โฆษกอนาคตใหม่ ยืนยันพรรคไม่หนุน พ.ร.บ. คอมฯ ฟ้องปารีณา ฐานหมิ่นประมาท เผยเคยปล่อยผ่านแต่ไม่ยอมหยุด

ช่อ-พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีที่พรรคอนาคตใหม่เตรียมฟ้องร้อง ปารีณา ไกรคุปต์ กรณีโพสต์ภาพและข้อความสร้างความเสียหายให้กับตนเองและพรรคอนาคตใหม่ โดยยอมรับว่าก่อนหน้านี้มีหลายคนเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับปารีณา เพราะมีการพูดจาพาดพิงความเสียหายให้กับตนเองและพรรคอนาคตใหม่บ่อยครั้ง แต่ที่ผ่านมาเชื่อมั่นว่าการนิ่งเฉย ไม่ตอบโต้จะเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะอยากใช้เวลาทำประโยชน์เพื่อประชาชน แต่กรณีล่าสุดมีการนำเอาภาพถ่ายพร้อมข้อความกล่าวหาว่าตนเองและ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เชื่อมโยงกับเหตุระเบิดใน กทม. หลายจุด รวมถึงเหตุไม่สงบในภาคใต้ พรรคจึงตัดสินใจที่จะฟ้องร้อง เพราะถือเป็นเรื่องร้ายแรงมาก ไม่สามารถที่จะนิ่งเฉยปล่อยให้เกิดความเข้าใจผิดต่อไปได้ 

นอกจากนี้การโพสต์ของปารีณาพาดพิงถึงบุคคลที่ 3 ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคที่ถ่ายรูปคู่กับตนเองและธนาธร ที่โยงว่าเป็นผู้ต้องสงสัยเป็นมือวางระเบิด ทำให้บุคคลในภาพเสียหาย และได้รับผลกระทบในการใช้ชีวิตประจำวัน แม้ทางพรรคได้โทรไปขอโทษคนในภาพแล้ว แต่ทำให้ตัดสินใจว่าต้องฟ้อง เพราะทำให้บุคคลที่ 3 เสียหายไปด้วย

รวมถึงเห็นว่าไม่สามารถปล่อยให้เรื่องรุนแรงแบบนี้ผ่านไปได้ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีข่าวแต่ปล่อยผ่าน แต่การโพสต์ของปารีณากลับไม่ได้ลดลง ตรงกันข้ามยังมีการโพสต์ข้อความเท็จ สร้างความแตกแยกในสังคม 

ส่วนที่ปารีณาระบุว่าจะฟ้องกลับนั้น พรรณิการ์ระบุว่า สามารถทำได้ แต่อยู่ที่ตำรวจจะรับแจ้งหรือไม่ และปารีณาเองมีสิทธิ์ดำเนินการ แต่พรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่าจะดำเนินการทางกฎหมาย 

พรรณิการ์ยังกล่าวถึงพฤติกรรมของปารีณาที่ไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะถูกประชาชนหรือนักการเมืองด้วยกันตำหนิ แต่กลับมีเรื่องพูดถึงคนอื่น ทั้งนักการเมืองและวงการอื่นว่า ยืนยันมาตลอดว่า ผู้แทนของพรรคอนาคตใหม่ได้รับความไว้ใจจากประชาชน และ ส.ส. เป็นอาชีพที่ศักดิ์สิทธิ์ จึงต้องทำงานให้สมกับความไว้ใจและสมกับภาษีเดือนละแสนกว่าบาทที่ประชาชนจ่ายให้เป็นเงินเดือน แต่หากถามว่าปารีณามีความประพฤติแบบที่ประชาชนเห็นทั่วไปแล้วต้องไปเปลี่ยนหรือดัดนิสัยให้หรือไม่ คงไม่ใช่หน้าที่ของคนอื่น เพราะความประพฤติของใครก็เป็นความรับผิดชอบของคนนั้น แต่เมื่อความประพฤตินั้นกระทบกับคนอื่น เมื่อมีช่องทางของกฎหมายให้ดำเนินคดี ก็ต้องทำ พร้อมยืนยันว่าตนเองไม่เคยลงชื่อถอดถอนปารีณาแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่จะไม่ดำเนินการเอาผิดปารีณาตาม พ.ร.บ. คอมฯ เพราะมีการท้วงติงจากหลายฝ่าย ซึ่งฝ่ายกฎหมายและพรรคหารือกันแล้วจึงตัดสินใจฟ้องร้องปารีณาในข้อหาหมิ่นประมาท เพราะการดำเนินการครั้งนี้ไม่ใช่การพิจารณาเงื่อนไขทางกฎหมายอย่างเดียว แต่เป็นจุดยืนทางการเมือง ซึ่งพรรคอนาคตใหม่มีอุดมการณ์ทางการเมืองชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการใช้ พ.ร.บ. คอมฯ ก้าวล่วงสิทธิการแสดงความคิดเห็นของบุคคลอื่น เพราะ พ.ร.บ. คอมฯ ควรใช้เพื่อป้องการกันอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์จริงๆ 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า