จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แล้วสำหรับ Google for Thailand สเตฟานี เดวิส Managing Director ของ Google Southeast Asia กล่าวว่าในปีนี้สิ่งที่ Google ต้องการผลักดันมี 4 เรื่องด้วยกันคือ ทำให้คนไทยมีโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยี, การส่งเสริมทักษะดิจิทัล, การพัฒนาเนื้อหาและผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของคนไทย และการสนับสนุน SMEs
“สิ่งที่ Google คือเพิ่มความเท่าเทียมให้คนไทย สร้างโอกาสเพื่อคนไทย และเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นกับคนไทยทุกคน”
ปีที่ผ่านมา Google มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย ทั้งการเพิ่มฟีเจอร์ Google Maps ให้มีระบบ AR มาช่วยนำทาง Google Lens ซึ่งค้นหาข้อมูลจากภาษาไทยได้แล้ว และล่าสุดกับการเปิดตัวบริการ YouTube Music และ YouTube Premium ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน Google ประกาศขยายการให้บริการ Google Station ซึ่งเป็นบริการฟรี WiFi ความเร็ว 30/30 Mbps ปัจจุบันครอบคลุมสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทยมากกว่า 100 แห่ง ทั้งในตลาด ศูนย์การค้า สนามบิน ฯลฯ ครอบคลุม 24 จังหวัดทั่วประเทศ โดยนับตั้งแต่ที่เปิดตัวมามีผู้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Google Station ในไทยไปแล้วมากกว่า 2 ล้านคน และใช้เวลาเฉลี่ยเกือบ 2 ชั่วโมง
ไมค์ จิตติวาณิชย์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด Google ประเทศไทย เป็นรายถัดไปที่ขึ้นมา โดยเขากล่าวว่า Google พัฒนาผลิตภัณฑ์โดยมุ่งมั่นที่จะเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับโอกาสที่เกิดจากเทคโนโลยี และต้องการให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ปีที่แล้ว Google ได้ร่วมมือกับ True Digital Park เปิดตัว Academy Bangkok เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับการสร้างทักษะดิจิทัลให้กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งในเวลา 6 เดือนมีนักศึกษาและผู้ที่อยู่ในสายงานดิจิทัลเข้าฝึกอบรมแล้วกว่า 2,000 คน
สำหรับปีนี้ได้เปิดตัว Grow with Google ซึ่งเป็นโครงการฝึกอบรมเกี่ยวกับทักษะดิจิทัลผ่านการใช้เครื่องมือของ Google เบื้องต้นจะมีการเปิดตัว 2 เรื่องคือ Skillshop สำหรับการฝึกอบรมผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่ใช้เครื่องมือและโซลูชันสำหรับผู้เชี่ยวชาญของ Google และ Primer รวบรวมบทเรียนสำหรับการพัฒนาทักษะทางธุรกิจและการตลาดดิจิทัลที่มีความยาวไม่เกิน 5 นาที และมีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย โดยเตรียมร่วมมือกับ Google ในการผลิตบทเรียน 40 บทใน 8 หมู่
ขณะเดียวกันประเทศไทยได้เป็นประเทศแรกในเอเชียแปซิฟิกในการเปิดตัวโครงการ Be Internet Awesome เพื่อให้ความรู้กับนักเรียนเกี่ยวกับการท่องโลกออนไลน์อย่างปลอดภัย พร้อมมีเกม Interland ซึ่งจะช่วยให้เรียนรู้การใช้อินเทอร์เน็ตได้ดียิ่งขึ้น
อีกหนึ่งไฮไลต์ของงานในปีนี้คือการประกาศเกี่ยวกับการขยายงานวิจัยในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ในการคัดกรองภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตา (Diabetic retinopathy) โดยปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคเบาหวานกว่า 4.5 ล้านราย ในขณะที่ทั้งประเทศมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านดวงตาที่ตรวจโรคนี้ได้เพียง 1,500 คน
โดยนับตั้งแต่ที่งานวิจัยเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา Google และโรงพยาบาลราชวิถี สังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นพันธมิตรได้ขยายงานวิจัยในคลินิกเพิ่มขึ้นจาก 1 แห่งเป็น 8 แห่ง ครอบคลุม 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ปทุมธานี และเชียงใหม่ Google กล่าวว่ามีเป้าหมายในระยะยาวคือต้องการช่วยให้คนไทยได้รับการตรวจคัดกรองภาวะเบาหวานขึ้นจอประสาทตาอย่างทั่วถึง เพื่อช่วยป้องกันการตาบอดในผู้ป่วยเบาหวานในไทยได้มากขึ้น
นอกจากนี้ Google ยังได้เปิดตัวโปรเจกต์ใหม่บน Google Arts & Culture ที่มีชื่อว่า Hidden Fruits ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ 5 ของนิทรรศการวังหน้า เพิ่มเติมจาก 4 เรื่องราวที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดย Google ได้ทำงานร่วมกับกรมศิลปากร ภายใต้การสนับสนุนจากท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน
โดยใช้กล้อง Art Camera บันทึกภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ให้เป็นไฟล์ภาพที่มีความละเอียดสูงขนาดกิกะพิกเซล ซึ่งมีความละเอียดมากกว่า 1 พันล้านพิกเซล เพื่อให้สามารถชื่นชมรายละเอียดที่สวยงามและสลับซับซ้อนของภาพจิตรกรรมอันล้ำค่านี้ได้อย่างเต็มตาผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์
สุดท้าย Google My Business เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้ร้านค้าสามารถสร้างหน้าร้านออนไลน์ของตัวเอง ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสามารถเจอบน Google Maps หรือ Google Search โดยจากการสำรวจพบว่าธุรกิจที่ใส่รูปภาพลงในข้อมูลของตนได้รับคำขอเส้นทางจากลูกค้าเพิ่มขึ้น 40% และลูกค้า 90% มักเลือกธุรกิจที่มีรูปภาพบน Google Search และ Google Maps
ก่อนหน้านี้ได้มีการร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ซึ่งทำให้ธุรกิจ SMEs กว่า 1.5 แสนรายที่ลงทะเบียนมีธุรกิจปรากฏอยู่บน Google Search และ Google Maps อย่างไรก็ตาม ภายในสิ้นเดือนนี้จะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปฯ SCB Easy ได้เลย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์