ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง หลังความกังวลเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลางทำให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำเพิ่มสูงขึ้น
ขณะที่ราคาทองคำแท่งในประเทศไทย ราคารับซื้ออยู่ที่ 33,950 บาทต่อบาททองคำ และขายออกอยู่ที่ 34,050 บาทต่อบาททองคำ
นับจากกลุ่มฮามาสเข้าโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ราคาทองคำแท่งในตลาดได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแล้วราว 9% โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 2,006.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำสถิติสูงสุดในรอบหลายเดือน และขยับเข้าใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 2,075.47 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2020
“การเริ่มต้นปฏิบัติการภาคพื้นดินในฉนวนกาซาของอิสราเอล ทำให้ความเสี่ยงที่ความขัดแย้งจะขยายวงมีสูงขึ้น ทำให้ความต้องการทองคำซึ่งถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้นตามไปด้วย” Bart Melek, กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของ TD Bank ระบุ
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การปรับขึ้นของราคาทองคำในรอบนี้ไม่ใช่สถานการณ์ที่ปกติ เนื่องจากโดยทั่วไปราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวสวนทางกับผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งในเดือนนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี อยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี แต่ราคาทองคำก็ยังคงปรับเพิ่มสูงขึ้น
ภาวะดังกล่าวสะท้อนว่านักลงทุนให้น้ำหนักกับความเสี่ยงที่สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ฮามาสจะลุกลามจนส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันโลก ซึ่งในกรณีที่ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นจะนำไปสู่การเร่งตัวของเงินเฟ้อที่จะกดดันให้ธนาคารกลางทั่วโลกต้องดูแลเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงิน
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวอีกว่า ปัญหาหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ เพราะแม้ว่าสภาคองเกรสจะอนุมัติกฎหมายขยายเพดานหนี้ได้ แต่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้สหรัฐฯ ที่มักถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมืองก็ทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งเลือกลงทุนในทองคำแทนพันธบัตรสหรัฐฯ
อ้างอิง: