Golden Goose แบรนด์รองเท้าและแฟชั่นชื่อดังจากอิตาลี รายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ที่เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวของปีที่แล้ว ด้วยรายได้ทั้งหมด 164.5 ล้านยูโร หรือราว 6 พันล้านบาท และมียอดขายเพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสก่อนหน้า
Golden Goose มีรายได้จากกลยุทธ์แบบ Direct-to-Consumer เพิ่มขึ้น 19% นับว่าเท่ากับ 76% จากรายได้ทั้งหมดเมื่อเทียบกับ 71% ของไตรมาสแรกของปีก่อน ซึ่งเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทางแบรนด์เติบโตขึ้น 30% ในยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา และเติบโตขึ้น 13% ในอเมริกา ในขณะที่ในฝั่งเอเชีย-แปซิฟิกนั้นแบรนด์เติบโตขึ้น 9% โดยในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ Golden Goose มีร้านทั้งหมด 218 แห่ง และได้ทำการเปิดร้านใหม่ 3 แห่งภายในช่วงเวลานี้ด้วย
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Golden Goose ได้เปิดร้านป๊อปอัพที่ห้าง Selfridges Corner Shop ในกรุงลอนดอนที่นับเป็นการตีตลาดอังกฤษครั้งใหญ่ โดยแบรนด์โฟกัสกับการ Co-Creation และการร่วมกันรังสรรค์ให้พื้นที่ให้กลายเป็นเสมือนร้านขายของแอนทีก โดยใช้ชื่อว่า The Archive of Dreams นอกจากนั้น Golden Goose ยังเปิดร้านป๊อปอัพที่มะนิลา ฟิลิปปินส์ และยังเปิดร้านที่เน้นคอนเซปต์การให้ประสบการณ์กับลูกค้าและการ Co-creation ในย่าน Meatpacking District แห่งมหานครนิวยอร์ก ซึ่งนับเป็นสโตร์ที่ 4 ของแบรนด์ในนิวยอร์กแล้ว
ภาพ: Golden Goose
อ้างอิง:
