สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานความเห็นของ Juerg Kiener กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่ด้านการลงทุนของบริษัทสวิส เอเชีย แคปิตอล ที่มองว่าราคาทองคำอาจพุ่งสูงถึง 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2023 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้น และความหวั่นวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้ตลาดผันผวน
นักวิเคราะห์รายนี้แสดงความเห็นในรายการ ‘Street Signs Asia’ ของ CNBC ว่า ราคาทองคำอาจพุ่งขึ้นไปแตะที่ช่วงระหว่าง 2,500-4,000 ดอลลาร์ในปีหน้า โดยเศรษฐกิจในหลายประเทศอาจต้องเผชิญกับ ‘ภาวะถดถอยเล็กน้อย’ ในไตรมาสแรกของปีหน้า ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางหลายแห่งเริ่มชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และทำให้ราคาทองคำน่าดึงดูดขึ้นมาทันที พร้อมเสริมว่าทองคำเป็นสินทรัพย์เพียงหนึ่งเดียวที่ธนาคารกลางทุกแห่งมี
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสภาทองคำโลก (WGC) พบว่า ธนาคารกลางหลายแห่งได้ซื้อทองคำ 400 ตันในไตรมาส 3/22 คิดเป็นเกือบสองเท่าของสถิติสูงสุดที่ 241 ตันในไตรมาส 3/18
อย่างไรก็ตาม แม้ดีมานด์ทองคำในตลาดยังแข็งแกร่ง แต่ Kenny Polcari นักกลยุทธ์การตลาดอาวุโสของบริษัทสเลตสโตน เวลธ์ ไม่เห็นด้วยกับคาดการณ์ดังกล่าวที่มองว่าราคาทองคำอาจเพิ่มขึ้นเกินเท่าตัวในปีหน้า แม้อุปสงค์ทองคำจะแข็งแกร่งก็ตาม โดยระบุในรายการ ‘Street Signs Asia’ เมื่อวานนี้ (22 ธันวาคม) ว่า “ผมไม่คิดว่าทองจะพุ่งไปถึงราคา 4,000 ดอลลาร์ แม้ว่าผมจะอยากเห็นมันพุ่งไปถึงจุดนั้นก็ตาม”
ทั้งนี้ ราคาทองคำพุ่งขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศปรับกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งประกาศดังกล่าวทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้น 1% เหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ ก่อนจะปรับตัวลดลงมาในช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้น โดยเมื่อวานนี้ (22 ธันวาคม) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ติดลบ 0.60 ดอลลาร์ หรือ 0.03% สู่ระดับ 1,824.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คัด 10 หุ้นราคาต่ำ 10 บาท P/E ต่ำ ปันผลสูง ราคา YTD ยังบวก
- ทองคำ กำลังไหลเข้าเอเชีย ท่ามกลางดอกเบี้ยโลกที่กำลังขึ้นต่อเนื่อง
- เงินบาทอ่อนค่าทะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อย ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 16 ปี
อ้างอิง: