Gen Z คำที่ใช้จำกัดความกลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี 2540-2555 และมีอายุระหว่าง 9-24 ปี คำนิยามห้อยท้ายเวลาเอ่ยถึงคนเจนนี้คือ เป็นกลุ่มคนวัยกล้า มีความเป็นตัวเองสูง แสดงออกตรงไปตรงมา รู้วิธีขับเคลื่อนพลังชีวิต และบางครั้งยังสามารถขับเคลื่อนโลกยุคใหม่ด้วยวิธีที่คนรุ่นใหญ่คิดไม่ถึง ที่เจ๋งคือ งานวิจัยของ Jason Dorsey นักวิจัยจาก The Center for Generational Kinetics พบว่า พวกเขาก็เชื่อเช่นกันว่าคนรุ่นเขานี่แหละจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก
ด้วย DNA ที่มีความมั่นใจเป็นส่วนผสมเยอะหน่อย อาจทำให้คนที่ไม่เข้าใจมองว่าพวกเขาเป็นเจนที่สนใจแต่เรื่องของตัวเอง ผลสำรวจจาก genzinsights เว็บไซต์ที่รวบรวมทุกประเด็นและเทรนด์ที่น่าสนใจของคน Gen Z พบว่า 53% ของคน Gen Z เห็นด้วยว่า ‘ความสำเร็จส่วนตัว’ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต แต่ช้าก่อน!
เพราะในขณะที่พวกเขามีแผนชีวิตที่ชัดเจน แต่ก็มีคน Gen Z มากกว่า 68% ที่ออกมาบอกว่าพวกเขากังวลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งดูจะสอดคล้องกับผลสำรวจที่พบว่า 60% ของคนเจนนี้ต้องการให้งานของพวกเขาส่งผลกระทบทางบวกต่อโลกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และถ้าให้หยิบยกประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญที่สุดสำหรับ Gen Z มากถึง 85% กังวลเรื่องมลภาวะ และ 87% มองว่าภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนของสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องใกล้ตัว และเป็นเรื่องที่พวกเขาต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง
จะว่าไปก็น่าเห็นใจและน่ายกย่อง เพราะดูเหมือนว่าคนเจนนี้ต้องใช้ชีวิตในยุคที่ต้องบุกเบิกเส้นทางชีวิตใหม่ด้วยตัวเอง และยังต้องรับมือกับโลกและสังคมป่วยๆ ไปพร้อมๆ กัน
ถ้าจะท้อก็ไม่แปลก แต่ก็มีอีกหลายคนที่ไม่รอให้ใครมากำหนดชะตาชีวิต เลือกที่จะลุกเดิน ‘ก้าวต่อ’ เพื่อสร้างโลกและสังคมให้ดีขึ้นในแบบที่เชื่อมั่น
‘หมอเน๋ง-ศรัณย์ นราประเสริฐกุล’ น่าจะเป็นต้นแบบคน Gen Z ที่ไม่เคยอ่อนข้อให้กับแพสชัน เลือกที่จะ ‘ก้าวต่อ’ เดินตามฝันวัยเด็กด้วยการเป็นสัตวแพทย์ โดยมีคุณพ่อเป็นต้นแบบ เป้าหมายของเขาคือยกระดับคุณภาพชีวิตของสัตว์ในเมืองไทยให้ดียิ่งขึ้น นั่นทำให้ฝันอยากมีโรงพยาบาลสัตว์ไว้รักษาสัตว์ป่วย นอกจากเหนือ Pet Wellness Center ที่เขาเปิดร่วมกับเพื่อน และลงพื้นที่ไปช่วยเหลือสัตว์เลี้ยง รวมทั้งให้ความรู้กับชาวบ้าน YouTube Channel: Nengnn พร้อมกับสร้างเครือข่ายสัตวแพทย์ โดยหวังให้เป็นพื้นที่รวมคนที่มีพลังงานบวกแบบเดียวกันมาร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อสังคมไปด้วยกัน
นอกจากบทบาทของสัตวแพทย์ใจดี เขายังสวมหมวกนักแสดงหน้าใหม่ที่ไม่เคยหยุดพัฒนาตัวเอง แม้จะต้องเจอกับบททดสอบมากมาย เพราะเขารู้ดีว่า การก้าวต่อไปไม่สต๊อป ทำให้เขาได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักไปพร้อมๆ กับการดูแลครอบครัว
นี่เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างของการ ‘ก้าวต่อ’ ยังมีอีกหลายเรื่องราวก้าวต่อไปไม่สต๊อปของเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนพร้อม ‘ก้าวต่อ’ ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ‘หนุ่ม-สิทธิเดช บรรมณี’ เจ้าของเพจ ‘ม้าม่วง’ อินฟลูเอ็นเซอร์สายฮา หนึ่งในแก๊งพาวเวอร์พัฟเกย์ ที่กว่าจะก้าวผ่านความรู้สึกไร้ค่าจนเกือบคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ลุกขึ้นมาก้าวต่อไปไม่สต๊อป หรือ แม๊กซีน-อินทิพร แต้มสุขิน อดีตนักแสดงที่ประสบสารพัดปัญหาสุขภาพตั้งแต่อายุ 27 ปี โยนสุขภาพแย่ๆ ทิ้ง สลัดความคิดลบออกไปจากหัว แล้วก้าวต่อไปไม่สต๊อปด้วยการลุกขึ้นมาดูแลตัวเอง และแชร์ความรู้เรื่องสุขภาพ ส่งต่อพลังบวกให้กับคนที่มีปัญหาสุขภาพเหมือนกัน
จริงๆ แล้วแคมเปญ #วิชาก้าวต่อ #TeamUnstoppable ซึ่งเป็นแคมเปญระดับภูมิภาคของ Samsung เปิดโอกาสให้คน Gen Z เข้ามาร่วมแชร์เรื่องราวความกล้า ความพยายาม และความคิดสร้างสรรค์ของตนเองในการก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ให้สามารถ ‘ก้าวต่อไปไม่สต๊อป’ ผ่านแคมเปญนี้มาตั้งแต่ปี 2564
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับปรากฏการณ์ของความกล้าหาญ Samsung จึงสานต่อแคมเปญเป็นปีที่ 2 ท้าคนรุ่นใหม่ให้กล้าฉีกกรอบ ออกจากสิ่งเดิมๆ และริเริ่มสิ่งใหม่ โดยปีนี้ Samsung เชิญเหล่านักสร้างความเปลี่ยนแปลงยุคใหม่ทั่วภูมิภาคมาร่วมสร้างแรงบันดาลใจ และความพิเศษของปีนี้ นอกจาก Samsung ประเทศไทยจะส่งต่อแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่มุ่งมั่นตามความฝันต่อไปไม่สต๊อป ยังต้องการสะท้อนให้เห็นว่าพวกเขายังสามารถทำความฝันควบคู่ไปกับการส่งต่อสิ่งดีๆ ให้กับสังคมได้ด้วยวิธีของตัวเอง เพราะในยุคที่เรามีเทคโนโลยีรอบตัวมากมาย ไอเดียเจ๋งขนาดไหนก็ส่งต่อและแชร์ไปถึงทุกคนทั่วโลกได้
ดูเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจหลากหลายสาขาอาชีพที่ไม่มีอะไรหยุดพวกเขาให้ ‘ก้าวต่อ’ ได้ที่ TikTok Samsung Thailand หรือ (http://bit.ly/3Gf0gai)
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมของแคมเปญ #วิชาก้าวต่อ #TeamUnstoppableTH และรายละเอียดการเข้าร่วมกิจกรรม Challenge #วิชาก้าวต่อ #TeamUnstoppableTH ได้ที่ www.samsung.com/th/teamunstoppable
อ้างอิง:
