ทีมผู้เชี่ยวชาญของ Goldman Sachs นำโดย เดวิด เมริเคิล (David Mericle) นักเศรษฐศาสตร์ ออกมาคาดการณ์ทิศทางและสถานการณ์เงินเฟ้อในปี 2022 ของสหรัฐฯ โดยระบุว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่ขยับปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ต้องงัดมาตรการที่แข็งกร้าวขึ้นมาใช้เพื่อสกัดไม่ให้เงินเฟ้อขยับขึ้นสูงเกินไป
สำหรับมาตรการที่แข็งกร้าวนี้ หมายรวมถึงการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าและบ่อยครั้งกว่าที่ Fed ประกาศออกมาก่อนหน้านี้
นักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวเร็วขึ้นกว่าที่ Fed คาดการณ์ไว้ บีบให้ Fed จำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่กำหนดตามไปด้วย
ในมุมมองของเมริเคลิ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 4 ครั้งในปีนี้ คือในเดือนมีนาคม, มิถุนายน, กันยายน และธันวาคม หรือเฉลี่ยทุกๆ ไตรมาส อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ที่ทางคณะกรรมการกำกับนโยบายกายเงินของ Fed (FOMC) จะต้องการใช้มาตรการเชิงรุกที่แข็งกร้าวในทุกครั้งหลังเสร็จสิ้นการประชุมตามกำหนดวาระ จนกว่าที่สถานการณ์เงินเฟ้อจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ต้องการ
ความเห็นครั้งนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนหน้าที่คณะกรรมการกำกับนโยบายการเงินของ Fed จะจัดประชุมขึ้นเป็นเวลา 2 วัน เริ่มต้นในวันอังคารที่ 25 มกราคมนี้
รายงานระบุว่าตลาดส่วนใหญ่ไม่ได้คาดหวังกับผลการประชุมในครั้งนี้มากนัก กล่าวคือ Fed ยังไม่น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ แต่มีแนวโน้มที่ทางคณะกรรมการ Fed จะเผยระดับตัวเลขอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับขึ้นให้มีความชัดเจน และเดือนมีนาคมยังคงเป็นเดือนแรกที่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2018
เมริเคิลอธิบายว่า การระบาดขอโอมิครอนทำให้สถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยรวมขาดสมดุลระหว่างความต้องการบริโภคสินค้าที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น (Demand) กับความต้องการใช้วัตถุดิบในการผลิต (Supply) ที่ปรับตัวลดลง จนถึงขั้นขาดแคลนในบางอุตสาหกรรม โดยความต้องการสินค้ายังมีแนวโน้มพุ่งทะยานมากขึ้น อันเป็นผลจากค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ในจดหมายที่ส่งตรงถึงสมาชิก เมริเคิลคาดว่า คณะกรรมการ FOMC ของ Fed น่าจะต้องการให้มีการใช้มาตรการคุมเข้มในทุกๆ การประชุมที่จะมีขึ้นในปีนี้ ขณะที่ข้อมูลจาก CME ระบุว่า 95% ของเหล่าเทรดเดอร์ มั่นใจว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมีนาคมนี้ และอีก 85% เห็นว่า ในปี 2022 นี้ Fed น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 4 ครั้ง
นอกจากนี้ในส่วนของการยุติโครงการซื้อคืนพันธบัตรรัฐบาลรายเดือน หรือโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ทาง Goldman Sachs มองว่า Fed น่าจะยุติโครงการดังกล่าวได้อย่างเบ็ดเสร็จในเดือนพฤษภาคม
ขณะเดียวกัน นักลงทุนส่วนใหญ่ต่างรอดูรายงานประจำเดือน โดยเฉพาะการเติบโต GDP สหรัฐฯ ในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ซึ่งเบื้องต้นวิเคราะห์คาดการณ์ว่า GDP สหรัฐฯ ในไตรมาส 4 ปี 2021 น่าจะเติบโตได้ที่ 5.8% ขณะที่อีกหนึ่งตัวเลขที่ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ คือดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์ที่ 28 มกราคมนี้
อ้างอิง:
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP