×

เบื่อเที่ยวแบบเดิม! Gen Z และ Millennials แห่ ‘ปักหลัก’ ใช้ชีวิตในโรงแรมนานขึ้น! แถม 7 ใน 10 ยอมจ่ายเพิ่มพักโรงแรมรักษ์โลก!

15.03.2025
  • LOADING...
genz-millennials-hotel-stay

ลืมภาพโรงแรมที่เป็นแค่ที่พักชั่วคราวให้นอนอาบน้ำไปได้เลย! เพราะปัจจุบันนักท่องเที่ยวกำลังเปลี่ยนโฉมการพักผ่อนครั้งใหญ่ด้วยการยึดพื้นที่โรงแรมเป็นส่วนหนึ่งของจุดหมายปลายทาง ไม่ใช่แค่ทางผ่านอีกต่อไป

 

จากรายงาน Changing Traveller Report 2025 โดย SiteMinder ซึ่งสำรวจนักท่องเที่ยวกว่า 12,000 คนทั่วโลก พบว่าเกิดการปฏิวัติพฤติกรรมของผู้เดินทางที่มองหามากกว่าเตียงนอนสบาย โดยเฉพาะกลุ่ม ‘Conscious Travellers’ ที่ต้องการประสบการณ์เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมท้องถิ่นและความยั่งยืน

 

น่าประหลาดใจที่แม้ค่าเดินทางจะสูงลิ่ว แต่นักท่องเที่ยวกว่าครึ่งกลับวางแผนจะ ‘ใช้เวลาส่วนใหญ่’ หรือ ‘ค่อนข้างมาก’ ในโรงแรมตลอดปี 2568 เพิ่มขึ้น 1.5% จากปีก่อน โดยชาวไทยติดอันดับต้นๆ ที่ 65% เลยทีเดียว

 

ยิ่งไปเที่ยวต่างประเทศด้วยแล้ว ตัวเลขนี้พุ่งสูงถึง 29% เทียบกับแค่ 11% ของทริปในประเทศ เรียกได้ว่าเป็นการท่องเที่ยวที่กลับด้าน ยิ่งไกลยิ่งกักตัวในที่พัก!

และไม่น่าเชื่อว่าคน Gen Z (18-27 ปี) และ Millennials (28-43 ปี) ที่ขึ้นชื่อเรื่องชอบลุย กลับเป็นผู้ขับเคลื่อนเทรนด์นี้ ทั้งยังวางแผนพักยาวนานกว่าคนรุ่น Gen X, Baby Boomers และคนยุค Radio Babies อีกด้วย

 

แล้วพวกเขาจะทำอะไรกันในโรงแรม? อันดับหนึ่งคือบริการสปา (37%) ที่ช่วยคลายความเมื่อยล้าหลังเดินทางไกล ตามมาด้วยการทานอาหารสุดหรูและชิมไวน์ (35%) การแสดงดนตรีสด (35%) และคลาสโยคะหรือนั่งสมาธิ (18%)

 

นอกจากนี้ กลุ่มนักเดินทางยังสนใจกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม ตั้งแต่เรียนทำอาหารท้องถิ่น (22%) ไปจนถึงการฟังเรื่องเล่าและชมการเต้นรำพื้นเมือง (16%) การทำฟาร์มหรือสวน (16%) เรียนภาษา (14%) และฟังบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญ (13%)

 

มีความแตกต่างชัดเจนระหว่างชาติต่างๆ โดยคนไทยหลงใหลประสบการณ์อาหารหรูและชิมไวน์ (61%) รวมถึงสปา (50%) ขณะที่ชาวอินเดียเน้นคลาสทำอาหารท้องถิ่น (40%) และโปรแกรมปรับปรุงการนอนหลับ (33%)

 

ถึงค่าครองชีพจะพุ่งสูง แต่ ‘ความคุ้มค่า’ ยังเป็นปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z และ Millennials ที่พร้อมใช้จ่ายมากขึ้นกว่าปีก่อนถึง 58% และ 57% ตามลำดับ มากกว่ากลุ่ม Gen X (35%) และ Baby Boomers (28%) ที่วางแผนใช้จ่ายเท่าเดิมหรือน้อยลง

 

ความแตกต่างทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมส่งผลต่อการเลือกที่พักอย่างชัดเจน ชาวออสเตรเลียเน้นกางเต็นท์และใกล้ชิดธรรมชาติ (11%) ส่วนนักท่องเที่ยวจีน (35%) และสิงคโปร์ (32%) พุ่งเป้าไปที่โรงแรมบูติกและหรูหรา ซึ่งคนไทยก็ชื่นชอบไม่แพ้กัน (23%)

 

ประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมก็มาแรงไม่แพ้กัน นักท่องเที่ยว 7 ใน 10 ยินดีควักกระเป๋าจ่ายแพงขึ้นเพื่อที่พักรักษ์โลก โดยคนไทยทำคะแนนสูงถึง 94% เป็นอันดับสองของโลกรองจากอินโดนีเซีย

 

“แม้ว่างบประมาณยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ แต่นักท่องเที่ยวกลุ่ม Conscious Travellers ก็ยังคงพร้อมที่จะใช้เงินกับสิ่งที่สำคัญสำหรับพวกเขา รวมถึงการจ่ายเงินเพิ่มสำหรับที่พักที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” สุภกฤษฎิ์ แผนสมบูรณ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท SiteMinder กล่าว

 

ความสนใจในรายละเอียดพื้นฐานยังคงสำคัญ ทั้งหมอนและเครื่องนอน (56%) วิวทิวทัศน์ (53%) การควบคุมอุณหภูมิ (35%) ระบบความบันเทิง (35%) อ่างอาบน้ำ (30%) และแรงดันน้ำฝักบัว (29%) โดย 4 ใน 5 ของนักท่องเที่ยวพอใจกับผ้าเช็ดตัวธรรมดาที่วางอยู่ในห้องน้ำหรือบนเตียง โดยไม่จำเป็นต้องพับเป็นงานศิลปะให้วุ่นวาย

 

ปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวกลับมาพักซ้ำคือประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร (37%) โดยชาวไทย 51% ย้ำว่าบริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยมและการสื่อสารที่ชัดเจนคือกุญแจสู่ใจพวกเขา ขณะที่อีก 20% เน้นการเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและชุมชนท้องถิ่น

 

สุภกฤษฎิ์ สรุปว่า “นักท่องเที่ยวในปี 2568 ต้องการให้โรงแรมดูแลสิ่งสำคัญพื้นฐานให้ดี ควบคู่ไปกับการให้บริการพิเศษเพิ่มเติม ซึ่งความสมดุลนี้คือสิ่งที่นักท่องเที่ยวกลุ่ม Conscious Travellers ให้ความสำคัญ”

 

ถึงเวลาแล้วที่โรงแรมต้องเปลี่ยนจากการเป็นแค่ ‘ที่พัก’ ให้กลายเป็น ‘จุดหมาย’ ในตัวเอง เพราะในยุคที่คนเลือกจะ ‘อยู่กับที่’ มากขึ้น การสร้างประสบการณ์ที่ทั้งใกล้ชิดท้องถิ่นและใส่ใจโลกไม่ใช่แค่ตัวเลือก แต่เป็นความจำเป็นสำหรับธุรกิจที่อยากอยู่รอดในศึกท่องเที่ยวปี 2568

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising