วานนี้ (4 เมษายน) ในปีที่แล้ว หลายคนทั่วโลกได้รู้จักประเพณี ‘การเต้นแบกโลงศพ’ ของประเทศกานา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบนโลกนี้ยังมีการจัดงานศพที่ไม่ได้มีแต่ความเศร้าหมอง แต่ไม่เพียงเท่านั้น งานศพของพวกเขายังมีอะไรที่โดดเด่นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่านี้ด้วย
เราคิดว่าผู้อ่านคงไม่เคยเห็นสิ่งเหล่านี้ที่ประเทศไหนมาก่อน เพราะนี่คือโลงศพรูปปลา ข้าวโพด ซึ่งรังสรรค์ขึ้นโดย ลอว์เรนซ์ อนัง (Lawrence Anang) ช่างทำโลงศพวัย 22 ปี และเพื่อนร่วมงานของเขา
อนังกล่าวว่ารูปลักษณ์ของโลงศพบ่งชี้อาชีพของผู้เสียชีวิต เช่น โลงรูปปลาสื่อถึงอาชีพชาวประมง รูปข้าวโพดสื่อถึงเกษตรกร รูปรถยนต์สื่อถึงคนขับรถหรือตัวแทนจำหน่ายรถยนต์
ชาวกานาเชื่อว่าความตายเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ในอีกโลกหนึ่ง อนังกล่าวว่าโลงศพเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ครอบครัวได้รำลึกถึงผู้เสียชีวิต “ชาวกานาเชื่อว่าผู้ที่เสียชีวิตไปจะยังคงประกอบอาชีพเดิมของเขาในอีกโลกหนึ่ง”
ร้านของอนังตั้งอยู่ในย่านใจกลางกรุงอักกรา เมืองหลวงของกานา โดยเป็นอาคารสองชั้นที่เรียบง่าย และมีพื้นที่โล่งด้านหลังเป็นสถานที่ทำโลงศพ เจ้าของร้านคือปู่เซธ (Seth) ผู้ล่วงลับไปแล้ว ทว่าทักษะงานฝีมือการสร้างสรรค์โลงศพของปู่ได้ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นภายในตระกูลนี้ เป็นเวลานานกว่า 70 ปีแล้ว
“เราสามารถดำเนินการต่างๆ ตั้งแต่รับคำสั่งซื้อ ออกแบบ และสร้างผลงานจนสำเร็จได้เร็วที่สุดภายใน 2-3 วัน” อนังกล่าวว่าโลงศพเหล่านี้ทำขึ้นจากไม้ท้องถิ่น ซึ่งราคาจะแตกต่างกันไปตามวัสดุที่เลือกใช้
แม้สุดท้ายแล้วจุดหมายปลายทางของโลงศพเหล่านี้คือการถูกฝังไปพร้อมกับร่างของผู้เสียชีวิต ทว่าอนังและพรรคพวกยังคงขัดโลงศพอย่างพิถีพิถัน “เราใช้ทั้งสมาธิและความอดทนในการสร้างสรรค์โลงศพ เช่นเดียวกับงานศิลปะ และนี่ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการแสดงความเคารพต่อผู้เสียชีวิตด้วย” เขากล่าว
งานศพในกานามักจัดขึ้นเป็นเวลาสามวัน โดยวันศุกร์จะเป็นวันที่ญาติและมิตรสหายมาร่วมไว้อาลัยแด่ผู้เสียชีวิต วันเสาร์จะมีประเพณีแบกโลงศพและการฝังศพ ส่วนวันอาทิตย์เป็นวันที่สมาชิกครอบครัวของผู้เสียชีวิตจะแสดงความขอบคุณแขกที่มาในงานศพ
ปัจจุบันร้านขายโลงศพทั้งเล็กใหญ่ที่ตั้งอยู่ในกรุงอักกรา ไม่เพียงได้รับการสนับสนุนจากคนท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังมีนักท่องเที่ยวและนักสะสมชาวต่างชาติที่สนใจวัฒนธรรมโลงศพ และซื้อเพื่อส่งไปเป็นงานสะสมในพิพิธภัณฑ์ต่างประเทศด้วย
ในตอนท้าย อนังได้กล่าวถึงความมุ่งหมายที่จะให้ลูกหลานของเขาได้สืบทอดงานฝีมือนี้ต่อไป “วัฒนธรรมที่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์เช่นนี้จำเป็นต้องได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น” เขายืนยัน
อ้างอิง:
- สำนักข่าวซินหัว