‘ไอ้สตั๊ดสายฟ้า’ ความฝันไม่มีวันหมดอายุของ ยูเซน โบลต์

“เควิน เดอ บรอยน์ เปิดเตะมุมเข้ามาแต่ ดาวิด เด แฮ ชกบอลออกมาได้ ลูกเลยมาถึง เมสซี เอ้ย เจสซี ลินการ์ด กระชากลากแหวกทะลุมาถึงระยะ 40 หลาแล้วครับ ตอนนี้เพื่อนเติมมาแล้ว ข้างขวาวิ่งเติมมาอย่างปรี๊ดเลย”

“ลินการ์ดไหลต่อได้สวยครับใส่พานให้เลยทีเดียว…แล้วก็เป็นประตูครับ โอ้โห สุดยอดครับจังหวะนี้มีเขาคนเดียวที่จะวิ่งได้เร็วเหมือนสายฟ้าแบบนี้ ยูเซน โบลต์ ครับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกกลับมาขึ้นนำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในนาทีที่ 3 ของการทดเวลาบาดเจ็บ และเกมน่าจะจบลงที่ตรงนี้ครับ”

ที่เขียนมาข้างต้นนั้นแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องจริงอยู่แล้วครับ

แต่มันเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นจริงในอนาคตได้ครับ เพราะเวลานี้ ยูเซน โบลต์ อดีตนักวิ่งหมายเลข 1 ของโลกเจ้าของสมญา ‘มนุษย์สายฟ้า’ กำลังเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่วงการฟุตบอลอย่างเป็นทางการ

ความพยายามของเขาครั้งนี้สร้างความตื่นเต้นระคนแปลกใจอยู่พอสมควร

เพราะมันอดสงสัยไม่ได้นะครับว่าคนระดับนี้จะทำแบบนี้ไปทำไม ทั้งๆ ที่สามารถใช้ชีวิตแบบสบายๆ จากชื่อเสียงและเงินทองที่ได้มาไปตลอดลมหายใจอยู่แล้ว

และคำถามตามมาที่ตอบได้ยากกว่านั้นคือเขาจะทำได้จริงไหม

สำหรับคนที่ไม่เคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาก่อน ในวัย 31 ปี…

ความฝันไม่มีวันหมดอายุ

ไม่ใช่ความลับเลยสำหรับความรักและความปรารถนาของ ยูเซน โบลต์ อดีตสุดยอดนักวิ่งชาวจาเมกา เจ้าของ ‘แฮตทริก’ เหรียญทองของกีฬากรีฑาในโอลิมปิก ซึ่งประกอบไปด้วยการวิ่ง 100 เมตร, 200 เมตร และ 4×100 เมตร ถึง 2 สมัยซ้อนในปี 2012 ที่ลอนดอน และ 2016 ที่ริโอ (ส่วนปี 2008 เขาพลาดเหรียญทอง 4×100 เมตร)

ใครๆ ก็รู้ครับว่า โบลต์ รักการเล่นฟุตบอลเท่าชีวิต และเขาก็รักทีม ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เท่าจิตใจ

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเขาพูดถึงเรื่องของการเล่นฟุตบอลอาชีพหลายครั้ง และหาโอกาสมาเยี่ยมเยียนทีมรักของเขาที่โอลด์แทรฟฟอร์ด เสมอ

เคยแม้กระทั่งต่อสายเข้ารายการของช่อง MUTV (สถานีโทรทัศน์ของแมนฯ ยูไนเต็ด) เพื่อชื่นชมผลงานของทีมที่มี โฆเซ มูรินโญ

ย้อนหลังกลับไปในปี 2011 โบลต์ ที่กำลังสดและเป็นซูเปอร์สตาร์ดวงใหม่ของโลกกีฬาเคยประกาศอย่างเสียงดังฟังชัดว่าเขา ‘ดีพอ’ สำหรับการเล่นให้กับทีมอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ตามสไตล์ของมนุษย์สายฟ้า ซูเปอร์สตาร์จอมโว (ที่ทำได้อย่างที่โม้) ผมไม่คิดว่าจะมีใครที่ ‘เชื่อ’ ในถ้อยคำนั้นสักเท่าไร

มากที่สุดก็อาจหมายถึงโอกาสได้สวมใส่ชุดขุนพลอสูรแดงลงสนามในเกมนัดการกุศลในฐานะนักเตะดารารับเชิญสักนัด ซึ่งเขาก็เคยได้โอกาสลงสนามบ้าง แม้จะพลาดโอกาสใหญ่ในการเล่นที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ในเกมระดมทุนให้มูลนิธิแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปีกลายก็ตาม

แต่สำหรับ โบลต์ เวลาที่เขาบอกว่าเขาอยากจะเล่นให้กับทีมปีศาจแดง

มันหมายความถึงการเล่นในแบบนักเตะอาชีพจริงๆ ไม่ใช่นักเตะรับเชิญขำๆ

ความเอาจริงเอาจังของ โบลต์ ยิ่งทวีมากขึ้นหลังจากที่เขาประกาศอำลาลู่วิ่งอย่างเป็นทางการเมื่อปีกลาย โดยหลังสภาพร่างกายกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง โบลต์ ได้ทำการเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างจริงจัง

เวลานี้เขาซ้อมอยู่กับทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรดังในบุนเดสลีกา เยอรมัน สโมสรที่เขาเคยมาเก็บตัวฝึกซ้อมแล้วครั้งหนึ่ง

แต่ครั้งนี้เป็นการซ้อมอย่างจริงจัง โดยมีเป้าหมายอยู่ที่การทดสอบฝีเท้าที่ดอร์ทมุนด์ในอีก 2 เดือนข้างหน้า หรือในเดือนมีนาคม

และแน่นอนครับว่า ‘ความฝัน’ ที่จะเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้หมดอายุไปตามกาลเวลา

จะว่าไป มันยิ่งสดใสและร้อนแรงกว่าเดิมด้วยซ้ำ

จาก ‘มนุษย์สายฟ้า’ สู่ ‘สตั๊ดสายฟ้า’

“ผมได้คุยกับเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผมบอกให้เขารักษาคำพูดด้วย เขาตอบผมว่าขอให้ผมฟิตและพร้อมก่อน แล้วเดี๋ยวเขาจะดูว่าเขาทำอะไรได้บ้าง”

โบลต์ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องความฝันในการเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดครับ ทั้งๆ ที่ตัวเขาจะเข้าทดสอบฝีเท้ากับดอร์ทมุนด์

อย่างไรก็ดีมันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ครับ ความจริงเขาพูดเกี่ยวกับเรื่องของการเล่นฟุตบอลค่อนข้างเยอะ

ที่สำคัญคือเขารู้ดีว่าก่อนจะไปถึงฝันในการเล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขามีอะไรต้องทำอีกมาก

“ในเดือนมีนาคมผมจะเข้ารับการทดสอบฝีเท้าที่ ดอร์ทมุนด์ และมันจะเป็นตัวตัดสินว่าผมจะเอาดีทางนี้ได้ไหม และผมควรจะไปอย่างไรต่อ ถ้าพวกเขาบอกว่าผมดีพอ แค่ต้องการการฝึกซ้อมนิดหน่อย ผมก็จะมาเป็นนักฟุตบอล”

“เรื่องนี้มันทำให้ผมวิตกอยู่บ้าง ปกติแล้วผมไม่ค่อยวิตกกับอะไรนัก แต่ครั้งนี้มันแตกต่างไป เพราะนี่มันคือเกมฟุตบอลแล้ว มันต้องใช้เวลาในการปรับตัวบ้าง แต่ผมว่าถ้าผมได้ลงเล่นสักหน่อยผมก็น่าจะปรับตัวกับมันได้ ก็เหมือนกับตอนที่ผมเริ่มเล่นกรีฑา ผมเคยกังวลมาก่อนจนกระทั่งผมเริ่มคุ้นกับการวิ่งต่อหน้าผู้คน ทุกอย่างก็ค่อยเข้าที่เอง”

“หนึ่งในความฝันสูงสุดของผมคือการเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถ้าดอร์ทมุนด์ บอกว่าผมดีพอ ผมจะลุยต่อและซ้อมให้หนัก”

ท่ามกลางถ้อยคำมากมาย มีอยู่คำหนึ่งที่ผมชอบคำของเขามากเป็นพิเศษ

โบลต์บอกว่าถ้าเขาจะเป็นนักฟุตบอล เขาไม่ได้คิดถึงแค่การเล่นฟุตบอลเฉยๆ ที่ไหนก็ได้

ที่ของเขาคือที่ที่ดีที่สุดเท่านั้น นั่นจึงจะคู่ควร

คำพูดนี้คือทัศนคติของสุดยอดนักกีฬาตัวจริงครับ นี่คือคนจะไปถึงจุดสูงสุดได้ เพราะเขาไม่มองที่อื่นนอกจากจุดสูงสุดเท่านั้น

มนุษย์สายฟ้าคนนี้แม้จะจากลากีฬาที่เขารักและประสบความสำเร็จที่สุดมาแล้ว แต่ไฟในตัวเขาไม่เคยมอด

นี่คือคนที่ไม่เคยละทิ้งความฝัน และพร้อมจะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างที่มีในชีวิตเพื่อจะคว้า ‘โอกาส’ มาครองให้ได้ ผมว่าน่านับถือมากครับ

หากสุดท้ายแล้วเขาดีไม่พอสำหรับเกมฟุตบอล เขาก็ไม่เสียใจเท่ากับการที่ไม่ได้พยายามที่จะทำมัน

และเพราะ โบลต์ เป็นคนแบบนี้เขาจึงเป็นที่รักของแฟนๆ ทั่วโลก

เราจะได้เห็น ‘ไอ้สตั๊ดสายฟ้า’ ในชุดทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือไม่ หรือจะเป็นดอร์ทมุนด์ หรือทีมไหน?

อยากให้เฝ้ารอและเอาใจช่วยเขากันครับ

Photo: AFP

อ้างอิง:

FYI

นักฟุตบอลในดวงใจของ โบลต์ คือ รุด ฟาน นิสเตลรอย ในช่วงที่มาค้าแข้งให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คนที่ทำให้เขารู้สึกว่า “นี่มันหนึ่งในนักเตะที่เจ๋งที่สุดนี่”
แต่ตำแหน่งที่เขาถนัดไม่ใช่ศูนย์หน้าแบบ ฟาน นิสเตลรอย ครับ เพราะเขาถนัดตำแหน่งปีก
เท้าข้างถนัดของ โบลต์ คือเท้าซ้าย
เขายืนยันว่าเขารู้และเข้าใจเกมการเล่นฟุตบอลเป็นอย่างดี จากการติดตามมาตลอดชีวิตและพูดคุยกับ พอล ป๊อกบา ตลอด
ครั้งหนึ่งเขาเคยบอกว่าเขาอาจจะไม่ใช่นักเตะที่เก่งที่สุด แต่อย่างน้อยก็น่าจะเก่งในระดับเดียวกับ เวย์น รูนีย์!