×

จินี ไวจ์นัลดุม ‘มิดฟิลด์สารพัดช่าง’ ของลิเวอร์พูล กับการตัดสินใจที่ยากที่สุดของชีวิต

22.03.2021
  • LOADING...
จินี ไวจ์นัลดุม ‘มิดฟิลด์สารพัดช่าง’ ของลิเวอร์พูล กับการตัดสินใจที่ยากที่สุดของชีวิต

บางครั้งคนเราอาจจะรู้คุณค่าที่แท้จริงของสิ่งใดก็ต่อเมื่อสิ่งนั้นไม่อยู่แล้ว

 

ในยามเย็นของวันอาทิตย์ที่แสงแดดกำลังอ่อนแรงและดูน่ารักกว่าหลายชั่วโมงก่อนหน้า ในระหว่างที่เราต่างกำลังยืดเส้นยืดสายเตรียมความพร้อมจะลงสนาม จู่ๆ เสียงจากพี่ใหญ่ผู้เป็นที่รักของทุกคนก็ดังขึ้นมา

 

“รู้ข่าวของไวจ์นัลดุมแล้วใช่ไหม จะไปบาร์ซาหรือ?”

 

ร่างกายหยุดชะงัก สมองประมวลผลก่อนจะตอบไปว่ายังไม่แน่ใจ ก่อนที่พี่ใหญ่จะบอกเพิ่มเติมว่า “ข่าวเมื่อสักชั่วโมงที่ผ่านมานี่เอง” เช่นนั้นจึงรีบเปิดโทรศัพท์มือถือเพื่อเช็กข่าว เพราะตลอดทั้งวันหรือหลายวันที่ผ่านมาที่พอจะได้รู้คือไม่มีใครรู้อะไรชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของ จอร์จินิโอ หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ ‘จินี’​ ไวจ์นัลดุม มิดฟิลด์สารพัดช่างของลิเวอร์พูล

 

แต่เรื่องดังกล่าวมีเค้าจะเป็นจริง เมื่อ Sunday Times หรือหนังสือพิมพ์ The Times ฉบับวางแผงวันอาทิตย์ รายงานข่าวว่ามิดฟิลด์ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ “ตัดสินใจที่จะไปจากลิเวอร์พูลเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลเพื่อไปร่วมทีมบาร์เซโลนา และมีการตกลงเบื้องต้นกันเป็นที่เรียบร้อย โดยจะเป็นผู้เล่นหน้าใหม่คนแรกในการเป็นประธานสโมสรช่วงที่ 2 ของ โจน ลาปอร์ตา”

 

โดยที่สื่อสายท้องถิ่นอย่าง Liverpool Echo รายงานว่าลิเวอร์พูลยังไม่ได้รับการแจ้งใดๆ จากฝ่ายของไวจ์นัลดุมในเรื่องนี้ “แต่ตามที่เข้าใจ ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องมีการแจ้งให้ทราบในขั้นนี้”

 

และเจอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ก็ยังไม่ทราบในเรื่องนี้เช่นกัน

 

เรื่องอนาคตของกองกลางจอมขยันเป็นสิ่งที่ค้างคามาเป็นระยะเวลานาน หลังจากที่การเจรจาต่อสัญญาฉบับใหม่ของเขากับลิเวอร์พูลไม่เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น เหมือนดังเช่นนักเตะแกนหลักคนอื่นในทีมที่ได้รับการต่อสัญญากันอย่างถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น โมฮัมเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน, โรแบร์โต เฟียร์มิโน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน หรือแม้แต่ ฟาบินโญ ที่มีข่าวว่าจะได้รับข้อเสนอใหม่ในเร็วๆ นี้

 

ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่มีใครทราบแน่ชัด มีเพียงการคาดเดาว่าเป็นเพราะสิ่งที่ลิเวอร์พูลคิดและให้คุณค่าต่อการมีอยู่ของไวจ์นัลดุมนั้นไม่ตรงกันกับความคาดหวังของมิดฟิลด์วัย 30 ปี

 

พูดให้ชัดเจนขึ้นคือรายได้และระยะเวลาของสัญญานั้นเป็นปัญหา เพราะด้วยวัยและด้วยความสำคัญที่มีต่อทีมแล้ว ไวจ์นัลดุมประเมินค่าของตัวเองเอาไว้มากกว่าที่สโมสรประเมินค่า โดยเฉพาะเรื่องของวัยที่เป็นปัญหา

 

สิ่งที่ทำให้ยากยิ่งขึ้นคือความรู้สึกของไวจ์นัลดุมเองที่มีต่อลิเวอร์พูล ซึ่งแม้จะเป็นคนที่พูดน้อยและดูพูดไม่เก่ง แต่ทุกครั้งที่พูด หากปิดหูและใช้หัวใจฟังให้ดีก็จะได้ยินคำว่ารักที่ดังออกมาจากถ้อยคำของดาวเตะเชื้อสายสุรินาเมคนนี้

 

เหมือนที่ไม่นานมานี้ ไวจ์นัลดุมในฐานะผู้เล่นอาวุโสในทีมที่เหลืออยู่ และเป็นรองกัปตันทีมลำดับที่ 4 ต่อจากเฮนเดอร์สัน, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, เจมส์ มิลเนอร์ ได้กล่าวถึงเรื่องอนาคตของตัวเองที่ยังคลุมเครือว่า

 

“การไปจากที่นี่เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก เพราะถ้ามันเกิดขึ้นจริง มันคือการที่เราต้องไปจากทีมที่เรารัก ทีมที่ผ่านเรื่องราวด้วยกันมามากมาย และทีมที่ทำให้รู้สึกว่าอยู่แล้วสบายใจ

 

“ผมคงรู้สึกเสียใจมากถ้าจะไม่ได้เล่นให้ทีมนี้อีก”

 

ด้วยความรู้สึกนี้อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไวจ์นัลดุมบ่ายเบี่ยงเลี่ยงหลีกที่จะประกาศการตัดสินใจมาโดยตลอด แม้ว่าเขาจะมีสิทธิ์ทำอย่างนั้นได้ตั้งแต่เข้าสู่ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ซึ่งตามกฎบอสแมนแล้ว เขาสามารถเจรจากับสโมสรใหม่ได้อย่างเป็นอิสระ

 

ยิ่งลิเวอร์พูลเผชิญกับสถานการณ์วิกฤต ช่วงเวลาที่เลวร้ายก็ทำให้เขายิ่งไม่อยากจะคิดถึงเรื่องนี้

 

ในฤดูกาลที่ลิเวอร์พูลเผชิญกับปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่นที่หนักหนาสาหัสที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร ไวจ์นัลดุมกลับสามารถรักษาสภาพร่างกายของตัวเองเอาไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ และลงสนามทุกนัดเท่าที่กำลังยังมีเหลือโดยแทบไม่ได้พักการเล่นเลย

 

และความจริงแล้วนับตั้งแต่ย้ายมาจากนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เมื่อปี 2016 ไวจ์นัลดุมเองก็แทบไม่เคยหายหน้าหายตาไปไหน

 

จากสตาร์ที่เคยเป็นผู้เล่นตัวรุกที่โดดเด่น เป็นปีกที่มีความสามารถในการเดินขึ้นมาหาโอกาสทำประตูได้บ่อยครั้ง ไวจ์นัลดุมถูกคล็อปป์ดึงตัวมาด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ และปรับเปลี่ยนบทบาทของเขาใหม่จากตัวริมเส้นมาเป็นกองกลางไดนาโมที่ขึ้นสุดลงสุดเสมอ

 

ไวจ์นัลดุมอาจจะไม่ใช่กองกลางสายเทคนิคจัดที่สามารถเปิดบอลยาวระดับ 50 หลาได้อย่างแม่นยำ หรือปั่นโค้งเสียบสามเหลี่ยมได้ในสไตล์ของ แจ็ค กรีลิช หรือเจมส์ แมดดิสัน บางครั้งการเล่นของเขาก็ดูเหมือนไม่มีอะไรและดูไม่ค่อยทำอะไร แต่ในความเรียบง่ายนั้นก็มีความสำคัญอยู่

 

จุดเด่นในการเล่นของกองกลางรายนี้คือทักษะในการครองบอลที่เหนียวแน่น แย่งบอลได้ยาก สัมผัสบอลแรกดี หรือต่อให้บอลแรกลั่นไปบ้างก็มักจะหาทางแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างดี ความที่เคยเป็นปีกมาก่อนก็ยังสามารถพาบอลขึ้นหน้ากินระยะทางได้หลายสิบหลาสบายๆ มีความแข็งแกร่งสูง เป็นเหมือนไม้ใหญ่รากฐานแน่นที่ใครก็ล้มได้ยาก

 

ที่สำคัญคือมีหัวใจที่ยกให้ทีมอย่างแท้จริง เพราะไม่ว่าจะเป็นเกมรับหรือเกมรุก ไวจ์นัลดุมคนนี้พร้อมที่จะพาตัวไปอยู่ตรงนั้นเสมอ และมั่นใจได้เลยว่าการเล่นของเขาไม่มีคำว่าเหยาะแหยะ และไม่เคยมีอาการจิตหลุดหรือเสียสมาธิให้เห็น

 

คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้เขาค่อยๆ พัฒนาตัวเองกลายเป็นกองกลางระดับชั้นนำของพรีเมียร์ลีกที่แข็งแกร่งและอเนกประสงค์ที่สุด และแน่นอนว่าเป็นหนึ่งในคนที่คล็อปป์เชื่อใจและไว้ใจมากที่สุด

 

ไม่ต่างอะไรจากผู้จัดการทีมยุคก่อนอย่าง ราฟาเอล เบนิเตซ ที่รักและไว้ใจในตัว เดิร์ค เคาต์ ศูนย์หน้าจอมทุ่มเทมากที่สุด เพราะการที่มีคนที่ทุ่มเท ก้มหน้าก้มตาทำงาน ไม่คิดชิงดีชิงเด่นกับใคร ไม่เคยเรียกร้องเกินพอดี การมีคนแบบนี้อยู่ในองค์กรคือรางวัลชีวิตของคนที่เป็นเจ้านายแล้ว

 

ดังนั้นการสูญเสียไวจ์นัลดุมไปจากทีมคือเรื่องใหญ่ เพราะนี่คือการสูญเสียคนที่สามารถทดแทนทุกคนได้ แต่อาจไม่มีใครสักคนที่สามารถทดแทนคนแบบนี้ได้

 

สำหรับไวจ์นัลดุม บาร์เซโลนาเป็นที่หมายที่ดี แม้จะดูเหมือนเข้ายุคตกต่ำ แต่นับตั้งแต่ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว พ้นจากตำแหน่งประธานสโมสร ทุกอย่างภายในคัมป์นูก็เริ่มค่อยๆ กลับมาดูสดใสขึ้นอีกนิด 

 

โจน ลาปอร์ตา ประธานสโมสรคนเก่าที่กลับมา หมายถึงการที่ ลิโอเนล เมสซี อาจเปลี่ยนใจ และผลงานในเวลานี้ของทีมก็น่าจะพอการันตีอนาคตของ โรนัลด์ คูมัน ผู้ที่คิดดึงตัวเขาเข้าสู่ทีมมาตั้งแต่ช่วงปิดฤดูกาลที่แล้ว แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะบาร์ซาประสบปัญหาหนักทางการเงิน

 

นั่นหมายถึงเขาจะได้รับโอกาสในทีม ตราบใดที่คูมันยังคงอยู่

 

สำหรับลิเวอร์พูล ระหว่างนี้ไปจนจบฤดูกาลจะเป็นช่วงเวลาที่ทีมจะรู้ถึงความสำคัญของกองกลางเจ้าของตาหยีๆ และรอยยิ้มขาวสะอาด

 

จริงอยู่ที่ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการออกมาจากตัวของไวจ์นัลดุมเอง และคาดว่าจะยังไม่มีการประกาศใดๆ ระหว่างนี้ไปจนกว่าจะจบฤดูกาล

 

แต่ชาวแอนฟิลด์รู้มานานว่าพวกเขาควรจะต้องทำใจ เมื่อถึงเวลาไปจากกันจริงก็จะมีแต่รอยยิ้มให้ และเก็บความทรงจำที่ดีเอาไว้

 

หนึ่งในนั้นคือเกมรอบรองชนะเลิศแชมเปียนส์​ลีก ที่ไวจ์นัลดุมเป็นหนึ่งในผู้จุดประกายพาทีมกลับมาล้มบาร์ซาได้อย่างมหัศจรรย์

 

ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร นั่นคือไวจ์นัลดุมที่ลิเวอร์พูลจะคิดถึงตลอดไป

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X