ดูท่าว่ากระแสการผ่าตัดใหญ่โครงสร้างองค์กรของเจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังในสหรัฐอเมริกาจะใกล้เป็นจริงทุกขณะ เพราะล่าสุด สำนักข่าวทุกแห่งพร้อมใจกันรายงานว่า พวกเขาเตรียมเลย์ออฟพนักงานในประเทศกลุ่มอเมริกาเหนือออกอีกกว่า 14,000 คน หรือคิดเป็นสัดส่วน 8% จากพนักงานในบริษัททั้งหมด
นอกจากนี้ พวกเขายังมีแพลนปิดโรงงานอีก 5 แห่งภายในปี 2019 ก่อนจะหันมาให้ความสำคัญกับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไร้คนขับมากขึ้น พร้อมพัฒนาทักษะคนในองค์กรที่เหลืออยู่ให้พร้อมเรียนรู้เทคโนโลยียานยนต์ใหม่ๆ โดยผลของการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรในครั้งนี้จะช่วยให้ลดงบประมาณได้กว่า 6 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2020
หลังการเลย์ออฟพนักงานในออฟฟิศของเจนเนอรัล มอเตอร์สจำนวน 8,000 คน หรือคิดเป็น 15% ของพนักงานสำนักงานทั้งหมด จะถูกให้ออกจากตำแหน่งทันที (บางรายจะถูกจ่ายค่ายกเลิกสัญญา) ส่วนพนักงานในสายพานการผลิตอีก 3,300 คนในแคนาดา และอีก 2,600 คนในสหรัฐอเมริกา ก็จะถูกเลย์ออฟเช่นเดียวกัน โดยมีทีมงานสหรัฐฯ บางส่วนเท่านั้นที่จะถูกโยกไปสังกัดโรงงานผลิตรถกระบะหรือ SUV แทน
การรื้อแผนผังองค์กรในครั้งนี้ยังสอดคล้องกับแผนการผลิตรถฉบับใหม่ของบริษัท ที่จะหันเหไปให้ความสำคัญกับการผลิตรถ SUV และรถกระบะมากขึ้น เนื่องจากกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด และกินสัดส่วน 65% ของประเภทรถที่ขายได้ในสหรัฐฯ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: