ผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ฉลาดขึ้น Google Maps จองร้านอาหารได้ บรรณาธิการข่าว AI รวมหมัดเด็ดในงาน Google I/O 2018

Google I/O คือ งานประชุมสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ค่าย Google ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี แต่ละปีจะมีการเผยข้อมูลนวัตกรรม แอปพลิเคชันหรือระบบปฏิบัติการใหม่ๆ เด่นๆ จากบ้าน Google ออกมา ถ้าให้เทียบก็จะคล้ายๆ กับงาน F8 ของ Facebook หรือ WWDC ของ Apple โดย I/O ย่อมาจากคำว่า ‘Input’ และ ‘Output’ ทั้งยังมีความหมายรวมถึงสโลแกนประจำงานที่ว่า ‘เปิดนวัตกรรม (Innovation in the Open)’

ปีนี้ Google I/O 2018 จัดขึ้นที่ Shoreline Amphitheatre รัฐแคลิฟอร์เนีย ระหว่างวันที่ 8-10 พฤษภาคม รวมเป็นระยะเวลา 3 วัน งานในวันแรกเป็นการโชว์นวัตกรรมและการปรับปรุงบริการใหม่ๆ หลักๆ จะเน้นไปที่ผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกพัฒนาให้ฉลาดขึ้นไปอีกระดับมากเป็นพิเศษ ทั้งยังถูกนำไปใช้เป็นระบบ Curated แพลตฟอร์มอ่านข่าวของตัวเองขึ้นมาอีกด้วย

ส่วน Google จะมีอะไรเด็ดๆ ว้าวๆ มาให้เราได้ชมกันบ้างในปีนี้ THE STANDARD สรุปมาไว้ให้แล้ว

ผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ส่วนตัวที่ฉลาดขึ้น เป็นธรรมชาติกว่าเดิม และเพิ่มเติมคือ John Legend!

Google Assistant หรือผู้ช่วยส่วนตัวจาก Google คือปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกพัฒนาและเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อ 2 ปีที่แล้วในงาน I/O ปัจจุบันพวกมันอยู่ในอุปกรณ์เทคโนโลยีมากกว่า 500 ล้านเครื่อง ทำงานควบคู่กับอุปกรณ์อื่นๆ ภายในบ้านได้มากกว่า 5,000 ชิ้น ทั้งยังเชื่อมต่อกับรถยนต์ได้เกินกว่า 40 แบรนด์ โดยสิ้นปีนี้ Google บอกว่าพวกเขาจะให้บริการได้มากถึง 30 ภาษาใน 80 ประเทศ

เพราะเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่แบรนด์คู่แข่งก็พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ของตัวเองให้ฉลาดขึ้นกว่าเดิมเหมือนกัน มีหรือที่ Google จะยอมอยู่เฉย พวกเขาจึงได้เปิดตัวผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์เวอร์ชันใหม่ที่ถูกพัฒนาให้ฉลาด มีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่สำคัญยังต้องเป็นธรรมชาติราวกับมนุษย์อีกด้วย

AIGoogle Assistant ถูกออกแบบให้มีลักษณะการใช้ภาษาง่ายๆ คล้ายกับคน ผู้ใช้จะสามารถคุยกับมันด้วยรูปแบบคำถามที่หลากหลาย ไม่มีข้อจำกัดอีกต่อไป เช่น Google บอกว่าคนมักจะถาม Google Assistant ว่าวันนี้สภาพอากาศเป็นอย่างไร? แล้วคำถามเรื่องดินฟ้าอากาศที่ว่านี้ก็จะมีรูปประโยคที่ต่างกันมากถึง 10,000 แบบ ยกตัวอย่างที่แปลกที่สุดคือ ‘Will it be cats and dogs today?’ หรือวันนี้ฝนจะตกหนักหรือเปล่า? ซึ่งต่อไปนี้ผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ของ Google จะเข้าใจคำถามกำกวมหรือคำถามที่เป็นสำนวนเหล่านี้ และยังเข้าใจประโยคคำถามที่ซับซ้อนมากกว่าเดิมได้อีกด้วย

และต่อไปนี้เมื่อเรียกใช้ Google Assistant ไปแล้ว และต้องการเรียกใช้อีกครั้งก็ไม่จำเป็นต้องขึ้นต้นประโยคว่า ‘Hey Google’ หรือ Ok Google อีกต่อไป เพราะมันจะถูกพัฒนาให้เข้าใจผู้ใช้มากขึ้นผ่านฟีเจอร์ Continued Conversation ว่า ณ ขณะนี้คุณกำลังคุยกับมันหรือกำลังพูดกับคู่สนทนาอีกคน

เจ้าผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ยังถูกปรับปรุงให้มีน้ำเสียงลื่นไหลดูคล้ายมนุษย์มากขึ้น โดยมีรูปแบบน้ำเสียงให้เลือกใช้มากถึง 6 แบบ รวมถึงเสียงของศิลปินชื่อดังอย่าง ‘จอห์น เลเจนด์’ เจ้าของเพลง All of Me และ Love Me Now ที่จะเข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์คนใหม่ของ Google ด้วย! นอกจากนี้ยังมีโหมดสำหรับคุณหนูๆ เพียงผู้ใช้ที่เป็นเด็กพูดขึ้นต้นประโยคว่า ‘Pretty Please’ ผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ก็จะปรับโหมดการสื่อสารของมันให้สุภาพประดุจญาติผู้ใหญ่ใจดีคุยกับเด็กๆ

https://www.youtube.com/watch?v=4vOz_UutTHQ

นอกจากทักษะการเข้าใจรูปแบบประโยคและสำนวนภาษาที่หลากหลาย ตลอดจนน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น Google ยังได้ขยายขีดความสามารถและขอบเขตการทำงานของผู้ช่วยรายนี้ให้ครอบคลุมทุกด้านมากกว่าเดิม รวมถึงการโทรไปขอรับบริการต่างๆ อย่างเช่นการจองร้านอาหาร หรือซื้อตั๋วหนัง

Google Maps ใช้งานได้ง่ายกว่าเดิม แถมระบบ AR ช่วยบอกทาง

ไม่น่าเชื่อว่าเรามีระบบนำทาง Google Maps ใช้แทน GPS รูปแบบเดิมๆ มาเป็น 13 ปีแล้ว ซึ่งในงาน Google I/O 2017 ซันดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) ซีอีโอคนปัจจุบันของ Google เคยให้ข้อมูลไว้ว่า Google Maps มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคนไปแล้ว!

ในจำนวนนี้ผลสำรวจเมื่อปี 2016 ยังระบุเอาไว้ว่าผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS มากกว่า 69% เลือกใช้ Google Maps มากกว่าระบบนำทางอื่นๆ รวมถึง Apple Maps อีกด้วย และความสำเร็จของ Google Maps ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะแค่ฟลุกหรือโชคช่วย หากแต่อาศัยการพัฒนาและการเพิ่มศักยภาพในการให้บริการอย่างต่อเนื่อง

ปีนี้ Google จะพัฒนาระบบนำทางให้ใช้งานได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงนำผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์มาใส่ใน Google Maps ทำให้คุณไม่ต้องละสายตาจากถนนหรือกดออกจากตัวแอปฯ ก็สามารถส่งข้อความ เลือกเล่นเพลงหรือพอดแคสต์ และให้ผู้ช่วยส่วนตัวอ่านเมสเสจหรือสรุปใจความสำคัญของข้อความแบบไม่ต้องเปิดอ่านได้

ยิ่งไปกว่านั้น Google ยังเพิ่มฟีเจอร์การจัดลิสต์ร้านอาหารหรืออีเวนต์ต่างๆ ในบริเวณพิกัดที่คุณอยู่เพื่อให้ง่ายต่อไลฟ์สไตล์กินดื่มเที่ยวของทุกๆ คน โดยสามารถเลือกแชร์ให้เพื่อนๆ โหวตร้านที่อยากไปได้ พร้อมๆ กับการนำเทคโนโลยี AR เข้ามาใช้เพื่อให้ระบบนำทางมีประสิทธิภาพ ผู้ใช้สามารถวางแผนการเดินทางได้สะดวกกว่าที่เคย ผ่านการทำงานควบคู่กับ Street View ข้อมูลบนแผนที่และกล้องสมาร์ทโฟน

อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ คือการเพิ่มหมวดหมู่จักรยานยนต์ขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกพาหนะการเดินทาง พร้อมคาดการณ์ระยะเวลาที่ใช้เดินทางล่วงหน้าได้แล้ว

Google News แพลตฟอร์มอ่านข่าวที่มีปัญญาประดิษฐ์เป็นบรรณาธิการ!

ดูเหมือน Google จะบอกเราเป็นนัยว่าหมดยุคการให้คนมานั่งเลือกข่าวที่คุณควรรู้ในแต่ละวันแล้ว เพราะพวกเขาได้นำระบบปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้งานเป็นบรรณาธิการแพลตฟอร์มอ่านข่าว Google News เพื่อทำหน้าที่กรองและดึงข่าวที่น่าสนใจในแต่ละวันพร้อมจัดลิสต์มาให้เราอ่านแบบเสร็จสรรพ

Google บอกว่าในยุคที่มีเว็บไซต์มากกว่า 2 พันล้านเว็บ มีคอนเทนต์ออนไลน์ให้เลือกเสพนับจำนวนไม่ถ้วน นี่คือโจทย์ที่ยากมากถึงมากที่สุดในการรวบรวมทุกเรื่องราวย่อยให้ผู้บริโภคได้เลือกเสพภายใน 1 นาที พวกเขาจึงเลือกพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เพื่อคัดกรองรายงานข่าวที่ดีที่สุด 5 เรื่องเด่นในแต่ละวันจากนักวารสารศาสตร์ทั่วโลก (เว็บไซต์ข่าวชั้นนำ) มารวมไว้บนแพลตฟอร์ม Google News ประกอบไปด้วย ข่าวท้องถิ่น ข่าวใหญ่ระดับประเทศ และข่าวความเคลื่อนไหวของโลก

และบนหน้า Google News ของผู้ใช้แต่ละคน 5 ข่าวเด่นที่ถูกเลือกขึ้นมาก็จะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความสนใจของแต่ละบุคคลและสำนักข่าวที่เลือกกดติดตาม เมื่อเลือกกดเข้าไปอ่านในเนื้อข่าว ระบบก็จะลิงก์ไปยังหน้าเว็บไซต์ฉบับเต็มของข่าวนั้นๆ รวมถึงยังมีลิงก์ข่าวจากเว็บไซต์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้กดอ่านต่อได้ด้วย โดยจะเข้ามาทดแทน Google Play Newsstand และ Google News & Weather app ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ก่อนให้ใช้งานได้เต็มรูปแบบใน 127 ประเทศตั้งแต่ช่วงสัปดาห์หน้า

Android P ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่บนอุปกรณ์เทคโนโลยีและสมาร์ทโฟนชั้นนำ

เป็นที่ทราบกันดีว่าระบบปฏิบัติการ Android คือ OS บนสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมเป็นเบอร์ 1 ของโลก ณ ปัจจุบัน โดยข้อมูลจาก NetMarketShare เผยว่าช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา Android มีสัดส่วนผู้ใช้งานในตลาดมากที่สุดที่ 69.8% ตามมาห่างๆ ด้วย iOS ที่ประมาณ 28.6%

ขณะที่ Google บอกว่าย้อนหลังไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วที่พวกเขาเริ่มปล่อยระบบปฏิบัติการ Android ให้ใช้งานบนสมาร์ทโฟนครั้งแรกด้วยแนวคิดที่ว่า ‘free and open to everyone’ และแม้โลกจะหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปแค่ไหน การเปิดแพลตฟอร์มสำหรับผู้ใช้ทุกคนก็ยังเป็นคอนเซปต์เดิมที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

ในงาน Google I/O 2018 ได้มีการเผยโฉมระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวเต็มๆ ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ (ตอนนี้เริ่มปล่อยเวอร์ชัน Beta ให้นักพัฒนาทดลองใช้กันบนสมาร์ทโฟน Sony Xperia XZ2, Xiaomi Mi Mix 2S, Nokia 7 Plus, Oppo R15 Pro, Vivo X21, OnePlus 6 และ Essential PH‑1 แล้ว) โดยยังยึดสโลแกนเดิมคือเปิดกว้าง แต่เน้นความสำคัญของรูปแบบการใช้งานที่จะต้องฉลาดขึ้น ใช้งานง่ายกว่าเดิม

Android P ทำงานร่วมกับแมชชีนเลิร์นนิ่งเพื่อช่วยให้สมาร์ทโฟนของผู้ใช้แต่ละรายถูกปรับฟีเจอร์ลักษณะการใช้งานให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้ใช้คนดังกล่าวให้มากที่สุด และยังร่วมกับ DeepMind (บริษัทลูกผู้พัฒนาโครงการปัญญาประดิษฐ์ AlphaGO) พัฒนาฟีเจอร์ Adaptive Battery ช่วยให้สมาร์ทโฟนสามารถดูและจัดการประจุแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับการใช้งานได้อย่างชาญฉลาด

ส่วน App Actions จะเป็นฟีเจอร์ที่เข้ามาช่วยในการคาดการณ์การใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ล่วงหน้า (คำนวณจากพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ที่ได้รับการจดบันทึก) เพื่อทำให้การใช้สมาร์ทโฟนจัดการเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตประจำวันรวดเร็วและลดขั้นตอนความยุ่งยากไปได้เป็นกอง

อีกหนึ่งจุดเด่นที่จะลืมพูดถึงไปไม่ได้คือการลดทอน Navigation Bars คีย์ลัด 3 ปุ่มเอกลักษณ์ประจำระบบปฏิบัติการออกไปให้เหลือแค่ปุ่ม Back และ Home เท่านั้น เพื่อให้การใช้งานโดยรวมดูง่ายขึ้น รวมถึงเพิ่มหน้าต่าง Dashboard สรุปข้อมูลการใช้งานสมาร์ทโฟนแยกตามหมวดหมู่ออกมาให้ผู้ใช้ได้เห็นกันแบบจะๆ

Smart Reply ช่วยเขียนเมล Google Photos เปลี่ยนภาพขาวดำให้มีสีสัน และ Google Lens ทำงานคล้ายดวงตา

นอกจากการให้ความสำคัญเรื่องปัญญาประดิษฐ์ การเปิดตัวฟีเจอร์เรือธงใหม่ๆ ระบบปฏิบัติการ Android P รวมถึงแพลตฟอร์มอ่านข่าวแล้ว Google ยังมีลูกไม้เด็ดๆ อีกเป็นจำนวนมาก เราจึงทำการคัดเลือกเฉพาะบางส่วนที่น่าสนใจมาแนะนำให้รู้จักกันดังนี้

Smart Reply – ฟีเจอร์ช่วยตอบเมล ซึ่งจะคาดเดารายละเอียดตามเนื้อหาการสนทนา ช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วและความง่ายในการใช้งานให้กับผู้ใช้

Google Photos – เพิ่มความสามารถการแต่งภาพให้กับ Google Photos ทั้งการเปลี่ยนภาพขาวดำให้กลายเป็นภาพสี หรือโหมดการแต่งภาพตามคำแนะนำ ฯลฯ

Google Lens – เปลี่ยนกล้องสมาร์ทโฟนให้สามารถแยกแยะและทำความรู้จักส่ิงของต่างๆ ผ่านเลนส์กล้องได้ ตั้งแต่วัตถุสิ่งของยันประโยคตัวอักษร แล้วลิงก์ไปยังเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม

อ้างอิง: