หุ้นกลุ่ม Gadget วันนี้ (15 กันยายน) ราคาปรับตัวลดลงถ้วนหน้า ท่ามกลางดัชนีตลาดหุ้นไทยที่เคลื่อนไหวอย่างผันผวนสลับแดนบวกและลบ ก่อนปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,628.04 จุด เพิ่มขึ้น 4.20 จุด หรือ 0.26%
โดยหุ้น COM7 ปรับตัวลง 3.74%
หุ้น SVOA ลดลง 1.90%
หุ้น CPW ลดลง 5.31%
หุ้น SYNEX ลดลง 5.52%
หุ้น SPVI ลดลง 4.38%
ธนัฐภัทร์ สุขศรีชวลิต นักวิเคราะห์หุ้นขนาดกลาง-เล็ก บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกมือถือที่ปรับลดลงวันนี้ เป็นแรงขายระยะสั้น หลังจากที่ราคาหุ้นก่อนหน้านี้ปรับเพิ่มขึ้นมาระยะหนึ่งจากแรงเก็งกำไรของนักลงทุนทั้งเรื่องการเปิดเมืองและการเปิดตัวสินค้าใหม่ โดยเฉพาะสินค้าจาก Apple ประกอบกับบรรยากาศภายหลังการเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Apple ไม่ค่อยคึกคักมาก หลายสินค้าไม่ได้สร้างความประทับใจเพิ่ม ทำให้นักลงทุนเกิดการ Sell on Fact ออกมา
“ถ้ามองจากปัจจัยเรื่องการเปิดตัวสินค้าของ Apple ไม่สร้างความตื่นเต้นได้ตามคาด หุ้นที่ราคาร่วงมากกว่าก็คือหุ้นที่มีสัดส่วนการขายแบรนด์ Apple ค่อนข้างมากอย่าง COM7 ที่เห็นชัด แต่เชื่อว่าสินค้าใหม่ยังดึงกำลังซื้อได้ เพราะราคาไม่เพิ่มขึ้นสูงมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า”
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาด้านกำลังซื้อในประเทศแล้ว เชื่อว่ายังแข็งแกร่ง เนื่องจากมีความต้องการอั้นอยู่ และสินค้ารุ่นใหม่ๆ ก็ไม่ได้เปิดตัวมานานแล้ว จึงเชื่อว่ากำลังซื้อจะกลับมาและสะท้อนในผลประกอบการไตรมาส 4 ปีนี้
“งบไตรมาส 3 น่าจะแย่สุดของปี ส่วนสินค้าใหม่จะเข้ามาขายในประเทศไทยราวเดือนตุลาคมปีนี้ ทำให้เชื่อว่าผลประกอบการไตรมาส 4 จะได้อานิสงส์เชิงบวกจากทั้งกำลังซื้อที่อั้นมานาน และสินค้าใหม่เปิดตัวซึ่งโดยปกติจะดันให้ยอดขายกระโดดอยู่แล้ว จังหวะที่ราคาย่อตัวลงมาจึงแนะนำให้ทยอยเข้าซื้อ”
บทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 3/64 ของ COM7 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิดระลอก 3 ส่งผลให้ COM7 ต้องปิดบริการร้านค้าในห้างสรรพสินค้า 29 จังหวัด ตลอดช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น COM7 ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม-ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ปรับตัวลงราว 11% เชื่อว่าการปรับฐานของราคาหุ้นในช่วงดังกล่าวได้สะท้อนประเด็นลบจากมาตรการล็อกดาวน์ที่จะกดดันกำไรสุทธิไตรมาส 3/64 ของ COM7 ไปมากพอสมควรแล้ว
ขณะที่ บล.เคทีบีเอสที ประเมินผลการดำเนินงานไตรมาส 3/64 ของ SYNEX มีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิดระลอก 3 ที่รุนแรง จนทำให้รัฐบาลต้องกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง ส่งผลให้ยอดขายสินค้า Chain Store ในช่วงดังกล่าวของ SYNEX ลดลง
แต่คาดว่า ช่วงไตรมาส 4/64 ผลการดำเนินงานของ SYNEX จะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างโดดเด่น หลังธุรกิจเข้าไฮซีซัน ตามการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ เช่น iPhone, Xiaomi เป็นต้น นอกจากนี้สถานการณ์สินค้าขาดตลาดจะกลับมาดีขึ้น สะท้อนจากปัจจุบันที่เริ่มเห็นแนวโน้มดีขึ้นในกลุ่มสินค้า Printer