‘ธุรกิจคลินิกความงาม’ หนึ่งในอุตสาหกรรมล้มยาก ฆ่าไม่ตาย มีแต่จะเติบโตตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิดเทรนด์ความงามใหม่ๆ ที่แตกต่างและหลากหลาย ผู้ประกอบการและนักการตลาดที่อยู่ในแวดวงธุรกิจความงามจึงต้องตื่นตัวอยู่เสมอเพื่อตามเทรนด์ความงามให้ทัน พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีความงามที่ตอบความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป รวมไปถึงปรับแนวทางการทำตลาดยุคใหม่ที่จะช่วยให้ธุรกิจโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่ง
ภก.พิรพัฒน์ ศรีวัฒนวงศ์ ผู้อำนวยการธุรกิจความงามประเทศไทยและกลุ่มประเทศอาเซียน บริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย) จำกัด
‘กัลเดอร์มา’ ในฐานะผู้นำนวัตกรรมด้านความงามที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่เพียงรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านการดูแลผิว โรคผิวหนัง และความงามมาตลอดระยะเวลา 40 ปี ยังมุ่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมความงามและพันธมิตรคลินิกให้ก้าวไปข้างหน้า โดยหนึ่งในกิจกรรมที่จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีก็คือ GAIN Business Forum งานสัมมนาวิชาการด้านการตลาด เทรนด์ความงาม การโฆษณาและสื่อสาร ที่เชิญผู้เชี่ยวชาญมาแชร์ความรู้และประสบการณ์ให้แก่พันธมิตรคลินิกความงามของกัลเดอร์มา เพื่อให้พันธมิตรคลินิกพัฒนาศักยภาพการดำเนินงาน สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน พร้อมคว้าโอกาสในการสร้างการเติบโตท่ามกลางความท้าทายมากมาย
โดยปีนี้ GAIN Business Forum 2024 จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ ‘ผสมผสานมิติใหม่ของความงามไปด้วยกัน’ (Aesthetics Possibilities Shaped Together) ตอกย้ำพันธกิจหลักของกัลเดอร์มา ในการขับเคลื่อนวิทยาการด้านความงามแบบบูรณาการ นำนวัตกรรมความงามผิวที่หลากหลายมาผสมผสานสู่การทำหัตถการมิติใหม่อยู่เสมอ ดึงผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและดิจิทัลมาร่วมแบ่งปันความรู้ และเปิดมุมมองการทำการตลาดสำหรับธุรกิจคลินิกความงามในยุค Marketing 6.0 พร้อมแนะนำกลยุทธ์สร้างแบรนด์ให้โดดเด่น และแนวทางสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างยั่งยืน ไปจนถึงเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภค
อ่านพฤติกรรมผู้บริโภคให้ขาด เพื่อสร้างความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจในยุค Marketing 6.0
ผศ.ดร.เอกก์ ภทรธนกุล หัวหน้าภาควิชาการตลาด ประธานหลักสูตรปริญญาโทด้านแบรนด์และการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “นักการตลาดต้องเปลี่ยนเลนส์ในการมองให้แตกต่างและหลากหลายขึ้น เพื่อให้เข้าใจมุมมองผู้บริโภคทุกเจเนอเรชัน โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลในยุคนี้”
พร้อมขยายความว่า เลนส์ที่เปลี่ยนต้องสามารถมองและแยก 3 สิ่งต่อไปนี้ให้ออก นั่นคือ What’s Real? อะไรจริง อะไรเสมือน, What’s Right? อะไรถูกสำหรับกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่ม และ What’s Rule? อะไรคือกฎเกณฑ์ที่เหมาะในการใช้ ผศ.ดร.เอกก์ ยกตัวอย่างการทำตลาดในช่วง Pride Month ด้วยการเปลี่ยนรูปโปรไฟล์บนโซเชียลมีเดียเป็นสีรุ้ง
“แบรนด์อาจมองว่านี่คือหนึ่งในวิธีทำการตลาด แต่ในมุมผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z เขาอยากเห็นการสนับสนุนที่เป็นรูปธรรมมากกว่านั้น เช่น การส่งเสริมสวัสดิการให้กับกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศอย่างเท่าเทียม”
“ผู้บริโภคยุค 6.0 ยินดีที่จะมีประสบการณ์แบบ Immersive ดื่มด่ำและหลอมรวมประสบการณ์ในโลกจริงและโลกเสมือนไปพร้อมกัน ยกตัวอย่าง ลูกค้าเดินไปดูสินค้าที่หน้าร้าน ทดลองสินค้าด้วย AR/VR โดยไม่ต้องใช้จริง หรือบางคนสะดวกสั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์และเลือกชำระเงินหน้าร้าน จะเห็นว่ามีการนำเทคโนโลยีเข้ามาผสมผสานในการสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภคได้มีทางเลือกมากขึ้น”
ผศ.ดร.เอกก์ ยังสรุปเทรนด์ความงามแห่งอนาคตจากรายงาน NEXT by Galderma ปี 2024 ที่จัดทำโดยกัลเดอร์มา ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ธุรกิจคลินิกความงามต้องให้ความสำคัญ ประกอบด้วย 6 เทรนด์มาแรง ได้แก่
- Proactive Beauty ความงามที่มุ่งไปข้างหน้า เน้นไปที่การป้องกันหรือชะลอ มากกว่าการแก้ไขหรือรักษา
- Canceling Age ความงามที่ปราศจากอายุ มีความเป็นกลาง
- Expressionality ความสวยที่สะท้อนอัตลักษณ์ในแบบที่เป็นตัวเอง
- Beauty Fandom แฟนดอมความสวย หลงใหล และอยากเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปตามไอดอลที่ชื่นชอบ
- Mindful Aesthetics ความงามแบบพอดี เป็นธรรมชาติ ไม่มากไปไม่น้อยไป
- Fast Aesthetics ความงามตามกระแสและสามารถให้ผลลัพธ์ได้รวดเร็ว
พร้อมเสริมว่า “รู้จักผู้บริโภค รู้จักเทรนด์ ยังไม่พอ ปัจจัยสำคัญในการทำธุรกิจคลินิกความงามในยุค Marketing 6.0 ให้สำเร็จต้องมี ‘ความเข้าอกเข้าใจ’ ทั้งเข้าใจความแตกต่างของลูกค้า เข้าใจเครื่องมือ และใช้เครื่องมือให้เป็น รู้จักเปลี่ยนเลนส์ในการมอง ปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลง เรียนรู้ที่จะออกนอกกรอบ และสนุกกับการใช้เครื่องมือเข้ามาเสริมการทำการตลาด”
5 เครื่องมือเสริมแกร่งธุรกิจคลินิกความงาม ประกอบด้วย
- IoT: เครื่องมือที่จะเข้ามาช่วยจับพฤติกรรมด้านความงามของผู้บริโภคแต่ละบุคคลในทุกๆ วัน
- AI: ตัวช่วยวิเคราะห์ดาต้าของผู้บริโภคแต่ละบุคคล รวมถึงกลุ่มแฟนคลับ แฟนดอมต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้คำแนะนำความงามเฉพาะบุคคลได้ดียิ่งขึ้น
- 3D Asset: เทคโนโลยีที่ช่วยสร้างภาพเสมือนจริงให้ผู้บริโภคเห็นการเปลี่ยนแปลงก่อนทำหัตถการแต่ละประเภท
- Blockchain: ตัวช่วยเสริมเรื่องการป้องกันข้อมูลรั่วไหล
- AR/VR: เครื่องมือในการสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ผสมผสานกับโลกจริง
เทคนิคสร้างแบรนด์ให้แตกต่างและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้บริโภค
กัญชลี สำลีรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญการวางกลยุทธ์การใช้ Digital, Customer Data และ World class Technology บอกว่า “กุญแจสำคัญที่ช่วยสร้างความต่างและสร้างโอกาสให้ธุรกิจคือ Branding และ Experience” พร้อมเผยกลยุทธ์การสร้าง Branding และ Experience ต้องเริ่มจาก
- โฟกัสกลุ่มเป้าหมายและตลาดให้ชัดเจน โดยคลินิกความงามต้องปักหมุดให้ได้ว่าจะเจาะไปที่ ‘Mass Market’ หรือ ‘Niche Market’
Mass Market ถ้ากลุ่มเป้าหมายและตลาดของคุณคือกลุ่มนี้ สิ่งที่ต้องทำคือ สร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันด้วย
- กลยุทธ์ด้านต้นทุน (Cost Leadership Strategy) นำเสนอสินค้าคุณภาพจับต้องได้ในราคาที่แข่งขันได้
- กลยุทธ์ความแตกต่าง (Differentiation Strategy) สร้าง Sub-Segment ใหม่ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า มีจุดเด่นและมีคุณภาพในระดับที่ลูกค้ายอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้น
Niche Market ถ้าต้องการจับตลาดกลุ่มนี้ ต้องใช้กลยุทธ์มุ่งเน้นทำตลาดให้กับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (Focus Strategy) ไม่เน้นปริมาณการขายแต่เน้นการจ่ายต่อคนในราคาสูง
- สร้าง Brand Positioning ด้วยกลยุทธ์ 5Ps ได้แก่ Product (สินค้า), Price (ราคา), Place (สถานที่/ช่องทางการจำหน่าย), Promotion (โปรโมชัน) และ People (ผู้คน)
- นำ Brand Positioning ไปสร้างประสบการณ์ที่เกินความคาดหมาย โดยเรียงตามขั้นตอนต่างๆ ได้แก่
- Awareness สร้างการรับรู้และให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ พร้อมกระตุ้นลูกค้าด้วยจุดยืนที่แตกต่าง
- Booking ทำความรู้จักและเก็บดาต้าของลูกค้า พร้อมนำดาต้าไปแบ่งประเภทลูกค้า เพื่อเลือกเจาะตลาดแต่ละกลุ่มได้ตรงจุด
- Service ใช้ดาต้ามาสร้างความประทับใจตั้งแต่ครั้งแรก โน้มน้าวให้ลูกค้าสนใจใช้บริการ ปิดการขายให้ได้
- Loyalty รักษาลูกค้าให้อยู่กับแบรนด์
“หัวใจสำคัญในการสร้าง Customer Experience คือ ดาต้า เพราะดาต้าจะทำให้เห็นถึงอินไซต์ที่แท้จริงของผู้บริโภคเพื่อที่จะเลือกใช้แพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ เลือก Key Message ในการสื่อสารที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม รวมถึงต้องสร้างประสบการณ์ที่สม่ำเสมอให้กับลูกค้า เพื่อรักษาลูกค้าเดิมไว้กับแบรนด์” กัญชลีกล่าว
เจาะอินไซต์ผู้บริโภคบน TikTok
พงศ์สุพัชร์ กาญจนาคม Strategic Partnerships Manager จาก TikTok เผยว่า กลุ่มอายุที่ใช้งานบน TikTok มากที่สุดคือ 18-44 ปี โดย 3 อันดับแรกเป็น กลุ่มรักสวยรักงามมากถึง 34.3 ล้าน ตามมาด้วย กลุ่มคนรักสุขภาพ 11.8 ล้าน และกลุ่มคนรักการออกกำลังกาย 6.1 ล้าน
“จะเห็นว่าทั้ง 3 กลุ่มมีความเชื่อมโยงกับการดูแลความสวยความงาม จึงเป็นโอกาสที่แบรนด์จะเจาะไปยังผู้บริโภค 3 กลุ่มนี้ โดยใช้การ Tie-in สินค้าไปกับคอนเทนต์ที่น่าสนใจในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น คอนเทนต์รีวิวจากครีเอเตอร์ คอนเทนต์ให้ความรู้ โชว์ความเชี่ยวชาญ คอนเทนต์สร้างการบอกต่อ และคอนเทนต์กระตุ้นการทดลองใช้”
พงศ์สุพัชร์ ยังแชร์เทคนิคดึงดูดลูกค้าด้วย G.R.O.W. Framework เพื่อนำไปใช้ร่วมกับเครื่องมือต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- G-Generate สร้างคอนเทนต์ให้กลุ่มเป้าหมายผ่านเครื่องมือที่หลากหลาย
- R-Reach เพิ่มการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ด้วยการทำงานกับครีเอเตอร์ที่มีฐานแฟนคลับตรงกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์
- O-Optimize สร้างคอนเทนต์ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ
- W-Win ใช้ดาต้าดูผลลัพธ์เพื่อนำไปปรับการทำคอนเทนต์ หรือช่วงเวลาในการโพสต์ให้ดียิ่งขึ้น
และนี่คือประเด็นสำคัญทั้งหมดที่เกิดขึ้นในงาน GAIN Business Forum 2024 ที่กัลเดอร์มาเชื่อมั่นว่าจะเป็นประเด็นและเทรนด์ที่มีความสำคัญต่อผู้ประกอบการธุรกิจคลินิกความงาม ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน รวมถึงรับมือความท้าทาย และสร้างโอกาสในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตและก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน ในยุคที่เทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภค และเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว