ว กูเกิลยังเพิ่มความสามารถด้านผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์และการแปลภาษามาให้อีกด้วย
เพียงแค่ผู้ใช้แตะค้างไปที่ Touchpad บนหูฟังด้านขวา ผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ส่วนตัวก็จะพร้อมรับใช้คุณโดยทันที
หากต้องการใช้ฟีเจอร์แปลภาษา เพียงแค่แตะใช้งานแล้วบอกภาษาที่ต้องการพูดพร้อมประโยคสนทนาออกไป Pixel Buds จะแปลเป็นภาษาปลายทางด้วย Google Translate อัตโนมัติทันที เมื่อคู่สนทนาโต้ตอบกลับมันก็จะแปลเป็นภาษาที่คุณต้องการได้ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันสามารถแปลได้ครอบคลุมถึง 40 ภาษา
สนนราคาขายอยู่ที่ 159 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5,307 บาท และจะเริ่มวางขายตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
https://www.youtube.com/watch?v=Br7hZu0WKKQ
Google Clips : กล้องถ่ายวิดีโอปัญญาประดิษฐ์ AI
Google Clips เป็นกล้องถ่ายวิดีโอที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ไม่อยากพลาดบันทึกเรื่องราวทุกช่วงโมเมนต์สำคัญของชีวิต เนื่องจากตัวกล้องขับเคลื่อนการใช้งานด้วยปัญญาประดิษฐ์ และ Machine Learning ทำให้มันสามารถบันทึกวิดีโอได้อัตโนมัติตามการประมวลผลของ AI ช่วยให้คุณไม่พลาดทุกช่วงเวลาสำคัญของลูกน้อยหรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงแสนน่ารัก
โดยเจ้า AI ยังจดจำใบหน้าของผู้คนหรือสัตว์ที่ปรากฏในคลิปของคุณบ่อยๆ ได้อีกด้วย เมื่อเปิดใช้งานครั้งหน้ามันก็จะถ่ายวิดีโอบุคคลนั้นๆ หรือสัตว์เลี้ยงเพิ่มมากขึ้นตามความถี่ในการใช้งานวิดีโอ
ตัววัสดุมีน้ำหนักเบา สามารถติดเข้ากับเชือกหรือตำแหน่งที่ต้องการตั้งกล้องได้ตามสะดวก สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 249 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8,311 บาท
Google Pixel 2 : สมาร์ทโฟนไร้ซิมเครื่องแรกของโลก พร้อมกล้องถ่ายรูปที่ดีที่สุด!
ช่วงเวลาเดียวกันนี้เมื่อปีที่แล้วกูเกิลได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน Pixel รุ่นแรกออกมา และถึงแม้จะไม่มีตัวเลขยืนยันออกมาเป็นทางการ แต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาสื่อหลายสำนักก็ฟันธงพร้อมกันว่า โทรศัพท์มือถือรุ่นแรกนี้ของกูเกิลมีจะยอดขายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านเครื่องทั่วโลก
มาปีนี้กูเกิลกลับมาอีกครั้งพร้อมเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นที่ 2 ในชื่อ ‘Pixel 2’ ที่ชูจุดเด่นของกล้องถ่ายรูปประสิทธิภาพสูง, ผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์และแบตเตอรี่ที่อึดและใช้ได้นานตลอดทั้งวัน (7-15 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง) รวมถึง eSIM ที่ไม่ต้องใส่ซิมการ์ดอีกต่อไป
Pixel 2 มีให้เลือก 2 ขนาดได้แก่ Pixel 2 หน้าจอ 5 นิ้ว (มีให้เลือก 3 สี ฟ้า ดำ และขาว) แบบ crystal-clear cinematic OLED และ Pixel 2 XL หน้าจอ 6 นิ้ว (มีให้เลือก 2 สี ดำและขาว) แบบ razor-sharp pOLED อัตราส่วน 18:9 ตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมเคลือบเงา ส่วนหน้าจอเป็น Corning Gorilla Glass 5
ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 835 processor บนระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัทของพวกเขาเองอย่าง ‘Android 8.0 Oreo’ มีให้เลือกด้วยกัน 2 ความจุได้แก่ 64 GB และ 128 GB พร้อมแรม 4 GB ตัวเครื่องกันน้ำบนมาตรฐาน IP67 ใช้พอร์ตการเชื่อมต่อ USB-C
ฟีเจอร์เด่น
กล้องถ่ายรูป
กูเกิลเคลมว่ากล้องถ่ายรูปบนสมาร์ทโฟน Pixel 2 ถูกพัฒนาโดยกลไกคำนวณการถ่ายภาพจากระบบ Machine Learning ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีคุณภาพสูง ถ่ายภาพชัดตื้น (เบลอพื้นหลัง โฟกัสเฉพาะวัตถุด้านหน้า) ได้จากทั้งกล้องหลังที่มีความคมชัด 12.2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f1.8 และกล้องหน้าที่ความคมชัด 8 ล้านพิกเซล, ฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอช่วยป้องกันการสั่นไหวที่ช่วยให้วิดีโอที่ได้ออกมาคมชัดและไม่สั่นสะเทือน รวมถึงการทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AR (Augmented Reality)
ถ้าถามว่ากล้องถ่ายรูปของพวกเขาแจ๋วขนาดไหน เว็บไซต์จัดอันดับกล้องถ่ายรูปสมาร์ทโฟนอิสระอย่าง ‘DxOMark’ ยกให้กล้องถ่ายรูปของ Pixel 2 เป็นกล้องที่ดีที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟนทุกรุ่นด้วยคะแนนที่เป็นประวัติการณ์ 98 คะแนน นอกจากนี้พวกเขายังมอบพื้นที่ในการจัดเก็บไฟล์ถ่ายและวิดีโอรูปบนคลาวด์แบบไม่อั้นและฟรีอีกด้วย
กูเกิลเลนส์ (Google Lens)
ฟีเจอร์เอ็กซ์คลูซีฟ ‘เลนส์อัจฉริยะ’ เฉพาะผู้ใช้งานรุ่น Pixel 2 เท่านั้นที่ช่วยในการใช้กล้องถ่ายรูปเรียนรู้และทำความรู้จักกับสิ่งต่างๆ รอบตัวของผู้ใช้โดยทำงานร่วมกับเทคโนโลยีสุดล้ำของกูเกิลผ่านวิสัยทัศน์คอมพิวเตอร์บน Machine Learning และกราฟการเรียนรู้ และใช้งานร่วมกับผู้ช่วยอัจฉริยะของกูเกิลได้
ผู้ช่วยส่วนตัวของกูเกิล (Google Assistant)
ผู้ช่วยส่วนตัวของกูเกิลสามารถทำได้ทุกอย่าง ครอบคลุมตั้งแต่การส่งข้อความ, โทรออกไปยังหมายเลขปลายทาง, หาชื่อเพลงที่ได้ยิน, ส่งโลเคชัน, ปรับเข้าโหมดห้ามรบกวน หรือออกคำสั่งตามความต้องการของผู้ใช้งานทั่วๆ ไป นอกจากนี้มันยังเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้งานแต่ละคนผ่านคำสั่งที่ใช้ในแต่ละช่วงเวลาเพื่อจดจำและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้สมาร์ทโฟนให้ได้มากที่สุด
ไร้ซิมการ์ด (eSIM)
ไม่ต้องมาเสียเวลาหาคลิปหนีบกระดาษแงะซิมการ์ดเข้าออกอีกต่อไป เพราะ Pixel 2 คือสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่ไม่จำเป็นต้องใส่ซิมการ์ดซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นโดย Project Fi
https://www.youtube.com/watch?time_continue=61&v=zpLVsR8cSFo
สนนราคาเริ่มต้นของ Pixel 2 รุ่น 5 นิ้วอยู่ที่ 649 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 21,663 บาท และรุ่น Pixel 2 XL 6 นิ้วอยู่ที่ 849 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 28,449 บาท
* ราคานี้คือรุ่นความจุ 64 GB ส่วนรุ่นความจุ 128 GB จะบวกราคาเพิ่มไปอีก 100 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,338 บาท
ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่น่าสนใจมีดังนี้
- ครอบครัวลำโพงกูเกิล : ครั้งนี้กูเกิลได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ลำโพงใช้ในบ้านเพิ่มอีก 2 รายการได้แก่ ลำโพงพกพาขนาดเล็กกะทัดรัด ‘Google Home Mini’ และลำโพงขนาดใหญ่ ‘Google Home Max’ สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 49 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,635 บาท) และ 399 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 13,318 บาท) ตามลำดับ ความน่าสนใจอยู่ที่การติดตั้งผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ Google Assistant มาให้เช่นเคย
- ไฮบริดแล็ปท็อปทรงประสิทธิภาพพร้อม AI : Pixelbook คือ Chromebook ของกูเกิลเวอร์ชันปรับปรุงใหม่หมดให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีขึ้น รองรับการใช้งานกับผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์และการใช้หน้าจอสัมผัสร่วมด้วยปากกา Pixelbook Pen ที่แยกน้ำหนักการกดบนหน้าจอมากถึง 2,000 ระดับ มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 12.3 นิ้ว สนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 999 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 33,346 บาท ส่วนราคาปากกาอยู่ที่ 99 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,304 บาท
- แว่นตา VR และ AR : แว่นตา Daydream View ใช้งานได้กับเทคโนโลยี VR และ AR มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สี ได้แก่ ดำ เทา และแดง เริ่มวางจำหน่ายปลายปีนี้
อย่างที่เราได้กล่าวไปในตอนต้นว่าความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์เซตใหม่นี้ของกูเกิลคือการนำปัญญาประดิษฐ์ AI อย่าง ‘Google Assistant’ มาแทรกซึมในโปรดักต์เกือบจะทุกๆ ตัว เพื่อช่วยพัฒนาขีดความสามารถการใช้งานของฮารด์แวร์ให้รอบด้านมากยิ่งขึ้น
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะปัจจุบันกูเกิลกำลังให้ความสำคัญกับเทรนด์การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เป็นอย่างมาก ครั้งหนึ่ง Sundar Pichai ซีอีโอบริษัทกูเกิลเคยให้สัมภาษณ์กับ The Verge ไว้ว่า “ปัญญาประดิษฐ์ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของเราสามารถเรียนรู้และปรับตัวได้ตลอดเวลา”
และด้วยการนำปัญญาประดิษฐ์มาปรับใช้ในผลิตภัณฑ์ของตัวเองได้อย่างเหมาะสมและชาญฉลาดเช่นนี้ ก็ทำให้สินค้าล็อตใหม่ของกูเกิลมีความพิเศษและสร้างความน่าสนใจได้มากต่างจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในท้องตลาดปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี โจทย์สำคัญในตอนนี้ที่กูเกิลต้องกระเทาะให้แตกคือพวกเขาจะเข้ามาแย่งสัดส่วนทางการตลาดจากค่ายผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือเจ้าอื่นๆ ได้อย่างไร?
เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์เทคโนโลยี Recode เพิ่งจะออกมาเปิดเผยว่า Pixel ยังมีสัดส่วนในตลาดสมาร์ทโฟนแค่ 0.7% เท่านั้น ต่างจากค่ายอย่าง Apple และ Samsung ที่ครองสัดส่วนการตลาดถึง 45.5% และ 29.5% ตามลำดับ
ถึงแม้ว่าหนทางจะยังอีกยาวไกล แต่หากกูเกิลสามารถนำเสนอนวัตกรรมสุดล้ำผสมผสานกับเทคโนโลยีดั้งเดิมที่บริษัทมีในมือได้เช่นนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆ พวกเขาก็อาจจะวิ่งตามค่ายคู่แข่งทันในเร็ววันก็ได้
อ้างอิง:
- www.blog.google/topics/hardware/the-best-hardware-software-and-ai-together
- www.blog.google/products/project-fi/device-setup-esim
- www.theverge.com/2017/6/14/15801242/google-1-million-pixel-phones-maybe
- www.theverge.com/2017/10/4/16405174/ceo-sundar-pichai-interview-google-ai-artificial-intelligence-interface
- www.recode.net/2017/10/4/16418170/google-pixel-market-share-2017-event-chart-data