×

ทองคำกลับมายืนเหนือ 1,800 เหรียญ ทำจุดสูงสุดในรอบ 3 เดือน จากแรงหนุนของตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อ

11.05.2021
  • LOADING...
ราคาทองคำ

ราคาทองคำในตลาดโลกฟื้นตัวกลับมาทำจุดสูงสุดในรอบ 3 เดือน โดยขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 1,843 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 พฤษภาคม) ก่อนที่ราคาจะย่อตัวลงมาอยู่ที่ราว 1,835 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันนี้ 

 

เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2563 ราคาทองคำพุ่งทะลุ 2,000 ดอลลาร์ ก่อนจะอ่อนตัวลงมาแตะระดับ 1,680 ดอลลาร์ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นราคาค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมาเพิ่มขึ้นเกือบ 10% 

 

 

ขณะที่ข้อมูลจาก World Gold Council ระบว่า กองทุน ETFs ที่ลงทุนในทองคำทั่วโลก ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ยังคงขายสุทธิในทองคำรวม 18.3 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์ เป็นการขายออกเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นการขายออก 5 เดือน จาก 6 เดือนหลังสุด 

 

สำหรับปัจจัยที่หนุนให้ราคาทองคำวิ่งขึ้นมาในช่วงเดือนเมษายนคืออัตราเงินเฟ้อที่คาดว่าจะปรับสูงขึ้น ประกอบกับความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในอินเดีย ส่งผลให้การคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้เร็วมีมุมมองที่เปลี่ยนไป ทั้งนี้ World Gold Council มองว่า สถานะซื้อขายสุทธิของทองคำในตลาด COMEX และ ETFs จะเป็นตัวบ่งชี้สำคัญที่จะต้องจับตาดูในระยะถัดไป

 

ด้าน เบญจมา มาอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล (YLG) มองว่า ราคาทองคำที่วิ่งทะลุแนวต้านเชิงจิตวิทยาในระดับ 1,800 ดอลลาร์ ทำให้นักเก็งกำไรตามโมเมนตัมเข้ามาไล่ซื้อตาม จนราคาดีดขึ้นไปต่อได้ ประกอบกับแรงซื้อเพื่อปิดสถานะขายของนักลงทุนบางส่วนเข้ามาเป็นแรงหนุน

 

ในเชิงพื้นฐาน การที่ราคาทองคำทะลุขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ เป็นผลจากการที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เช่น อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นจาก 6% เป็น 6.1% สวนทางกับที่หลายฝ่ายประเมินไว้ก่อนหน้านี้ 

 

“ตัวเลขเศรษฐกิจจริงที่ออกมาน่าผิดหวัง ทำให้นักลงทุนที่คาดว่าเศรษฐกิจจะแข็งแกร่ง และคาดการณ์ว่า Fed มีโอกาสสูงที่จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมปีหน้า มุมมองดังกล่าวเริ่มเปลี่ยนแปลง และนักลงทุนเริ่มประเมินว่าการขึ้นดอกเบี้ยอาจจะเลื่อนไปถึงเดือนมีนาคม ปี 2566 ซึ่งปัจจัยนี้กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าและหนุนทองคำอย่างชัดเจน”

 

สำหรับแนวโน้มของราคาทองคำในระยะถัดไปเชื่อว่าจะซื้อขายในกรอบ 1,800-1,900 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านสำคัญที่ต้องจับตาบริเวณ 1,860 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับค่าเฉลี่ย 200 วัน หากสามารถทะลุขึ้นไปได้จะทำให้กรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำขยับขึ้นไปอีก 

 

นอกจากนี้ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือ ตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หนุนให้ราคาทองคำปรับขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จากตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อ 10 ปี ขยับขึ้นแตะ 2.47% สูงสุดในรอบ 8 ปี กดดันให้อัตราผลตอบแทนที่แท้จริง (Real Yield) ติดลบมากขึ้น 

 

“ในระยะสั้นแม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะออกมาแย่กว่าที่คิด ทำให้อัตราคาดการณ์เงินเฟ้อลดลง แต่ในระยะกลางถึงยาวยังมีแนวโน้มที่เงินเฟ้อจะยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ จนกว่าที่ Fed จะเริ่มออกนโยบายเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่เข้มข้นขึ้น”

 

กลยุทธ์การลงทุนในขณะนี้แนะนำเข้าซื้อสะสมทองคำหากราคาอ่อนตัวลงมาใกล้ระดับ 1,800 ดอลลาร์ ส่วนนักลงทุนระยะสั้นแนะนำวางจุดตัดขาดทุนหากราคาลดลงไปต่ำกว่า 1,799 ดอลลาร์ 

 

ด้าน รอสส์ นอร์แมน ซีอีโอของ Metal Daily กล่าวว่า ช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำพยายามทดสอบระดับ 1,800 ดอลลาร์ถึง 5 ครั้ง ก่อนจะทะลุขึ้นมาได้ในที่สุดด้วยแรงหนุนสำคัญจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ซึ่งปรับตัวลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนที่แท้จริงกำลังปรับลดลงไปสู่ระดับ -1% อีกครั้ง 

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X