×

ทำไม Gen Z และ Gen Y จะเป็น ‘ผู้นำ’ ที่ดีที่สุดที่โลกเคยมีมา

โดย THE STANDARD TEAM
24.10.2024
  • LOADING...
gen z

เรากำลังเผชิญกับอะไร

 

ต้องยอมรับว่าปัญหาที่เรากำลังเผชิญในโลกวันนี้ใหญ่เกินกว่าจะแก้ไขได้ด้วยคนเพียงรุ่นเดียว ทั้งปัญหาสิ่งแวดล้อม ความเหลื่อมล้ำ ไปจนถึงการปรับตัวรับ AI จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะบอกว่า Human Capital หรือ ‘มนุษย์’ คือหัวใจสำคัญที่กำหนดอนาคตของประเทศ ซึ่ง ‘ปัญหาสมองไหล’ และ ‘โครงสร้างประชากร’ ที่เปลี่ยนไป ทำให้เรื่อง ‘มนุษย์’ กลายเป็นเรื่องท้าทายสำหรับประเทศไทย

 

ภายในเวลาแค่ 3 ปีที่ผ่านมา ระหว่างปี 2021-2023 ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เผยจำนวนคนไทยที่แสดงเจตจำนงอพยพออกนอกประเทศเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะกลุ่มที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป มีการเติบโตของตัวเลขส่วนต่างระหว่างคนไทยที่ย้ายออกนอกประเทศ ซึ่งมากกว่าคนต่างชาติย้ายเข้ามา จาก 4,000 คนในปี 2010-2012 กลายมาเป็นตัวเลขถึง 900,000 คน

 

ปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดของวันนี้จึงไม่ใช่สิ่งใดอื่น นอกจากเราจะสามารถเสริมพลังให้ผู้นำรุ่นใหม่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร และนั่นคือโจทย์ที่เราคิดกันในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2024 ในโซน Young Leaders Dialogue

 

ทำไมอนาคตถึงอยู่ในมือผู้นำรุ่นใหม่

 

1. เพราะพวกเขาเติบโตมาในโลกที่เต็มไปด้วย ‘ปัญหา’

คน Gen Z และ Gen Y โตมากับการแบกรับเรื่องปวดหัวมากมาย ทั้งปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เดินมาถึงจุดวิกฤต ปัญหาสังคม-ความเหลื่อมล้ำที่สั่งสมและแก้ไม่ตก และยังเผชิญโรคระบาดจนกลายเป็น COVID Generation ที่ได้รับผลกระทบมาถึงวิถีชีวิตและการทำงาน 

 

พวกเขาจึงเป็นขุมพลังของ ‘Purposeful Leader’ ที่อยากมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาของโลกที่เราต่างกำลังเผชิญ เพราะเป็นคนที่เจอปัญหามากับตัว จึงพร้อมที่จะเปลี่ยนมันผ่านบทบาทของผู้นำที่มี Purpose ซึ่งไม่แบ่งแยกระหว่างโลกธุรกิจหรือโลกของการทำเพื่อสังคมอีกต่อไป แต่มองหาการสร้างงานและองค์กรที่เติบโตด้วยการกระจายความมั่งคั่งและประโยชน์ให้กับสิ่งแวดล้อมและสังคมด้วย

 

2. เพราะพวกเขาไม่ใช่ ‘ผู้อพยพ’

หากเคยได้ยินคำว่า Digital Immigration และ Digital Native คงจะนึกภาพออก เรากำลังพูดถึงคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจความเป็นไปของโลกใหม่โดยไม่ต้องฝืนตัวเองมากนัก เพราะเขาสนิทกับโลกของ AI มาตั้งแต่เกิด เติบโตกับโลกของดิจิทัลมาตั้งแต่เด็ก ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาของโลกวันนี้ 

 

ในวันที่คู่แข่งและประเทศอื่นต่างกำลังใช้ AI และเทคโนโลยีเพื่อมองหาทางออกใหม่ๆ เราจึงต้องการผู้นำรุ่นใหม่ที่มี Innovative Mindset เป็นเครื่องมือในการพามุมมองใหม่ๆ มาสู่ปัญหาเก่าๆ นั่นเอง

 

3. เพราะพวกเขาคุ้นชินกับ ‘การปรับตัว’

หากมองโลกในระยะยาว พวกเขาจะกล้าที่จะเสี่ยงมากขึ้น ด้วย Future Oriented Vision นำมาสู่การทดลองทำสิ่งใหม่ พยายามทำสิ่งที่แตกต่างไม่รู้จบ และนี่อาจเป็นทางออกของปัญหาวนลูปทั้งหลายที่สั่งสมมาอย่างยาวนานก็ได้

ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพระหว่าง ช้างตัวใหญ่ vs. หมูเด้ง แน่นอนว่าหมูเด้งคงจะมีโอกาสที่จะปรับตัว เคลื่อนตัว และเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งใหม่ได้เร็วกว่า แม้อาจมีหลายเรื่องที่ผู้ใหญ่มีภูมิคุ้มกันและมีประสบการณ์มากกว่า แต่ต้องยอมรับว่า Sense of Adaptability เป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นกันในวันนี้

 

4. เพราะสำหรับพวกเขา ‘ความหลากหลาย’ คือหัวใจ

ความหลากหลายไม่ใช่แค่ศัพท์ฮิต แต่เป็นกุญแจสำคัญสู่นวัตกรรม เช่น ในซิลิคอนแวลลีย์ ไอเดียและนวัตกรรมใหม่ๆ ล้วนเกิดจากการส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการรวมกลุ่ม ยิ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ความหลากหลายทางความคิด ยิ่งนำมาสู่การเปิดความสามารถและมุมมองที่หลากหลาย และนำไปสู่การค้นเจอไอเดียที่ดีได้

 

อาจบอกได้ว่าหมดยุคของการปิดห้องคุยกันเองไม่กี่คน แต่เป็นยุคของ Open Innovation ที่ยอมรับและเปิดกว้างให้กับความหลากหลายมากขึ้น

 

5. เพราะพวกเขารู้ว่า ‘เกิดอะไรขึ้น’ ในอีกซีกโลก 

ลำพังความรู้ในประเทศไทย ไม่เพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาใหญ่ๆ อย่างปัญหาสิ่งแวดล้อม ปัญหาการเมือง ปัญหาทางสังคมอื่นๆ อีกต่อไป แต่แค่ปลายนิ้วก็สามารถสร้าง Global Perspective ได้ ด้วยการเข้าถึงคอนเทนต์ระดับโลก เข้าถึงสิ่งที่ดีที่สุดในระดับโลก คนรุ่นนี้จึงสามารถคัดกรองสิ่งที่ดีที่สุดจากทั่วโลกมาสู่ตัวเอง ทำให้การอยู่ในระดับ Global เป็นไปได้มากขึ้น

 

คำถามสำคัญของประเทศไทย

 

เสียงของผู้นำรุ่นใหม่ที่ว่ามาทั้งหมดนี้อยู่ที่ไหน?

 

เมื่อกลับมาหาคำตอบว่าเสียงของพวกเขาเข้าถึง ‘คนรุ่นใหญ่’ ในสังคมนี้ได้มากน้อยแค่ไหน พวกเขาเข้าถึงผู้กุมอำนาจทางเศรษฐกิจ และสังคมได้มากเพียงใด คงต้องย้อนกลับมาถามว่า

 

เรามีพื้นที่ให้ผู้นำรุ่นใหม่เหล่านี้แค่ไหน?

 

ในเมื่อวันนี้ประเทศไทยต้องการความคิดใหม่ ทางออกใหม่ และการประสานพลังเพื่อเชื่อมช่องว่างระหว่างรุ่นและร่วมมือกันสร้างอนาคตที่ดีกว่า THE STANDARD จึงอยากร่วมสร้างบทสนทนา เป็นจุดเล็กๆ ที่เราจะได้พบพลังใหม่ๆ มาร่วมขับเคลื่อนประเทศ จึงเป็นที่มาที่เราทดลองทำสิ่งใหม่ในงานประจำปีของพวกเราก็ว่าได้

 

Young Leaders Dialogue คือครั้งแรกที่เรายกเวทีให้คนรุ่นใหม่ออกแบบอนาคตประเทศไทย ชวนคนรุ่นใหม่ที่คุณอาจไม่เคยได้ยินชื่อของเขามาก่อน คนเก่งระดับโลกให้พวกเขาได้มาโชว์ศักยภาพในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2024 วันที่ 13-15 พฤศจิกายน 2567 ที่พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน

 

นอกจาก Main Stage ที่คุณจะได้มาฟังคนกำหนดนโยบาย ชวนมาฟัง Young Leaders Dialogue ที่จะมาคุยกันเรื่อง Climate Tech, Global Talent, Open Data และอีกมากมาย

 

ผมอยากพาคนเก่งๆ มาเจอกันที่นี่
และอยากให้คุณได้ไอเดียและพลังกลับไป

 

แล้วพบกันครับ

 


 

มาเจอกันที่ THE STANDARD ECONOMIC FORUM 2024

🔥 บัตร Early Bird จำนวนจำกัด ส่วนลดถึง 2,000.- 

ดูรายละเอียดที่ https://bit.ly/tsef2024WhyGenZY 

 

🔺 บัตรใบเดียวเข้างานได้ 3 วันเต็ม 

วันที่ 13-15 พฤศจิกายน 2567 ณ พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน

🔺 เลือกซื้อบัตร 1 วันได้ในราคาพิเศษ เพียงใบละ 1,590.-

🔺 เนื้อหาเจาะลึกเมกะเทรนด์ปี 2025 เศรษฐกิจ / AI / ภูมิรัฐศาสตร์ / EV 

🔺 ฟังอินไซต์จากผู้ออกแบบนโยบายจริง วางแผนอะไร คิดอะไรอยู่ 

🔺 พบผู้นำรุ่นใหม่ ชวนเปิดมุมมอง ลับคมไอเดียให้คุณแตกต่าง

 

ซื้อบัตรองค์กร ติดต่อ [email protected] 

หรือ โทร. 02 079 5428 กด 6 (เวลาทำการ 10.00-18.00 น.)

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X