×

ทำไม Gen Z ตกเป็นเหยื่อเสี่ยงถูกหลอกลวงทางการเงินมากกว่ากลุ่ม Baby Boomer ถึง 3 เท่า

27.02.2024
  • LOADING...
Gen Z หลอกลวง

เมื่อพูดถึงการก่อหนี้และการใช้จ่ายของคนแต่ละวัย พบว่า Gen Z (คนที่เกิดช่วงปี 2541-2555 (ช่วงอายุ 10-25 ปี) ซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนโลกออนไลน์ สื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก เป็นวัยที่สร้างงานสร้างรายได้ได้ค่อนข้างเร็ว ทำให้มีเงินจับจ่ายใช้สอยเร็วตามไปด้วย แต่เหตุใด Gen Z กลับเป็นวัยที่เสี่ยงต่อการถูกหลอกลวงทางการเงินอย่างง่ายดาย โดยพบข้อมูลโจรกรรมทางการเงินมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ และเป็นตัวเลขที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์

 

TIME รายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ปรึกษาทางการเงินของ The Cut ซึ่งเป็นนิตยสารชื่อดังของสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยประสบการณ์ความเสียหายว่าได้สูญเสียเงิน 50,000 ดอลลาร์จากการหลอกลวงผ่านออนไลน์ แม้ว่าเหตุการณ์นี้อาจไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับคนหนุ่มสาวที่คุ้นชินกับข่าวทำนองนี้ไปมากแล้ว

 

แต่รายงานของ Deloitte สรุปข้อมูลอย่างน่าสนใจว่า แม้ว่ากลุ่มคนอายุน้อยที่เชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งมักจะใช้อินเทอร์เน็ตในงานออนไลน์อย่างคล่องแคล่ว แต่ข้อมูลกลับพบว่า Gen Z มีแนวโน้มที่จะตกเป็นเหยื่อกลโกงทางออนไลน์มากกว่า 3 เท่า เมื่อเทียบกับกลุ่ม Baby Boomer

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

โดยการโจรกรรมทางออนไลน์ในปัจจุบันมักจะเจาะไปที่คนรุ่นใหม่ เนื่องจากผู้คนมากกว่าครึ่งหนึ่งใช้เวลาไปกับโซเชียลมีเดีย ซึ่งโดยเฉลี่ยใช้งานนานไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่คนรุ่นเก่าอาจคุ้นชินการใช้อีเมลและการโทรมากกว่า

 

Jonathan H. Swanburg ประธานของ TSA Wealth Management ระบุว่า ปัจจัยหนึ่งคือวัยรุ่น Gen Z อาจเห็นโฆษณาบน Facebook, Instagram หรือ TikTok ที่โน้มน้าวสำหรับการลงทุนที่จะให้ผลตอบแทน 10% ต่อเดือนโดยไม่มีความเสี่ยง

 

เพราะกลุ่มคนรุ่นใหม่วางแผนการเงินลักษณะที่ต้องการการรวยเร็ว ได้เงินง่าย ดังนั้นเมื่อบวกกับการรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ ค่าใช้จ่ายที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้น และหนี้สินที่เพิ่มขึ้น อาจตกเป็นเหยื่อได้ง่าย

 

โดยล่าสุด ข้อมูลจากคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ หรือ Federal Trade Commission (FTC) สรุปข้อมูลการตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงทางออนไลน์ก่อให้เกิดความเสียหายเพิ่มมากขึ้น โดยในปี 2566 พบว่าผู้บริโภคสูญเสียเงินจากการหลอกลวงออนไลน์สูงถึงกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับปีก่อน

 

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าจำนวนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อออนไลน์อาจเพิ่มขึ้น ​โดย Andrew Fincher นักวางแผนทางการเงิน ตั้งข้อสังเกตว่านักต้มตุ๋นมักจะพยายามปลอมแปลงอีเมล ข้อความ หรือโทรศัพท์ตรงจากธนาคาร ซึ่งอาจเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อคนหนุ่มสาวที่ใช้ชีวิตออนไลน์เป็นหลัก

 

อีกทั้งความก้าวหน้าของ AI ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อผู้บริโภค เนื่องจากเทคโนโลยีทำให้มีความซับซ้อนและสมจริงมากขึ้นไปอีก

 

“ถ้าผู้คนไม่ใส่ใจกับธุรกรรมทางการเงินผ่านมือถือ การบันทึกรหัสผ่านในโทรศัพท์ และใช้รหัสผ่านที่คล้ายกัน นั่นอาจทำให้นักหลอกลวงเข้าถึงหลายบัญชีได้ง่ายมากขึ้น  เพราะคนรุ่นใหม่มักจะเก็บธุรกรรมทางการเงินทางออนไลน์มากกว่ายุคในอดีต”

 

ภาพ: We Are / Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X