‘GLORY’ เคาะราคา IPO ที่ 2.80 บาทต่อหุ้น เปิดจอง 12-15 ตุลาคม พร้อมลงกระดานเทรด mai วันที่ 25 ตุลาคมนี้

บมจ.รุ่งเรืองตลอดไป หรือ GLORY ซึ่งเป็น Tech Startup รายแรกของไทยที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 70 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.93% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดหลัง IPO มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ที่ราคาหุ้นละ 2.80 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อหุ้นในวันที่ 12-15 ตุลาคม และจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรก 25 ตุลาคมนี้

GLORY คือผู้พัฒนาแพลตฟอร์มด้านวรรณกรรมสำหรับอ่าน-เขียน นิยาย การ์ตูน และหนังสือ ผ่านช่องทางดิจิทัล โดยมีช่องทางจัดจำหน่ายหลักผ่านเว็บไซต์ ‘Kawebook.com’ และแอปพลิเคชัน ‘Kawebook’ ซึ่งมีทั้งในส่วนที่เป็นวรรณกรรมแปลจากภาษาต่างประเทศ นิยายแปล วรรณกรรมจากสำนักพิมพ์ที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย และจากนักเขียนอิสระ เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทที่มุ่งเน้นเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนวงการหนังสือให้เข้าสู่โลกออนไลน์ ภายใต้การสนับสนุนนักเขียน นักแปล สำนักพิมพ์ และค่ายการ์ตูน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าถึงหนังสือได้ง่ายขึ้นและสามารถเชื่อมกันทั่วโลก

จารีรัตน์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า ราคา IPO ที่ 2.80 บาทต่อหุ้น หากเทียบกับผู้ประกอบการที่ลักษณะธุรกิจที่คล้ายคลึงกันซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้นจีน คือ COL Digital ซึ่งมีค่า P/E ที่ 82 เท่า จะนับได้ว่าราคา IPO ของ GLORY ได้ให้ส่วนลดกับนักลงทุนค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก GLORY เป็น Tech Startup รายแรกของไทยที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จึงยังไม่มีคู่เทียบ PE ในประเทศ

ทั้งนี้เชื่อว่า หุ้น GLORY จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจาก GLORY เป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยมีระบบการบริหารจัดการที่ครบทุกมิติ ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงสื่อบันเทิงประเภทงานวรรณกรรม นิยาย และหนังสือ ได้ง่ายและสะดวก อีกทั้งธุรกิจยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2561 มีรายได้จากการจำหน่ายและบริการ 42.52 ล้านบาท ในปี 2562 เพิ่มเป็น 73.49 ล้านบาท และในปี 2563 อยู่ที่ 78.42 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 35.81%

ส่วนรายได้จากการจำหน่ายและบริการช่วง 6 เดือนแรกปี 2564 อยู่ที่ 45.43 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 19.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งการเติบโตอย่างต่อเนื่องดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี

จรัญพัฒณ์ บุญยัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รุ่งเรืองตลอดไป จำกัด (มหาชน) หรือ GLORY กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนหลังหักค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ จำนวน 189 ล้านบาท บริษัทจะนำไปขยายการลงทุนเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มรองรับการ Scale Up ไปยังต่างประเทศ รวมถึงเตรียมแปลลิขสิทธิ์วรรณกรรมไทยที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยเป็นโปรโตไทป์ส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ เพื่อเปิดตลาดวรรณกรรมไทยออนไลน์ให้มากยิ่งขึ้น

รวมทั้งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและซื้อลิขสิทธิ์วรรณกรรมจากต่างประเทศเพิ่มเติมจากที่มีในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มจำนวนสินค้ารองรับแนวทางการ Scale Up แพลตฟอร์มและช่องทางการจัดจำหน่ายวรรณกรรมให้มีลิขสิทธิ์ครอบคลุม เพื่อตอบสนองลูกค้าเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมสร้างความมั่นคงทางธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ทั้งนี้ GLORY มีทุนจดทะเบียน 135 ล้านบาท เป็นทุนเรียกชำระแล้ว 100 ล้านบาท หรือ 200 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้น 0.50 บาท ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO บริษัทจะมีทุนชำระแล้วเต็มจำนวน โดยจะแบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 270 ล้านหุ้น

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ประกอบด้วย

บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด หลัง IPO จะถือหุ้น 37.78%
จรัญพัฒณ์ บุญยัง หลัง IPO จะถือหุ้น 33.44%

สัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ด้วยจุดเด่นด้านประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการดิจิทัลเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม (Digital Technology Platforms) และการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อรองรับการขยายตัวของวงการหนังสือในตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) เป็นสิ่งที่การันตีถึงศักยภาพ และความน่าเชื่อถือทางธุรกิจในการเป็นผู้พัฒนาและให้บริการด้านดิจิทัลเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม ส่งผลให้ GLORY เป็นที่ยอมรับในแวดวงของกลุ่มธุรกิจ Tech Startup ตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

“มองว่าแผนการระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้บริษัทก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำด้านการให้บริการด้านเทคโนโลยีดิจิทัลแพลตฟอร์มชั้นนำสู่ตลาดโลก ดังนั้นโดยส่วนตัวเชื่อว่า หากหุ้น GLORY เปิดเสนอขายหุ้น IPO จะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักลงทุน”

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH