ถึงโลกจะยังคงหมุนรอบตัวเอง (และหัวใจหมุนรอบตัวเธอ) ทุกวัน วันละ 24 ชั่วโมงเท่าเดิม แต่โลกในความหมายของสังคม ค่านิยม การใช้ชีวิตในปัจจุบันหมุนเร็วกว่าโลกในอดีตมากมายหลายเท่านัก และนั่นทำให้เหล่ามนุษย์คนรุ่นใหม่อย่างชาว ‘Gen Z’ มีวิธีการคิดและการใช้ชีวิตที่แตกต่างจากเหล่าผู้อาบน้ำร้อนมาก่อนมาก
หนึ่งในเรื่องที่พวกเขาไม่เหมือนกับคนรุ่นก่อนหน้าคือการใช้ชีวิต แม้ว่าด้วยวัยแล้วจะยังคงเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้มีรายได้มากนัก (แต่ถ้าใครรายได้สูงแล้วก็ยินดีด้วย) แต่สิ่งแรกที่พวกเขาให้ความสำคัญไม่ใช่เรื่องของการออมไว้ใช้ในวันข้างหน้า เพราะสิ่งที่สำคัญมากกว่าคือเวลาที่จะได้ใช้จ่ายไปกับการเรียนรู้ชีวิตผ่านการท่องเที่ยวในวันนี้
เรื่องนี้มีการสำรวจโดยบริษัท Morning Consult ถึงไลฟ์สไตล์ของชาว Gen Z ในสหรัฐอเมริกา และพบว่าเกินกว่าครึ่งของชาว Gen Z นั้นต่างเป็นนักเดินทางตัวยง โดยในปี 2022 ที่ผ่านมา เฉลี่ยแล้วจะออกเดินทางท่องเที่ยวกันอย่างน้อย 3 ทริปเป็นอย่างต่ำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ผู้เปลี่ยนเกมแห่งศตวรรษที่ 21: อิทธิพลที่ไม่เคยมีมาก่อนของ Gen Z ต่อธุรกิจ
- Gen Z ฮิตแต่งตัวสไตล์ Y2K เป็นเหตุ กระแสแฟชั่นกางเกงเอวต่ำ, กระเป๋าทรงบาแกตต์, กระโปรงแม็กซี่ และรองเท้า UGG ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง!
- วัยรุ่น Gen Z ที่ชินกับการใช้ iPhone เพิ่งรู้ว่า ‘กล้องดิจิทัล’ ถ่ายภาพคมชัดกว่าเห็นๆ!
ลินด์ซีย์ รอสช์เก (Lindsey Roeschke) นักวิเคราะห์ด้านการท่องเที่ยวและการบริการจาก Morning Consult อธิบายว่า “ให้พูดแบบสั้นๆ คือพวกเขาเติบโตในสังคมที่ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวมากกว่าคนรุ่นก่อนๆ”
ข้อมูลจาก Morning Consult ระบุว่า 52% ของชาว Gen Z เดินทางมากกว่า 3 ทริปต่อปี ในขณะที่ 30% จะท่องเที่ยวปีละ 1-2 ครั้ง และ 17% ที่ไม่ท่องเที่ยวเลย ซึ่งตัวเลขนี้ใกล้เคียงกับคนรุ่นก่อนหน้าอย่าง ‘Millennials’
แต่ถ้านำข้อมูลมาเทียบกับคนรุ่นก่อนอย่าง ‘Gen X’ จะเริ่มพบความแตกต่าง เมื่อคนเจเนอเรชันนี้ท่องเที่ยว 3 ครั้งขึ้นไปต่อปีแค่ 41% และจะต่างกันมากกับคนรุ่น ‘Baby Boomers’ ที่ท่องเที่ยว 3 ครั้งขึ้นไปต่อปีแค่ 35% เท่านั้น
จากข้อมูลพอจะสรุปได้ว่าชาว Gen Z นั้นไม่ต้องการที่จะรอให้เติบโตในหน้าที่การงาน มีเงินรายได้สูงๆ ก่อน หรือหยอดกระปุกสะสมสำหรับการท่องเที่ยว แต่พวกเขาขอเลือกที่จะหาหนทางออกไปเที่ยวให้สอดคล้องกับงบประมาณในกระเป๋าที่มี ซึ่งด้วยข้อมูลการท่องเที่ยวที่หาได้ง่ายดายแค่ปลายนิ้วสัมผัสในปัจจุบัน ทำให้การวางแผนการท่องเที่ยวอย่างประหยัดเป็นไปได้ง่ายมากขึ้น
ขณะที่ผลการสำรวจโดย Student Beans ที่เปิดเผยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ระบุว่า 83% ของคนรุ่นใหม่พร้อมจะลดค่าใช้จ่ายในสิ่งที่ฟุ่มเฟือยลงเพื่อให้ได้ไปเที่ยวด้วย โดยระบุว่าชาว Gen Z ใช้จ่ายกับแฟชั่นแค่ 7% ค่าอาหาร 12% ในขณะที่ใช้กับการเดินทางท่องเที่ยวถึง 60%
ส่วนแรงจูงใจในการออกไปผจญภัยในโลกกว้างของพวกเขานั้นมาจากหลายเหตุผลด้วยกัน โดย 3 แรงจูงใจสำคัญที่สุดของชาว Gen Z ในสหรัฐอเมริกาคือการพักผ่อน การหลบหรือการหลุดพ้น และการใช้จ่ายวันเวลากับครอบครัวและเพื่อนฝูง ในขณะที่เหตุผลรองลงมาคือการผจญภัย เรื่องสุขภาพจิต และการเปิดประสบการณ์ทางวัฒนธรรมใหม่ๆ โดยที่ Morning Consult ระบุว่าพวกเขาวางแผนการท่องเที่ยวให้นานขึ้น เดินทางไปต่างประเทศมากขึ้น และไม่สนใจในประเทศที่เคยไปมาแล้ว
เรียกได้ว่าการใช้ชีวิตของชาว Gen Z มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ซึ่งแม้การไปเที่ยวบ่อยๆ จะทำให้ทรัพย์จางบ้าง แต่อย่างน้อยที่สุดในทุกการใช้จ่ายนั้นสิ่งที่จะได้รับตอบแทนกลับมานอกจากความสุข ความสนุก มิตรภาพแล้ว คือความรู้ ประสบการณ์ และสิ่งสำคัญที่สุดคือความทรงจำที่จะอยู่ด้วยกันตลอดไป
แต่ก็อย่าลืมออมเงินไว้เผื่อฉุกเฉินด้วยนะ!
อ้างอิง: