ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค และ พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการดำเนินกิจกรรมของพรรค รวมถึงการประกาศจุดยืนเกี่ยวกับการระดมทุน พร้อมทั้งตอบคำถามผู้สื่อข่าว
ปิยบุตร กล่าวว่า การรับสมัครและการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่กำหนดหลักการพื้นฐานสำคัญของผู้สมัครไว้ คือ 1. การเปิดกว้าง 2. อุดมการณ์และคุณค่าพื้นฐาน 3. การมีส่วนร่วม โดยแบ่งเป็น 5 ขั้นตอน 1. การเปิดรับสมัคร 2. การตรวจสอบคุณสมบัติตามกฎหมาย จากเอกสารและการสัมภาษณ์ 3. การทำไพรมารีโหวต โดยคณะกรรมการสรรหาประกาศผู้มีสิทธิเข้าแข่งขันไพรมารีโหวต จากนั้นสมาชิกพรรคในแต่ละเขตเลือกตั้งลงคะแนนผ่านระบบออนไลน์ 4.ประกาศผลไพรมารีโหวต นำรายชื่อผู้ที่ได้คะแนนลำดับ 1 และ 2 ไปรับฟังความเห็นจากสาขาพรรคประจำจังหวัดหรือคณะทำงานประจำจังหวัด 5. การลงมติเลือกโดยคณะกรรมการบริหารพรรค โดยต้องพิจารณาเลือกลำดับที่ 1 เป็นหลัก เว้นแต่มีกรณีจำเป็น อาจเลือกลำดับที่ 2 ได้
การรับสมัครและการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่พิจารณาคัดเลือกผู้สมัครโดยยึดหลักการ คือ 1. มีความรู้ความสามารถ 2. กระจายตามสัดส่วนของภาคต่างๆ 3. การสนับสนุนกลุ่มบุคคลที่อาจถูกกีดกันและอาจถูกเลือกปฏิบัติได้เข้ามามีบทบาททางการเมือง 4. การอุทิศตนให้กับพรรค 5. ความคิดและการกระทำสอดคล้องกับอุดมการณ์ของพรรค 6. การมีส่วนร่วมของสมาชิกผ่านไพรมารีโหวต สำหรับกลุ่มผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ 1. หัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคที่หัวหน้าพรรคคัดเลือก 2. ตัวแทนของภาคต่างๆ 3. ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญประสบการณ์ในด้านต่างๆ ตลอดจนบุคคลทั่วไป 4. กลุ่มบุคคลที่อาจถูกกีดกันและเลือกปฏิบัติจากสังคม ทั้งนี้จะมีการจัดทำไพรมารีโหวตด้วย
ผู้ประสงค์ลงสมัคร Primary Vote เพื่อคัดเลือกเป็นผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค จะเริ่มในวันที่ 18 ตุลาคม ถึง 18 พฤศจิกายน เปิดรับสมัครผู้ประสงค์ลงสมัคร Primary Vote เพื่อคัดเลือกเป็นผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนต่างๆ ตามกระบวนการของพรรค ซึ่งจะประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ของพรรคทั่วประเทศ 31 ธันวาคม ส่วนวันที่ 18-29 ตุลาคม เปิดรับสมัครผู้ประสงค์ลงสมัครเป็นคณะทำงานจังหวัด จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนต่างๆ ตามกระบวนการของพรรค ตั้งสาขาพรรคใน 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น พระนครศรีอยุธยา ระยอง นครศรีธรรมราช และนราธิวาส รวมถึงตัวแทนพรรคประจำจังหวัด ซึ่งจะส่งเอกสารจัดตั้งสาขาพรรคและตัวแทนพรรคประจำจังหวัดให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง 16 ธันวาคม
ธนาธร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยอดสมัครสมาชิกพรรคอนาคตใหม่รวมแล้วกว่า 5,000 คน แบ่งเป็นสมาชิกแบบออนไลน์ กับสำนักงานใหญ่เกือบ 3,000 คน และศูนย์ประสานงานทั่วประเทศกว่า 2,000 คน ขณะที่ทางพรรคยังคงจัดคาราวานรับสมัครสมาชิกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน 6 จังหวัดที่จะจัดตั้งเป็นสาขาพรรค ซึ่งไปมาแล้ว 3 แห่ง คือ นครศรีธรรมราช พระนครศรีอยุธยา ระยอง และจะไปต่อที่ขอนแก่น เชียงใหม่ นราธิวาส ซึ่งคาดว่าจะได้สมาชิกเพิ่มอีกจำนวนมาก และทำให้พรรคเป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยเฉพาะในต่างจังหวัดมากขึ้น ส่วนเงินจากการระดมทุน ขณะนี้ รวมทั้งสิ้น 816,334 บาท เป็นเงินจากการขายของทางโทรศัพท์ และที่สำนักงานใหญ่ รวมถึงสาขาพรรค และค่าสมาชิกอีก รวมเป็น 1,868,606 บาท ไม่นับเงินบริจาคที่ให้กับพรรคตั้งแต่ 6 ตุลาคมเป็นต้นมา
ธนาธร กล่าวอีกว่า ตนอยากจะชี้แจงว่า พรรคอนาคตใหม่อยากจะทำให้พรรคการเมืองของเราเป็นของประชาชนจริงๆ ถ้าเงินที่นำมาใช้ทำกิจกรรมของพรรคมาจากสมาชิก มันจะทำให้พวกเราคณะกรรมการบริหารพรรค จะต้องฟังเสียงของพวกเขา เหล่าสมาชิกพรรค เพื่อรับใช้เจตจำนงของสมาชิกพรรคจริงๆ พวกเราคณะกรรมการบริหารพรรค จะต้องเป็นคนที่เอาความคิด ความฝัน ของสมาชิกพรรคมาทำให้เป็นจริง เพื่อผลประโยชน์ของสมาชิกพรรค ซึ่งเราจะทำอย่างนั้นได้ต่อเมื่อเราเป็นอิสระจากกลุ่มทุน แม้การทำเช่นนั้นจะเป็นเรื่องยาก แต่เราก็พร้อมจะทำเพื่อให้พรรคของเราเป็นอิสระจากกลุ่มทุนเมื่อจำเป็นต้องตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ
ปิยบุตร ยังกล่าวถึงกรณี คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. มีคำสั่งห้ามรับเงินบริจาคเข้าพรรคการเมืองตามประกาศคำสั่ง คสช. ที่ 57/2557 ซึ่งเป็นสิ่งที่ กกต. เคยตีความไว้เมื่อปี 2557 และนำมาใช้กับพรรคการเมืองใหม่ๆ นั้น ทางพรรคได้มีข้อเรียกร้องไปถึง กกต. ให้ 1. ทบทวนแนวทางการตีความใหม่ว่า การรับบริจาคนั้น บุคคลทั่วไปสามารถบริจาคได้ และ 2. หาก กกต. ไม่ให้รับบริจาคจากบุคคลทั่วไป ให้มีหนังสือออกคำสั่งให้ชัดว่าห้ามพรรคการเมืองรับบริจาค และพรรคอนาคตใหม่จะขอใช้สิทธิ์ฟ้องเพิกถอนคำสั่งนี้ พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าประเทศนี้ปกครองด้วยกฎหมาย หรือความเห็นทางกฎหมายกันแน่ ทั้งนี้ข้อเรียกร้องทั้ง 2 นี้ ยังไม่ได้รับการสนองตอบจากทาง กกต. ดังนั้นพรรคอนาคตใหม่จึงขอประกาศจุดยืนว่าจะทำการระดมทุน รับบริจาค และกิจกรรมระดมทุนต่างๆ ต่อไปตามเดิม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเวลาที่เหลือจะพอในการหาสมาชิกให้ได้ตามกำหนดหรือไม่ ปิยบุตร กล่าวว่า มั่นใจแล้วว่าพอ และจะมั่นใจมากขึ้นเมื่อ กกต. และ คสช. ปลดล็อกทุกอย่าง ขนาดตนเดินหน้าหาสมาชิกก็ขู่ฟอดๆ แล้วว่า หาสมาชิกนะไม่ใช่หาเสียง อย่าเพิ่งเปิดนโยบายนะ ขู่ฟอดๆ ทุกวัน ตนขอเรียนถามตรง ๆ เลยว่า การชวนคนเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ไม่บอกได้หรือว่าพรรคคุณจะทำอะไร ไม่อย่างนั้นใครจะเข้ามาสมัคร ถ้าไม่ให้พรรคพูดเลย นั่นแสดงว่าสมาชิกพรรคนั้นเกณฑ์กันเข้ามา ถ้าต้องการให้สมาชิกพรรคสมัครเข้ามาด้วยตัวเอง ก็ต้องให้พรรคการเมืองได้พูด นี่เท่ากับมองว่าสมาชิกพรรคเป็นแค่ตัวเลข เรายืนยันว่าปลดล็อกทุกอย่างทิ้งเถอะให้การเมืองเดินไปได้ตามปกติ พรรคที่จะสนับสนุน คสช. จะได้ทำงานได้ด้วย ไม่ต้องไปหลบๆ ซ่อนๆ ประเภทว่า วันนี้วันหยุดเสาร์อาทิตย์ค่อยไปหาเสียง วันธรรมดาทำงานเป็นรัฐมนตรี ในเมื่อเดินหน้าด้วยกันแล้ว ก็เปิดให้มันแฟร์ ยุติธรรม แล้วแข่งกันในสนามอย่างมีกติกา ทุกวันนี้ตนก็ไม่ทราบ แต่ กกต. เขาแถลงเช่นนี้ พรรคพลังประชารัฐทำได้
ทั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่มีกิจกรรมที่เตรียมไว้ระดมทุนแล้ว อาทิ วันที่ 23 พฤศจิกายน – กิจกรรมงานลอยกระทงเพื่ออนาคต วันที่ 2 ธันวาคม – กิจกรรมกอล์ฟเพื่ออนาคต วันที่ 8 ธันวาคม – กิจกรรมงานวิ่งสู่อนาคตใหม่ พร้อมกันทั่วประเทศ
