ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD ถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และผลกระทบที่มีต่อการปรับประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปี 2564
โดย ผศ.ดร.ธนวรรธน์ ชี้ว่า ปัจจุบันสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในประเทศไทยจะได้รับผลกระทบมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลักสำคัญ ประกอบด้วย
- สถานการณ์โควิด-19 ในระดับโลกและประเทศไทยจะคลายตัวเมื่อไร
- สถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเด็นสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย บอกว่า สถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ยังคงยากที่จะประเมินผลได้ แต่ไม่น่าจะมีผลกระทบในเชิงแย่ลง แต่ควรจะผ่อนคลายและค่อยๆ ดีขึ้นได้ จึงเป็นที่มาที่ทำให้ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่าในช่วงปีหน้า เศรษฐกิจไทยน่าจะโตที่ระดับ 2.8%
“อย่างไรก็ดี สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ยังคงเป็นปัจจัยที่เราไม่สามารถละเลยได้ เพราะเศรษฐกิจอาจจะมีความเสี่ยงต่อการเติบโตต่ำที่ระดับ 1.8% โดยเฉพาะหากการเมืองไทยมีปัญหา และสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ยังไม่ดีขึ้น
ขณะที่สถานการณ์การระบาดในจังหวัดสมุทรสาครในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยดำเนินการตรวจในเชิงรุกและพบผู้ติดเชื้อมากกว่าวันละ 500 ราย โดยการติดเชื้อดังกล่าวเริ่มแพร่กระจายไปยังจังหวัดต่างๆ แต่การแพร่กระจายไปยังจังหวัดต่างๆ นั้นเป็นการแพร่กระจายของผู้ติดเชื้อในหลักสิบรายในไม่กี่จังหวัด รวมถึงยังคงไม่สามารถประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจว่ามีผลมากน้อยแค่ไหน
ดังนั้น เราคงจะต้องติดตามสถานการณ์ต่อจากนี้ในช่วงระยะเวลา 7-14 วันอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาอันตราย หากตัวเลขผู้ติดเชื้อในแต่ละจังหวัดไม่ได้เพิ่มขึ้นเป็นหลักร้อย และสามารถควบคุมการกระจายของการแพร่ระบาดไม่ให้ลุกลามในวงกว้างได้ เราคิดว่าสถานการณ์น่าจะเริ่มคลายตัวหลังผ่าน 14-30 วันไปแล้ว ซึ่งหากเป็นไปตามนี้ เศรษฐกิจไทยในปีหน้าก็น่าจะยังคงเติบโตที่ระดับ 2.8%”
ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย บอกว่า ด้วยเหตุผลทั้งหมดจึงทำให้ทางศูนย์ฯ ตัดสินใจที่จะยังไม่ปรับลดประมาณการตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีหน้าลงไปจากเดิม แต่เชื่อว่าคงต้องติดตามข้อมูลในช่วง 7-14 วันต่อจากนี้อย่างใกล้ชิด ว่าการระบาดของโควิด-19 จากสมุทรสาครจะแพร่กระจายในวงกว้างมากน้อยเพียงใด
ขณะที่สัญญาณการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจไทยนั้น ผศ.ดร.ธนวรรธน์ มองว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณต่างๆ ในระดับเบื้องต้นช่วงไตรมาส 4/64 แต่ในเชิงภาพรวมนั้น เชื่อว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณและสถานการณ์ที่ค่อยๆ ดีขึ้นต่อเมื่อสถานการณ์การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของทั้งโลกเริ่มมีผลแพร่กระจายในวงกว้าง โดยน่าจะเห็นชัดตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาสที่ 2 ของปีหน้าเป็นต้นไป
“ทั้งนี้ ผมมองว่าการฟื้นตัวที่จะทำให้คนไทยส่วนใหญ่เริ่มรับรู้ว่ามีเงินในกระเป๋าสตางค์ของตัวเอง และเริ่มเห็นว่าเศรษฐกิจเข้าสู่ช่วงการฟื้นตัวแล้วน่าจะอยู่ในช่วงปลายปี 2564”
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล