นักกลยุทธ์ของ Goldman Sachs เปิดเผยว่า ความตึงเครียดที่สูงขึ้นในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนอาจส่งผลไปยังตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชีย และจะทำให้รายได้และผลตอบแทนภายในภูมิภาคหดตัวลง จึงได้ลดราคาเป้าหมายสำหรับดัชนี MSCI Asia Pacific (ไม่รวมญี่ปุ่น)
Timothy Moe นักยุทธศาสตร์ของ Goldman Sachs กล่าวว่า “เราได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของรายได้ในภูมิภาคเอเชียในปีนี้ จาก 0% เหลือ -2% หลังจากคำนึงถึงประมาณการที่ปรับปรุงแล้วของจีน เนื่องจากความเสี่ยงด้านสินทรัพย์และความเชื่อมโยงระหว่างจีนกับเอเชีย เช่น ออสเตรเลีย ฮ่องกง และมาเลเซีย”
โดย Moe และทีมงานได้ลดเป้าหมาย 12 เดือนข้างหน้า สำหรับดัชนี MSCI Asia Pacific (ไม่รวมญี่ปุ่น) จาก 580 จุด เป็น 555 จุด
นอกจากนี้ยังได้ลดเป้าหมายดัชนีใน 3 เดือนจาก 540 จุด เป็น 505 จุด และเป้าหมาย 6 เดือนจาก 560 จุด เป็น 530 จุด และยังได้ลดเป้าหมายดัชนีในเดือนพฤษภาคมด้วย ซึ่งตั้งแต่นั้นมาดัชนีก็ปรับตัวลงประมาณ 3%
หุ้นอสังหาของจีนเกือบจะสูญเสียมูลค่าทั้งหมดที่ปรับเพิ่มขึ้นมาในช่วงขาขึ้นเมื่อปีก่อน สะท้อนว่านักลงทุนมีความกังวลต่อภาคส่วนนี้ แม้จะมีมาตรการต่างๆ จากทางการจีนเพื่อสนับสนุนตลาดบ้างแล้วก็ตาม นอกจากนี้นักลงทุนทั่วโลกได้แห่เทขายหุ้นบลูชิพของจีน ซึ่งนับเป็นการไหลออกของเงินทุนที่ยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์
ความเคลื่อนไหวของ Goldman Sachs ในการลดเป้าหมายหุ้นในเอเชีย-แปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากที่ Goldman Sachs ลดมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นจีนเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน โดยอ้างถึงความตึงเครียดที่แผ่ขยายยิ่งขึ้นในภาคอสังหาและการขาดมาตรการกระตุ้นที่มีประสิทธิภาพจากรัฐบาลจีน
อย่างไรก็ดี นักกลยุทธ์ยังคงให้น้ำหนักหุ้นเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีน มากกว่าตลาด จากการฟื้นตัวของกำไรในปีหน้า การปรับปรุงการกำกับดูแลกิจการ และนโยบายสนับสนุนตลาดที่อาจจะเกิดขึ้น
อ้างอิง: