เมื่อสิ้นสุดสัปดาห์ก่อน ตลาดหุ้นในฮ่องกงและจีนได้ปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่ารัฐบาลจีนจะผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero-COVID Policy) อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs กลับมองว่าการเปิดประเทศของจีนอาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน
แม้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีนได้ยืนยันจุดยืนของรัฐบาลในการยึดมั่นต่อนโยบาย Zero-COVID ขณะที่ประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลกทยอยยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดแล้วก็ตาม แต่นักลงทุนยังคงมองตลาดจีนในแง่ดีอยู่ โดยในวันนี้ (7 พฤศจิกายน) ดัชนี Hang Seng Tech ได้พุ่งขึ้นกว่า 5% ช่วงสั้นๆ ในการซื้อ-ขายช่วงเช้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สรุป 5 ประเด็นเศรษฐกิจสำคัญ จากสุนทรพจน์ ‘สีจิ้นผิง’ เปิดประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน
- จริงหรือที่ ‘อินเดีย’ กำลังจะเป็นโรงงานของโลกแห่งใหม่ต่อจากจีน? ถึงขั้นที่การผลิต 1 ใน 4 ของ ‘iPhone’ จะย้ายมาที่นี่ภายในปี 2025
- บริษัทเทคฯ ชั้นนำระดับโลกมุ่งลงทุนในเวียดนาม หลังจีนไร้วี่แววคลายนโยบาย Zero-COVID
ด้านนักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs นำโดย ฮุ่ยซาน ระบุว่า การเปิดประเทศอีกครั้งของจีนน่าจะยังอยู่ห่างออกไปหลายเดือน เนื่องจากอัตราการฉีดวัคซีนในผู้สูงอายุยังต่ำ และอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยในกลุ่มผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนยังสูง
นอกจากนี้รัฐบาลจีนยังมีแนวโน้มที่จะยึดมั่นในนโยบาย Zero-COVID จนกว่าการเตรียมการทางการแพทย์ที่จำเป็นทั้งหมดจะเสร็จสิ้น โดยสถิติล่าสุดของรัฐบาลฮ่องกงระบุว่า มีเพียง 60.81% ของผู้ที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไปที่ได้รับวัคซีนทั้งหมด 3 โดส
ตามข้อมูลของรัฐบาลฮ่องกงแสดงให้เห็นว่า อัตราการเสียชีวิตของผู้ที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไปที่ไม่ได้รับวัคซีนอยู่ที่ 14.79% ขณะที่อัตราการเสียชีวิตของผู้ที่อยู่ในกลุ่มอายุเดียวกันที่ได้รับวัคซีน 3 โดสแล้วนั้นต่ำกว่ามากที่ประมาณ 1.48%
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs อีกทีม ซึ่งรวมถึง คินเกอร์ หลิว ประเมินว่า การเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้งของจีนสามารถดันหุ้นจีนได้ถึง 20% พร้อมยืนยันคาดการณ์เดิมที่ว่าจีนจะสามารถกลับมาเปิดประเทศได้อีกครั้ง ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2023
อ้างอิง: