วานนี้ (30 สิงหาคม) มิคาอิล กอร์บาชอฟ อดีตผู้นำคนสุดท้ายของสหภาพโซเวียต ถึงแก่อสัญกรรมแล้วในวัย 91 ปี ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงมอสโก เมืองหลวงของประเทศรัสเซีย จากปัญหาด้านสุขภาพเรื้อรัง โดยมีบรรดาผู้นำโลก และผู้นำองค์กรระหว่างประเทศจำนวนไม่น้อยต่างส่งข้อความร่วมแสดงความเสียใจ
โดยกอร์บาชอฟก้าวขึ้นสู่อำนาจในตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียต ในปี 1985 ก่อนที่อีกราว 6 ปีต่อมาจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหภาพโซเวียตเพิ่มอีกหนึ่งตำแหน่ง ซึ่งนับเป็นผู้นำคนสุดท้ายของสหภาพโซเวียตที่มีบทบาทอย่างมากในการปรับเปลี่ยนแนวนโยบายที่มีต่อบรรดาชาติตะวันตก และพยายามเปิดประเทศมากยิ่งขึ้น
แต่ท้ายที่สุดสหภาพโซเวียตก็ไม่สามารถไปต่อได้ และล่มสลายในที่สุด เมื่อปี 1991 ประเทศต่างๆ ที่เคยเป็นสมาชิกก็ทยอยประกาศเอกราช แยกออกมาเป็น 15 ประเทศ ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในแถบยุโรปตะวันออก นับเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่เปรียบเสมือนเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า ยุคสงครามเย็นได้สิ้นสุดลงแล้ว
ทางด้าน ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เผยว่า “ผู้นำรัสเซียรู้สึกเศร้าใจและเสียใจอย่างมาก และจะส่งข้อความแสดงความเสียใจไปยังครอบครัว และเพื่อนๆ ของกอร์บาชอฟในอนาคตอันใกล้นี้”
ด้าน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติระบุว่า “ผมรู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมากที่ทราบข่าวการสูญเสียของ มิคาอิล กอร์บาชอฟ หนึ่งในรัฐบุรุษที่ใจดี ผู้เปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ เขาตัดสินใจทำในสิ่งที่จะนำไปสู่สันติภาพ เพื่อยุติสงครามเย็น
โลกได้สูญเสียผู้นำที่แข็งแกร่ง ยึดมั่นในความร่วมมือพหุภาคี และเป็นผู้สนับสนุนสันติภาพอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยไปแล้ว”
ขณะที่ อัวร์ซูลาร์ ฟอน แดร์ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ชี้ว่า “มิคาอิล กอร์บาชอฟ เป็นผู้นำที่น่าเคารพนับถือ เขามีบทบาทสำคัญในการยุติสงครามเย็น และเปิดม่านเหล็กที่ปกคลุมอยู่ เพื่อปลดปล่อยให้ยุโรปเป็นอิสระ มรดกนี้เป็นสิ่งที่เราจะไม่เคยลืมเลือน”
FYI: ประเทศที่เคยเป็นอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียต ได้แก่ อาร์เมเนีย, อาเซอร์ไบจาน, เบลารุส, เอสโตเนีย, จอร์เจีย, คาซัคสถาน, คีร์กีซสถาน, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย, มอลโดวา, รัสเซีย, ทาจิกิสถาน, เติร์กเมนิสถาน, ยูเครน และอุซเบกิสถาน ซึ่งส่วนใหญ่ประกาศเอกราชหลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายลงในปี 1991 โดยยูเครนเพิ่งจะฉลองวันชาติ ครบรอบ 31 ปี ท่ามกลางไฟสงครามไปเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา และ มิคาอิล กอร์บาชอฟ ก็เป็นผู้นำที่มีเชื้อสายรัสเซีย-ยูเครนด้วย
แฟ้มภาพ: Fabrice Coffrini / AFP
อ้างอิง: