×

อาณาจักรแฟชั่นหรูจะเป็นอย่างไรต่อ หลัง Giorgio Armani เสียชีวิตแบบไร้ทายาท

06.09.2025
  • LOADING...
Giorgio Armani ดีไซเนอร์ระดับตำนานชาวอิตาลี เจ้าของอาณาจักรแฟชั่นหรูระดับโลก

Armani จะเป็นอย่างไรต่อ หลัง Giorgio Armani ดีไซเนอร์ระดับตำนานชาวอิตาลี หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เพียงรายเดียว ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบในวัย 91 ปี โดยไร้ซึ่งทายาท หรือคู่สมรสมารับช่วงต่อ

 

ย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นในปี 1975 Giorgio Armani ก่อตั้งบริษัทขึ้นร่วมกับ Sergio Galeotti หุ้นส่วนทางธุรกิจผู้ล่วงลับ โดยที่ Galeotti คอยรับผิดชอบด้านการบริหาร ส่วน Armani มุ่งทุ่มเทงานสร้างสรรค์และเป็นหน้าเป็นตาให้กับแบรนด์

 

ตลอดระยะเวลาการทำงานอันยาวนานที่ Giorgio Armani ได้ครอบครองอำนาจในการบริหารกิจการไว้เพียงผู้เดียว ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่า เขาหวงแหนอำนาจนี้อย่างมาก และคอยระวังไม่ให้กลุ่มทุนขนาดใหญ่รายใดก็ตาม เข้ามาเจือจางอำนาจควบคุมของเขาไป 

 

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ Armani ปฏิเสธการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงคอยปฏิเสธข้อเสนอขอเข้าซื้อกิจการจาก Kering และ LVMH อยู่บ่อยครั้ง

 

แบ่งกิจการให้ทายาท

 

อย่างไรก็ตาม Armani ได้วางมาตรการต่างๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ากิจการจะมีความเป็นอิสระ และมีความต่อเนื่องไว้แล้ว ผ่านการแบ่งอำนาจให้กับสมาชิกในครอบครัวและผู้ร่วมงานใกล้ชิด ผู้ซึ่งมีบทบาทสำคัญในบริษัทอยู่แล้ว ดังนี้

 

  • Rosanna Armani น้องสาว – มีตำแหน่งในคณะกรรมการบริษัท
  • Silvana Armani หลานสาว – ดูแลคอลเลกชันสตรี
  • Roberta Armani หลานสาว – ดูแลเซเลบริตี
  • Andrea Camerana หลานชาย – ดูแลความยั่งยืน
  • Pantaleo Dell’Orco มือขวาผู้ถูกยอมรับว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ปัจจุบันคอยดูแลคอลเลกชันเสื้อผ้าผู้ชาย

 

ตั้งมูลนิธิกำกับการรับช่วงต่อ

 

ทั้งนี้ Armani ได้วางมาตรการป้องกันมรดกผ่านการก่อตั้งมูลนิธิในปี 2016 ซึ่งมีกลไกรักษาทรัพย์สินของบริษัท เพื่อให้มั่นใจว่าทุกอย่างจะดำเนินตามหลักการสำคัญที่ Armani ยึดถือ ไม่ให้ล้มละลายหรือถูกซื้อกิจการต่อ

 

โดยปัจจุบันมูลนิธิดังกล่าวถือครองหุ้นกิจการไว้ 0.1% และคาดว่าจะมีการกระจายหุ้นเพิ่มเติมหลังการเสียชีวิตของ Armani ซึ่งจะมอบให้กับบรรดาผู้สืบทอดกิจการด้วย ซึ่ง Armani เคยกล่าวไว้ว่าได้คัดเลือกไว้แล้ว 3 บุคคลให้มาบริหารมูลนิธิ 

 

กำหนดข้อบังคับบริษัทใหม่ มีผลหลังเสียชีวิต

 

นอกจากนี้ Armani ยังได้กำหนด ‘ข้อบังคับบริษัท’ (Company Bylaws) ขึ้นใหม่ ให้มีผลหลังเขาเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งจะคอยกำกับหลักการดูแลบริษัทในอนาคต

 

โดยจะมีการแบ่งหุ้นบริษัทออกเป็นหลายประเภท ที่มีสิทธิ์และอำนาจในการออกเสียงแตกต่างกันไปให้กับผู้สืบทอดแต่ละคน ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจน

 

นอกจากนี้ ข้อบังคับบริษัทยังระบุด้วยว่า การควบรวมกิจการ (M&A) และการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ใดๆ ก็ตามจะต้องได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการส่วนใหญ่ และจะเกิดขึ้นได้หลังข้อบังคับบริษัทมีผลแล้ว 5 ปี 

 

ไม่เพียงแค่การบริหารทางการเงิน ข้อบังคับบริษัทฉบับใหม่ยังกล่าวถึงแนวทางด้านความคิดสร้างสรรค์ โดยกำหนดให้แบรนด์ต้องรักษาสไตล์ที่ “เรียบง่าย ทันสมัย สง่างาม และไม่โอ้อวด” ไว้

 

ผลประกอบการยังแข็งแกร่ง

 

ธุรกิจของ Armani ไม่ได้มีแค่เสื้อผ้า แต่ยังขยายกิจการไปยังสินค้าและบริการไลฟ์สไตล์อื่นๆ ดังนี้ 

 

  • Armani Privé: เสื้อผ้าชั้นสูง (Haute Couture)
  • Emporio Armani: เสื้อผ้าสำเร็จรูป ตามกระแสสำหรับวัยรุ่น
  • Armani Exchange: เสื้อผ้าสตรีทแฟชั่นเข้าถึงง่าย
  • Armani Casa: สินค้าตกแต่งบ้าน
  • Armani Dolci: ธุรกิจขนมหวาน และเครือข่ายร้านอาหารและคาเฟ่

 

นอกจากนี้ Armani ยังอนุญาตให้โรงแรมหรูในมิลานและดูไบ นำชื่อแบรนด์ไปใช้อีกด้วย

 

โดยในปี 2024 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 2,700 ล้านดอลลาร์ แม้จะมีผลกำไรและยอดขายที่ลดลงจากภาวะถดถอยของอุตสาหกรรม แต่ Armani ยังคงเป็นบริษัทที่มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยถือครองเงินสดสุทธิราว 668 ล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปี 2024 

 

ภาพ: Robert Way/Getty Images 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising