ใครจะคาดคิดว่า ‘ที่ดิน’ ในเกม หรือที่ใครหลายคนเรียกกันว่า ‘ที่ดินดิจิทัล’ จะมีการซื้อขายกันคิดเป็นมูลค่าหลายสิบล้านบาท แล้วที่ดินเหล่านี้เอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ทีมข่าว THE STANDARD WEALTH พาไปทำความรู้จักกัน
หากพูดถึงที่ดินในโลกแห่งความเป็นจริง (Physical Land) เป็นที่รู้กันว่า ‘มูลค่า’ เติบโตขึ้นต่อเนื่อง เพราะที่ดินเหล่านี้นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการอยู่อาศัย การประกอบอาชีพเชิงพาณิชย์ การพักผ่อน สันทนาการ หรือแม้แต่การใช้งานเพื่อประโยชน์ทางสาธารณชนทั่วไป สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงอรรถประโยชน์ที่มีต่อเจ้าของที่ดิน จึงทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ มีการซื้อขายแลกเปลี่ยน การลงทุน ส่งผลให้ราคาที่ดินบางพื้นที่มีราคาสูงเกินกว่าตารางวาละ 1 ล้านบาท
แต่ในโลกปัจจุบัน ผู้คนไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับเฉพาะโลกแห่งความเป็นจริงเท่านั้น และบางคนยังให้เวลากับโลกออนไลน์มากกว่าด้วยซ้ำ ทำให้เกิดคำว่า Metaverse ความหมายคือ การรวมของพื้นที่โลกจริงกับโลกเสมือนที่ผสมผสานกันจนแยกไม่ออก ทำให้ผู้คนสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ในทั้งสองโลก พูดแบบง่ายๆ ก็คือ มีตัวตนอยู่ในโลกทั้งสองใบนั่นเอง
ยิ่งระยะหลังเทคโนโลยี ‘บล็อกเชน’ เข้ามาทำให้คำว่า Metaverse มีความกลมกลืนมากขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีดังกล่าวช่วยให้ ‘การแลกเปลี่ยน’ สินค้าระหว่างกันไม่ต้องพึ่งตัวกลาง ช่วยให้การทำธุรกรรมบนโลกออนไลน์ผ่านระบบหลังบ้าน ซึ่งก็คือบล็อกเชน ทำได้สะดวกง่ายดายขึ้น สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ ‘มูลค่า’ สินค้าในโลกดิจิทัลมีราคาขึ้นมาทันที โดยจะเห็นว่าปัจจุบันการซื้อขายที่ดินในโลกดิจิทัลหรือโลกเสมือนมีมูลค่าเกินกว่าหลักล้านบาทไปเรียบร้อยแล้ว
แล้ว ‘ที่ดินดิจิทัล’ คืออะไร?
ที่ดินดิจิทัล (Virtual Land) เป็นที่ดินเสมือนจริงอยู่ในเกมที่ทำงานอยู่บนเครือข่ายบล็อกเชน โดยมูลค่าของที่ดินจะถูกกำหนดด้วยปริมาณของที่ดินที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างจำกัด ในขณะที่ความต้องการซื้อของคนที่เข้ามาในเกมมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปัจจุบันเกมออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมมี 3 ราย คือ The Sandbox, Cryptovoxels และ Decentraland เกมเหล่านี้ล้วนมีการซื้อขายที่ดินภายในเกมกันอย่างคึกคัก
ทำไมจึงมีคนทุ่มเงินจำนวนมาก ‘ซื้อที่ดิน’ บนโลกดิจิทัล?
ถ้าย้อนดูจุดประสงค์ของที่ดินดังที่ได้กล่าวมา ซึ่งหมายถึงการซื้อเพื่ออยู่อาศัย ทำการค้า การเกษตร หรือแม้แต่ในเชิงพาณิชย์ สิ่งเหล่านี้ถือว่าคุ้มค่าที่จะจ่ายเงินก้อนโตสำหรับในโลกแห่งความเป็นจริง เพราะสามารถสร้างอรรถประโยชน์ได้ แต่สำหรับที่ดินบนโลกดิจิทัลแล้ว คงมีคำถามตัวโตๆ ว่า จะสามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้จริงหรือ?
คำตอบคือ ‘ได้’ แต่คงไม่ทั้งหมด เพราะที่ดินบนโลกดิจิทัลแม้เราจะเข้าไปอยู่อาศัยจริงไม่ได้ แต่อย่างน้อยสามารถใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้ เพราะปัจจุบันจำนวนเกมเมอร์หรือผู้เล่นเกมมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การซื้อที่ดินบนโลกดิจิทัลส่วนหนึ่งเป็นการซื้อในเชิงพาณิชย์ เพราะสามารถช่วงชิงพื้นที่โฆษณา แย่งสายตาคนเล่นเกมได้
ถ้าจะเปรียบก็คงเหมือนกับการซื้อโฆษณาบนป้ายบิลบอร์ดในโลกแห่งความเป็นจริง เพื่อซื้อสายตาจากคนที่ผ่านไปมา แต่ที่ดินในโลกดิจิทัลทำได้มากกว่านั้น เพราะนอกจากจะซื้อสายตาจากผู้คนในโลกออนไลน์แล้ว หากผู้เล่นเกมสนใจกดคลิกเข้าไปยังพื้นที่นั้นๆ ก็จะนำไปสู่เว็บไซต์หรือข้อความที่เจ้าของที่ดินต้องการสื่อออกไป ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ราคาที่ดินบนโลกดิจิทัลทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในเกมอย่าง The Sandbox ที่ทำงานอยู่บนระบบบล็อกเชน ซึ่งรูปแบบเกมมีความคล้ายคลึงกับเกมดั้งเดิมอย่าง Minecraft ที่ภายในเกมเป็นภาพ 3 มิติ มีลักษณะเป็นกล่องๆ เปิดให้ผู้เล่นสามารถสร้างอะไรขึ้นมาก็ได้บนเกม
แต่ The Sandbox มีจุดที่ต่างกว่า คือไอเท็มภายในเกมจะไม่ซ้ำกัน ด้วยความที่ทำงานอยู่บนบล็อกเชนจึงสามารถนำไอเท็มเหล่านี้ไปซื้อขายต่อกันได้ และยังสามารถซื้อขายที่ดินภายในเกมได้อีกด้วย โดยปัจจุบัน ไอเท็มหรือที่ดินภายในเกม The Sandbox มีมูลค่าสูงกว่า 13,000 ดอลลาร์ หรือราว 390,000 บาท ต่อผืนที่ดินในเกม
ในขณะที่อีกเกมดัง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการซื้อขายที่ดินดิจิทัลอย่าง Decentraland ก็ได้รับความนิยมที่ร้อนแรงไม่แพ้กัน โดยพบว่ามีการซื้อขายที่ดินเสมือนจริงไปแล้วกว่า 913,228 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ราวๆ 30 ล้านบาท ซึ่งมากพอที่จะซื้อบ้านหรูในโลกแห่งความเป็นจริงได้เลย
นอกจากนี้ ทาง ‘Boson Protocol’ ซึ่งเป็นโปรเจกต์ DeFi ที่พยายามเชื่อมต่อสินค้ากายภาพ (Physical Goods) เข้ากับ Smart Contracts บนบล็อกเชน ได้เข้าไปซื้อพื้นที่บนเกม Decentraland มูลค่ารวมกว่า 7 แสนดอลลาร์ หรือประมาณ 20 ล้านบาท
โดย Boson มีแผนที่จะสร้างห้างสรรพสินค้าบนเกม เพื่อเชื่อมต่อการซื้อขายของลูกค้าบนโลกดิจิทัลและโลกแห่งความเป็นจริงในรูปแบบ Metaverse โดยไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางแบบโลกยุคดั้งเดิม
จะเห็นได้ว่าโลกของ ‘ที่ดินดิจิทัล’ อาจจะไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การเป็นเกมอย่างที่ใครหลายๆ คนคาดการณ์เอาไว้ เพราะถนนทุกสายในเวลานี้ต่างลาดเอียงเข้าสู่โลก Metaverse ซึ่งเวลานี้เริ่มมีผู้คนบางกลุ่มที่เห็นว่านี่คือโอกาส จึงได้เริ่มเข้าไปศึกษาพร้อมกับลงทุน ด้วยหวังว่าการลงทุนในยุคแรกๆ บนที่ดินดิจิทัล พร้อมกับการตั้งความหวังที่จะเชื่อมไปสู่โลก Metaverse หากทำได้จริง ราคาที่ดินเหล่านี้ในอนาคตอาจสร้างผลตอบแทนที่งดงาม ทำให้ได้ส่วนต่างกำไรจากราคา
ทว่าสิ่งเหล่านี้ยังอาจเป็นเพียงแค่ภาพฝัน เพราะในโลกแห่งความเป็นจริงไม่มีใครรู้ว่าที่ดินดิจิทัลเหล่านี้จะได้รับความนิยมต่อเนื่องยาวนานแค่ไหน แล้วราคาที่ซื้อขายกันในปัจจุบันกำลังก่อตัวขึ้นเป็น ‘ฟองสบู่’ หรือไม่ เพราะต้องไม่ลืมว่าหากความนิยมที่มีต่อเกมเหล่านี้ลดลง ราคาที่ดินก็จะเสื่อมมูลค่าตายตามไปด้วย
ดังนั้นการลงทุนในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านจำเป็นต้องศึกษาและประเมินสถานการณ์ให้ดี เพราะคำว่า ‘รวย’ กับ ‘จน’ อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาสำหรับการลงทุนในโลกเสมือนจริงถ้าไม่ศึกษาให้ดี
เตรียมพบกับฟอรัมที่ผู้บริหาร ‘ต้องดู’ ก่อนวางแผนกลยุทธ์ปีหน้า! The Secret Sauce Strategy Forum คัมภีร์กลยุทธ์ฝ่าวิกฤตปี 2022
📌 เฟรมเวิร์กกลยุทธ์ใช้ได้จริง
📌 ฉากทัศน์เศรษฐกิจไทย–โลก
📌 เทรนด์ผู้บริโภค–การตลาด
📌 เคสจริงจากผู้บริหาร
พิเศษ! บัตร Early Bird 999 บาท วันนี้ถึง 27 สิงหาคมนี้เท่านั้น
ซื้อบัตรได้แล้วที่ www.zipeventapp.com/e/the-secret-sauce