Google I/O 2019 งานประชุมสำหรับนักพัฒนาประจำปีที่จัดขึ้นโดย Google ในวันแรกได้จบลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (งานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-9 พ.ค.) เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ซึ่งตามเวลาบ้านเราจะตรงกับช่วงเช้ามืด
และเช่นเคย งานคีย์โน้ตโดย Google ปีนี้ยังยกเอานวัตกรรมเจ๋งๆ เด็ดๆ ขนมาเปิดตัวกันเป็นจำนวนมาก ส่วนจะมีอะไรบ้างและน่าสนใจแค่ไหน THE STANDARD ได้สรุปเอาเฉพาะไฮไลต์สำคัญที่คุณต้องรู้เอาไว้ให้แล้ว
ผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ที่ฉลาดสุดๆ ‘Next Gen Google Assistant’
น่าจะเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ถูกอัปเกรดและเรียกเสียงฮือฮาอยากทดลองใช้งานมากที่สุดสำหรับผู้ช่วยส่วนตัว Google Assistant ที่เคลมว่าเป็น Next Generation สามารถเข้าใจคำสั่งของเราแล้วทำงานประมวลผลได้เร็วกว่าเดิมสูงถึง 10 เท่า ทำงานแบบ Multitask พร้อมๆ กันหลายคำสั่งในเวลาเดียวกันได้โดยไม่หน่วงหรือออกอาการดีเลย์ให้เห็นเลย
ตัวอย่างการสาธิตทดลองใช้งานบนเวทีแสดงให้เห็นว่า Google Assistant เวอร์ชันใหม่จะทำงานได้เร็วขึ้นจริง ไม่ว่าจะสั่งให้เปิดปฏิทิน, เครื่องคิดเลข, เปิดอัลบั้มรูปถ่าย, ตั้งเวลาถอยหลัง, ถามสภาพอุณหภูมิในวันนี้และวันพรุ่งนี้, เปิดหน้าทวิตเตอร์ของ จอห์น เลเจนด์ (ศิลปินที่มาร่วมให้เสียง Google Assistant เวอร์ชันใช้งานในสหรัฐฯ), เรียกใช้บริการรถร่วมเดินทางของ Lyft กลับโรงแรม, เปิดและปิดไฟฉายหรือถ่ายรูปเซลฟี คำสั่งทั้งหมดถูกป้อนต่อเนื่องและประมวลผลเป็นการทำงานจริงได้ภายในระยะเวลาแค่ราวๆ 37 วินาทีเท่านั้น! ถือว่าเร็วมาก ไม่ต้องเสียเวลาประมวลผลเหมือนผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ของค่ายคู่แข่งเจ้าอื่นๆ
Running on-device and coming to new Pixel phones later this year, the next generation Google Assistant can understand and process your requests up to 10 times faster, making operating your phone, multi-tasking and even composing email easier than ever. #io19 pic.twitter.com/iNPpOvwDM2
— Google (@Google) May 7, 2019
นอกจากนี้ผู้สาธิตยังโชว์ศักยภาพของ Google Assistant ที่สามารถเข้าใจคำสั่งเสียงของผู้ใช้งานได้ทันที โดยเข้าใจบริบทภาษาของมนุษย์มากขึ้นไม่ว่าจะซับซ้อนแค่ไหนก็ตาม เช่น สั่งให้ระบบตอบข้อความกลับ เปิดภาพถ่ายสัตว์ที่ถ่ายมาจากอุทยานแห่งชาติ Yellowstone แล้วส่งกลับไปหาเพื่อนทันที เขียนอีเมลตามคำสั่ง Google Assistant ก็เข้าใจได้หมดทุกคำสั่ง
Google Assistant Next Generation นี้จะมาพร้อมกับสมาร์ทโฟนพิกเซล Pixel รุ่นใหม่ในช่วงปลายปีนี้ ส่วนกำหนดการสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่ใช้งานระบบปฏิบัติการ Android ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการออกมา
เปิดตัวสมาร์ทโฟน Pixel รุ่นย่อย Pixel 3a และ Pixel 3a XL
หนึ่งในภารกิจสำคัญของ Google คือการทำให้เทคโนโลยีเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นสำหรับผู้ใช้งานทุกคน โดยแนวคิดนี้ได้ถูกนำมาใช้กับทุกๆ ผลิตภัณฑ์รวมถึงสมาร์ทโฟน ที่ล่าสุดได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ออกมาพร้อมกัน 2 โมเดล คือ Pixel 3a และ Pixel 3a XL เพื่อเจาะตลาดกลางในราคาที่เป็นมิตรกว่าเดิม สนนราคาเริ่มต้นของ Pixel 3a ที่ 399 เหรียญ หรือประมาณ 12,800 บาท ถูกกว่าเรือธงอย่าง Pixel 3 เกือบครึ่งต่อครึ่ง (Pixel 3 สนนราคาเริ่มต้น 799 เหรียญ)
Pixel 3a และ Pixel 3a XL มาพร้อมกับหน้าจอ OLED ที่ 5.6 นิ้ว และ 6 นิ้วตามลำดับ ความละเอียด 1080 x 2220 พิกเซล แสดงผลได้ 16 ล้านสี, วัสดุใช้กระจก Dragontrail Glass, รองรับระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie), ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm SDM670 Snapdragon 670, แรม 4 GB หน่วยความจำภายใน 64 GB (ไม่รองรับหน่วยความจำภายนอก), แบตเตอรี่ 3000 mAh (3a) และ 3700 mAh (3a XL), มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และรองรับการสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง, เคลมว่าชาร์จครั้งหนึ่งใช้งานได้ถึง 30 ชั่วโมง แต่ไม่รองรับการใช้งานชาร์จไร้สาย, มีให้เลือกด้วยกันถึง 3 สี ประกอบด้วย ดำ Just Black, ขาว Clearly White และม่วง Purple-ish
ส่วนความสามารถด้านกล้องยังเป็นจุดแข็งของ Pixel เช่นเคย แม้จะถูกลดสเปกให้เป็นรุ่นประหยัด โดยความละเอียดของกล้องหลัง Pixel 3a และ 3a XL อยู่ที่ 12.2 ล้านพิกเซล (f/1.8) กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล (f/2.0) ซึ่ง The Verge ได้รีวิวประสิทธิภาพตัวกล้องว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอดเยี่ยมไม่เสียชื่อ Pixel โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไป ส่วนการสาธิตบนเวทีก็เผยให้เห็นว่ามันสามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีมากๆ
ที่น่าเสียดายก็คือ Pixel 3a และ Pixel 3a XL เริ่มวางขายแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เฉพาะใน 13 ประเทศเท่านั้น และแน่นอนว่า Google ประเทศไทยยังไม่มีแพลนนำเข้าสมาร์ทโฟนทั้ง 2 โมเดลนี้มาวางจำหน่ายตามคาด ซึ่งถ้าใครอยากได้ก็ต้องซื้อเครื่องหิ้วมาใช้ไปก่อน
ยลโฉม Android Q เสิร์ชเอนจินที่เหนือชั้นขึ้นไปอีกระดับ และ Google Maps เตรียมนำทางแบบ AR ได้
Google เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีอุปกรณ์ที่ใช้งานระบบปฏิบัติการของ Android มากถึง 2.5 พันล้านเครื่องแล้ว โดยใน Android Q ซึ่งจะเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นถัดไปของ Android จะถูกพัฒนาให้รองรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ในอนาคตอันใกล้ ทั้งฮาร์ดแวร์ในกลุ่ม Foldable จอพับได้, 5G (คาดการณ์ว่าปีนี้จะมีผู้ให้บริการสัญญาณมือถือเปิดตัวสัญญาณ 5G มากกว่า 20 เจ้า) นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เด็ดๆ ยิบย่อยอีกเพียบ อาทิ
- Live Caption – ประมวลผลเสียงที่ได้ยินจากวิดีโอที่ถ่ายแล้วแปลงเป็นซับไตเติลได้แบบอัตโนมัติและเรียลไทม์ ที่สำคัญทำงานได้โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต!
- Smart Reply – ตอบกลับแชตหรือข้อความแบบสั้นๆ ได้
- Dark Theme – เพิ่มโหมด Dark ในการใช้งานตัวเครื่องเพื่อช่วยประหยัดแบตเตอรี่
- มีฟีเจอร์การใช้งานมากเกือบ 50 ตัวที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน เช่น โหมด Privacy Setting ในหน้าการตั้งค่า Setting ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานตั้งค่าการแชร์ข้อมูลทุกอย่างแบบจบในที่เดียว
- Focus Mode – ตัวช่วยควบคุมและตัดการรบกวนจากการแจ้งเตือนที่ไม่ต้องการออกไปในระหว่างที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนต้องการจริงจังกับงาน
ส่วนเสิร์ชเอนจิน ฐานรากสำคัญของภาคบริการโดย Google (มีคำถามถูกเสิร์ชบนแพลตฟอร์ม Google มากกว่า 1 พันล้านคำถามในแต่ละวัน) ก็จะถูกอัปเกรดใหม่เหมือนกัน ที่เห็นชัดที่สุดคือการทำงานร่วมกับ AR เพื่อให้คำค้นหา วัตถุ หรือสินค้าที่เราเสิร์ชปรากฏบนกล้องรูปได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น กล้ามเนื้อแขน รองเท้าแบรนด์ New Balance ยันปลาฉลาม!
AR shark, doo doo doo doo doo doo…#io19 pic.twitter.com/yHIMdBjhDb
— Google (@Google) May 7, 2019
Often, seeing is understanding. New features in Google Search and Google Lens use the camera, computer vision and AR to overlay visual information onto your physical surroundings → https://t.co/rrvrEE60Hl #io19 pic.twitter.com/yCEO1gIky4
— Google (@Google) May 7, 2019
ขณะที่ Google Lens จะทำงานและช่วยอ่านข้อความที่ปรากฏบนภาพถ่ายได้อย่างชาญฉลาดแม่นยำและง่ายมาก หรือจะแปลงเป็นภาษาอื่นก็ทำได้เนียนกว่าเคย เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานที่มีปัญหาด้านการมองเห็นหรือการอ่านสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างไร้ข้อจำกัด (รองรับภาษาไทย)
ปิดท้ายด้วยฟีเจอร์ใหม่ของ Google Map ที่หลายคนรอคอย โดยในช่วงเปิดตัวสมาร์ทโฟน Pixel 3a และ Pixel 3a XL ได้มีการเผยฟีเจอร์ใหม่ที่ว่านี้ออกมา นั่นคือการนำทางในโหมดเดินแบบ AR ที่จะมีลูกศรขึ้นมาบอกทางให้เห็นในระหว่างที่เปิดใช้แบบเรียลไทม์ รวมถึงหมุดปลายทางที่แสดงว่าคุณถึงที่หมายแล้ว แต่ยังไม่มีประกาศวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการออกมา (คาดว่าในช่วงแรกน่าจะเริ่มรองรับการใช้งานกับ Pixel ก่อน)
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า