ความคืบหน้าภายหลังเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้คุมตัว หลี่เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า 1 ใน 5 ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีตีนไก่สวมสิทธิ์ หรือคดีพิเศษที่ 127/2566 ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560, พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558, ความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจร และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน หลังเดินทางมาจากประเทศจีนเข้าราชอาณาจักรไทย เพื่อสอบสวนหาความเกี่ยวข้องในคดี
วันนี้ (23 มกราคม) พ.ต.ต. ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน ได้นัดหมายพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อนและคดีตีนไก่สวมสิทธิ์เข้าร่วมประชุมหารือความคืบหน้าทางคดีและการรวบรวมพยานหลักฐาน
พ.ต.ต. ณฐพล กล่าวว่า วานนี้ (22 มกราคม) คณะพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเฮียเก้านาน 6 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 17.00-23.00 น. โดยเป็นการสอบถามใน 30 ประเด็น บันทึกถ้อยคำให้การกว่า 40 หน้ากระดาษ ซึ่งใน 30 ประเด็นจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการส่งขายตีนไก่ไปจำหน่ายยังประเทศจีน ส่วนในประเด็นอื่นๆ ที่ผู้ต้องหาไม่ได้ตอบ จะมีการส่งเป็นเอกสารชี้แจงในภายหลัง
ในเรื่องของการรู้จักกันหรือมีความสัมพันธ์กับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของเฮียเก้านั้น เจ้าตัวให้การว่ารู้จักกันมานาน เพราะประกอบธุรกิจส่งออกสินค้าทางการเกษตร จึงต้องเข้าไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ภายในกระทรวง ส่วนกรณีของ เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รมว.เกษตรฯ) เฮียเก้าให้การว่า เป็นการรู้จักกันในรุ่นปู่ เพราะว่าอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ประเทศจีนด้วยกัน ที่รู้จักกันก็เพราะมีการใช้นามสกุลแซ่เดียวกันเท่านั้น จึงมีบ้างที่อาจมีการไปมาหาสู่กัน
พ.ต.ต. ณฐพล กล่าวต่อว่า ในช่วงที่เฮียเก้าต้องการเข้ามาทำงานและลงหลักปักฐานที่ประเทศไทย เฮียเก้าไปติดต่อกับ วิรัช ปิยพรไพบูลย์ (พี่ชายของเฉลิมชัย) ส่วนกรณีของ สมเกียรติ กอไพศาล อดีตเลขาส่วนตัวของเฉลิมชัย เฮียเก้าไม่ได้ให้การในประเด็นนี้
ทั้งนี้ เฮียเก้าให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอยู่บ้าง เช่น มีการเปิดเผยรายชื่อของบุคคลที่เกี่ยวข้องในขบวนการขายส่งตีนไก่ไปยังประเทศจีนเพิ่มเติม หรือมีขั้นตอนการติดต่อประสานงานกันอย่างไร รวมทั้งความเกี่ยวข้องกับกลุ่มข้าราชการและกลุ่มบริษัทชิปปิ้งเอกชน ส่วนเรื่องสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย (Thai-Asia Economic Exchange Trade Association) ซึ่งมีเฮียเก้าดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคม เฮียเก้าไม่ได้ตอบคำถาม
ต่อมาเวลา 09.50 น. พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ และในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ ออกมาเปิดเผยภายหลังรับฟังวาระการประชุมของคณะพนักงานสอบสวนว่า เบื้องต้นเฮียเก้าปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่ารู้จักกับอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และข้าราชการในสังกัดในกระทรวงฯ โดยไม่ได้เปิดเผยว่ารู้จักหรือสนิทกับบุคคลเหล่านี้ระดับไหน ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะให้ปากคำ
พ.ต.ต. ยุทธนา ระบุว่า การเข้าให้ปากคำของเฮียเก้าที่ได้ติดต่อขอมอบตัวด้วยตัวเองเพื่อแสดงความบริสุทธิ์และต่อสู้ จึงได้รับสิทธิ์ในการประกันตัวในชั้นสอบสวนในวงเงิน 200,000 บาท และได้รับการปล่อยตัวตั้งแต่เมื่อคืนนี้ (22 มกราคม) แต่กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรและห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
