ธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการบริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด กล่าวว่า ปี 2563 มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็น 3 ประเด็นที่ต้องติดตาม ได้แก่
1. ข่าวสถานการณ์ความไม่สงบ เช่น เหตุระเบิดที่เลบานอน โดยพื้นฐานจะเป็นผลบวกต่อราคาทอง ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร จึงขอให้นักลงทุนสังเกตว่าหากเห็นแนวโน้มความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นควรเข้าซื้อทองเก็บไว้
2. เมื่อดัชนีหุ้นลงหนักจนกระทบตราสารหนี้ เป็นจุดที่ต้องระมัดระวัง เพราะราคาทองคำอาจจะลดลงหนักเช่นกัน
3. นโยบายการเงิน เมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว มักส่งผลให้ราคาทองคำปรับขึ้นแรงเสมอ ส่วนหนึ่งเพราะตลาดมองว่านโยบายการเงินจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
อย่างไรก็ตาม หากย้อนดูเหตุการสำคัญตั้งแต่ต้นปี 2563 จะเห็นผลกระทบที่เกี่ยวเนื่องระหว่างเหตุการณ์และการเปลี่ยนแปลงราคาทองคำ ได้แก่
3 มกราคม 2563 – เหตุการณ์โดรนสหรัฐฯ สังหารผู้นำทหารอิหร่าน ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นสู่ระดับ 1,552 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากช่วงก่อนหน้าที่อยู่ราว 1,528 ดอลลาร์ต่อออนซ์
8 มกราคม 2563 – องค์การอนามัยโลก (WHO) เริ่มรายงานการระบาดโควิด-19 ระบาด ส่งผลให้ราคาทองคำมีจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ 1,611 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนราคาปิดตลาดจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1,556 ดอลลาร์ต่อออนซ์
11 มกราคม 2563 – เหตุการณ์อิหร่านยิงเครื่องบินพาณิชย์ยูเครนตก ทำให้ราคาทองคำขยับขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 1,562 ดอลลาร์ต่อออนซ์
1 กุมภาพันธ์ 2563 – อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ทำให้เกิดแรงเทขายทองคำเพื่อทำกำไร โดยวันนั้นมีราคาเปิดตลาดที่ 1,593 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และปิดตลาดที่ 1,576 ดอลลาร์ต่อออนซ์
3 มีนาคม 2563 – เมื่อสถานการณ์ระบาดโควิด-19 กระจายไปทั่วโลก ส่งผลให้ราคาทองคำขยับขึ้นสู่ 1,640 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากราคาเปิดตลาดที่ 1,588 ดอลลาร์ต่อออนซ์
12 มีนาคม 2563 – ความกังวลจากการระบาดของโควิด-19 กระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก และตลาดหุ้นดิ่งหนักทั่วโลก ขณะที่ราคาทองคำก็ร่วงลงแรงเช่นกัน เนื่องจากเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่า
20 มีนาคม 2563 – รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ทั้งประเทศเนื่องจากการระบาดโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนกังวลปัญหาหนี้เสีย จึงเทขายตราสารหนี้อย่างหนัก ส่งผลให้กองทุนตราสารหนี้ในประเทศทยอยปิดตัวลง ขณะที่ราคาทองคำยังลงหนักต่อเนื่อง
23 มีนาคม 2563 – ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประกาศทำ QE ไม่จำกัดวงเงิน มีการพิมพ์เงินแบบไม่จำกัดเพื่ออุ้มตราสารหนี้และกระตุ้นเศรษฐกิจ ราคาทองคำจึงพุ่งขึ้นจาก 1,498 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็น 1,554 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหลังจากนั้นราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง
27 กรกฎาคม 2563 – ลิเวอร์พูลได้แชมป์พรีเมียร์ลีกในรอบ 30 ปี เป็นวันเดียวกับราคาทองทำสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ 1,940 ดอลลาร์ต่อออนซ์
6 สิงหาคม 2563 – ราคาทองคำทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2,063 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นวันเดียวกับการเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่กลางเมืองหลวงของเลบานอน ทั้งนี้ยังเป็นที่กังขาว่าเหตุระเบิดจากสารเคมีเป็นอุบัติเหตุหรือจงใจเพื่อผลทางการเมือง
5 พฤศจิกายน 2563 – โจ ไบเดน ได้คะแนนเสียงข้างมากเป็นว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ราคาทองคำพุ่งขึ้นจาก 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็น 1,949 ดอลลาร์ต่อออนซ์
9 พฤศจิกายน 2563 – ประกาศผลการทดสอบวัคซีนมีประสิทธิภาพสูง และจะได้ใช้จริงในเดือนธันวาคม 2563 กดดันให้ราคาทองคำร่วงลงเหลือ 1,862 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนโยกเงินไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงแทน
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ www.intergold.co.th
#ลงทุนทองคำ #ราคาทองคำ #ซื้อขายทองออนไลน์ #แนวโน้มราคาทองคำ #intergold
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล