×

GBC ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ ร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด ด้านกัมพูชาตอบรับปราบสแกมเมอร์-จัดระเบียบบ้านหนองจาน

โดย THE STANDARD TEAM
10.09.2025
  • LOADING...
GBC ไทย-กัมพูชา

วันนี้ (10 กันยายน) ที่โรงแรมเซ็นทารา ชานทะเลแอนด์วิลล่า จังหวัดตราด พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า การประชุมในวันนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการผลการประชุม GBC ที่ประเทศมาเลเซีย รวมทั้งข้อตกลงหยุดยิง และแนวทางการดำเนินการ จะนำไปสู่สันติภาพและความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนได้อย่างถาวร

 

การหารือวันนี้เป็นไปอย่างราบรื่น ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าหลายด้าน ถือเป็นความสำเร็จใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างกัน และยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายจะยึดมั่นแนวทางนี้ต่อไป ถึงแม้ว่ามีข้อห่วงกังวลบางประการที่ทำให้ฝ่ายไทยและประชาชนไทยไม่สบายใจ และอาจเป็นอุปสรรคต่อความฟื้นฟูความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้เป็นไปอย่างดังเดิมอยู่บ้าง แต่สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน และเป็นพัฒนาการสำคัญ ประกอบด้วย

 

  1. การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูงออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการ GBC และ RBC จะหารือกันภายใน 3 สัปดาห์ เพื่อจัดทำแผนดำเนินการและเริ่มเคลื่อนย้ายกำลังตามกรอบเวลาที่กำหนด โดยให้คณะผู้สังเกตการณ์ (IOT) มาร่วมสังเกตการณ์

 

  1. การเก็บกู้ทุ่นระเบิด จะมีการตั้งคณะประสานงานร่วม ประกอบด้วย ฝ่ายเลขานุการ GBC และศูนย์ทุ่นระเบิดของไทย-กัมพูชา ภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อจัดทำแผนเก็บกู้ทุ่นระเบิดและแผนนำร่องตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มดำเนินการทันทีภายใน 1 เดือน 

 

  1. การปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ หรือ สแกมเมอร์ ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ของทั้ง 2 ฝ่าย ตั้งคณะทำงานภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติงานร่วมกัน

    ทั้งนี้ ฝ่ายไทย ได้ส่งมอบข้อมูลพิกัดที่ตั้งสแกมเซ็นเตอร์กว่า 60 แห่ง ให้ฝ่ายกัมพูชา ให้ไปดำเนินการปราบปรามขั้นเด็ดขาด ซึ่งเป็นสิ่งที่คณะทำงานจะหารือ และผู้แทนของตำรวจไทยและรองผู้บัญชาการตำรวจกัมพูชาได้หารือกันนอกรอบ เพื่อนัดหมายการประชุมประสานงานตามข้อตกลง มีกำหนดการวันที่ 16 กันยายนที่จังหวัดสระแก้ว 

 

  1. การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะกรณีบ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย-กัมพูชา หารือเพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับพื้นที่ดังกล่าว และให้คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) หารือแนวทางการบริหารจัดการบนพื้นฐานผลการหารือในกรอบ JBC โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และผู้ว่าฯจังหวัดบันเตียเมียนเจย ประสานงานกันเพื่อการบริหารจัดการสถานการณ์ ให้เกิดความสงบเรียบร้อย

    ทั้งนี้ หากโมเดลนี้ประสบความสำเร็จ จะนำไปใช้บริหารจัดการพื้นที่อื่น ซึ่งมีปัญหาในลักษณะเดียวกัน

 

  1. หารือการผ่อนปรนผ่านแดนบางประเภท บางจุด และ ระหว่างที่สถานการณ์ไม่เป็นปกติ เพื่อลดผลกระทบภาคธุรกิจ การขนส่งข้ามแดน โดยมอบหมายให้กลไก RBC ไปหารือความเป็นไปได้ ในการอนุญาตให้มีการขนส่งสินค้า จุดผ่านแดนบางจุดที่ไม่มีปัญหาด้านความมั่นคง อาจเริ่มดำเนินการที่จุดผ่านแดนถาวรจันทบุรีและตราด

 

พล.อ. ณัฐพลยังกล่าวถึงพัฒนาการสัมพันธ์การประชุม GBC ครั้งนี้ คือ ฝ่ายกัมพูชาตอบรับในเรื่องที่ยังไม่เคยตอบรับ ได้แก่ การเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการปราบปรามสแกมเมอร์ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยจะติดตามกับฝ่ายกัมพูชา ให้ดำเนินการตามที่ตกลงโดยเร็ว โดยการประชุม GBC ครั้งต่อไปจะกำหนดขึ้นภายใน 30 วัน โดยมีฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ 

 

พล.อ. ณัฐพลยังย้ำว่า ไทย-กัมพูชา ไม่อาจย้ายหนีจากกันได้ จึงมีความจำเป็นที่สองประเทศต้องแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี เพื่อนำสันติภาพไปสู่ชายแดน และประชาชนทั้งสองประเทศจะได้กลับมาใช้ชีวิตปกติสุข

 

อย่าวไรก็ตาม วานนี้ (9 กันยายน) ตนได้รับทราบแนวทางจากอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่ได้เน้นย้ำเรื่องปกป้องอธิปไตยต้องมาเป็นอันดับแรก และให้ความสำคัญกับบทบาทกองทัพในการป้องกันประเทศ พร้อมให้ดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ซึ่งตนมีวิธีที่จะบริหารจัดการ โดยแบ่งโซนพื้นที่ตามความตึงเครียดของสถานการณ์ตามลำดับ

 

  • โซนที่ 1 มีความตึงเครียดสูงสูงคือพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 คือ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ 
  • โซนที่ 2 คือ สระแก้ว พื้นที่ความรับผิดชอบของ กองทัพภาคที่1 
  • โซนที่ 3 คือ จันทบุรีและตราด มีความตึงเครียดน้อยกว่าจุดอื่น

 

การแบ่งโซนดังกล่าว นำมาซึ่งแนวความคิดในการผ่อนผัน โดยจะเริ่มดำเนินการในโซนที่ 3 ก่อน และมอบหมายให้กองกำลัง จันทบุรี-ตราด ไปพิจารณาดำเนินการ เพราะเป็นมาตรการทางด้านความมั่นคง โดยให้ประสานงานในพื้นที่กับ กรมศุลกากร กระทรวงพาณิชย์ และอุตสาหกรรมสนับสนุนข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางที่นำมาเจรจากัน

 

พล.อ. ณัฐพลกล่าวอีกว่า ก่อนการประชุมตนได้หารือกับ พล.อ. เตีย เซยฮา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กัมพูชา แบบ four eyes ถึงประเด็นสาสน์ของ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาที่ส่งถึง อนุทิน นายกรัฐมนตรีของไทย ในการแสดงความยินดีต่ออนุทิน โดยข้อความแสดงถึงท่าทีซึ่งจะนำไปสู่การคลี่คลายสถานการณ์ และนายกฯ จึงอยากทราบแนวทางความคืบหน้าในการหารือในวันนี้

 

“ผมได้คุยกับท่านเตีย เซยฮา ว่าประเด็นที่ต้องแก้ไขของบ้านเราในวันนี้คือเรื่องการเก็บกู้วัตถุระเบิด กับบ้านหนองจานขอความกรุณาให้ทางกัมพูชาตอบรับในเรื่องนี้ด้วย ซึ่งผลการประชุมได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกัมพูชา อย่างไรก็ตาม ก็ต้องติดตามความจริงใจของกัมพูชาในการดำเนินการตามผลการประชุมวันนี้”

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising