การอภิปราย พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2563 ในวาระแรกจบลงไป พร้อมการเกิดขึ้นใหม่ของความขัดแย้งในพรรคอนาคตใหม่
กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส. ชลบุรี เขต 7 พรรคอนาคตใหม่ ได้ลงมติสวนมติพรรค 2 ครั้งในรอบ 3 วันในการประชุมสภาเมื่อวันที่ 17-19 ตุลาคมที่ผ่านมา
วันนี้ (21 ตุลาคม) ที่พรรคอนาคตใหม่ ตึกไทยซัมมิท ทาวเวอร์ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค พร้อม ส.ส. อนาคตใหม่ แบบแบ่งเขตจำนวนมากร่วมแถลงข่าวกรณีความขัดแย้งระหว่าง ส.ส. แบบแบ่งเขต และ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ในประเด็นที่มีกระแสข่าวว่า ส.ส. แบบเขตน้อยใจ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ
ปิยบุตร กล่าวว่า พรรคการเมืองโดยหลักแล้ว คือที่รวมตัวของสมาชิกที่มีความเห็น ความคิดและอุดมการณ์ในทิศทางเดียวกัน แล้วรวมตัวกันเข้ามาเพื่อจะต่อสู้ในทางการเมือง เข้าไปมีอำนาจรัฐ เพื่อผลักดันความคิด อุดมการณ์ของพรรคให้สำเร็จ นี่คือการเกิดขึ้นของพรรคการเมือง ดังนั้น แนวทางและอุดมการณ์ของพรรคคือสิ่งที่สำคัญ หากเราปล่อยให้ ส.ส. ลงมติอย่างอิสระ อย่างนี้ก็ไม่รู้จะมีพรรคการเมืองไปเพื่ออะไร และอย่างนี้ ส.ส. จะสังกัดพรรคการเมืองไปเพื่ออะไร
“ถามว่าจะหาจุดสมดุลระหว่างมติของพรรค ซึ่งดำเนินการตามแนวทางอุดมการณ์ของพรรคการเมือง กับความเป็นอิสระของ ส.ส. ในการลงมติอย่างไร ในส่วนของพรรคอนาคตใหม่ ใช้ที่ประชุม ส.ส. ทุกๆ วันอังคารในช่วงบ่ายเพื่อปรึกษาหารือ หลายเรื่องมีการถกเถียง อภิปรายกันในที่ประชุม เรื่องไหนที่เห็นคล้อยตามกันก็หามติได้โดยง่าย แต่เรื่องไหนที่มีข้อถกเถียงในเรื่องสำคัญๆ ก็เปิดโอกาสให้ ส.ส. ของพรรคได้อภิปรายอย่างเต็มที่ หลายครั้งที่หัวหน้าพรรค หรือเลขาธิการพรรคกลายเป็นเสียงข้างน้อยในที่ประชุม อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วก็จะเปิดให้ลงมติต่อเรื่องนั้นๆ ภายในที่ประชุม ซึ่งก็จะถือเอาตามเสียงข้างมาก ขณะเดียวกันเสียงข้างน้อยก็จะปฏิบัติตามเสียงข้างมาก โดยเคารพเสียงข้างน้อยตรงที่ทุกฝ่ายมีโอกาสได้อภิปรายถกเถียงแลกเปลี่ยนกันอย่างเต็มที่” ปิยบุตร กล่าว
ยันเปิดโอกาส ส.ส.-สมาชิก วิจารณ์หัวหน้า-กก.บห.พรรคได้
ปิยบุตร กล่าวด้วยว่า ก่อนมีการเปิดประชุมสภา พรรคอนาคตใหม่ได้จัดสัมมนา เพื่อเปิดโอกาสให้ ส.ส. ของพรรค ได้วิจารณ์หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคได้อย่างเต็มที่ เพื่อถอดบทเรียนการทำงานในสภาที่ผ่านมา เชื่อว่าพรรคอนาคตใหม่ เป็นหนึ่งในไม่กี่พรรคในประเทศนี้ ที่เปิดโอกาสให้สมาชิกพรรค และ ส.ส. ของพรรค สามารถวิจารณ์หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค แบบที่พรรคได้จัดขึ้น
“พรรคอนาคตใหม่เข้าใจดีว่าเรื่องบางเรื่อง ส.ส. บางท่านอาจมีข้อจำกัด ที่ไม่สามารถลงตามมติของพรรคได้จริงๆ ยกตัวอย่างเช่น ครั้งหนึ่งมีการลงมติว่าจะสนับสนุนให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญว่าด้วยความหลากหลายทางเพศ แต่ก็มี ส.ส. ของพรรค ซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม ก็มีข้อจำกัด ลุกขึ้นยืนในที่ประชุม ส.ส. ชี้แจงแสดงเหตุผลของการลงมติงดออกเสียง ซึ่งในกรณีแบบนี้ก็ถือว่าสามารถเป็นข้อยกเว้นได้เช่นเดียวกัน นี่คือกระบวนการในการทำงานเพื่อแสวงหามติที่ประชุมของ ส.ส. จนกลายเป็นมติพรรค เพื่อให้ ส.ส. นำไปลงมติในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป” ปิยะบุตรกล่าว
ตั้งกรรมการสอบ ‘กวินนาถ’ พร้อมสั่งงดร่วมกิจกรรมภายใน
ปิยบุตร กล่าวต่อไปว่า กรณีของ กวินนาถ ซึ่งลงมติสวนทางกับพรรค 2 ครั้งติดต่อกันภายใน 3 วัน ตามข้อบังคับพรรคอนาคตใหม่แล้ว ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดวินัย ดังนั้น คณะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณของพรรค จะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง หลังจากนั้นจะส่งเรื่องมาให้คณะกรรมการบริหารพรรค มีคำวินิจฉัยหรือลงโทษต่อไป อย่างไรก็ตาม เกิดกระแสจากสมาชิกพรรคและผู้ที่ลงคะแนนให้กับพรรคอนาคตใหม่ ทั้งจังหวัดอื่นๆ และเขต 7 ชลบุรี ได้ร้องเรียนและแสดงถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก อยากจะให้พรรครีบดำเนินการในเรื่องนี้ ดังนั้น ในระหว่างรอการสอบสวนข้อเท็จจริงของกวินนาถ พรรคจึงจำเป็นต้องสั่งห้ามให้ กวินนาถ ตาคีย์ ดำเนินกิจกรรมใดๆ กับพรรคอนาคตใหม่ จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมา จากคณะกรรมการบริหารพรรค
“ในฐานะที่ผมเป็นตัวแทนของพรรคอนาคตใหม่ และเพื่อน ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ทุกคน จำเป็นจะต้องขอโทษไปยังพี่น้องประชาชนในเขต 7 จังหวัดชลบุรี ที่ลงคะแนนเสียงให้ กวินนาถ ตาคีย์ ให้เป็น ส.ส. ด้วยความหวังว่า กวินนาถ ตาคีย์ จะเข้ามาเป็น ส.ส. ของพรรคอนาคตใหม่ แล้วจะมาร่วมกันผลักดันอุดมการณ์ของพรรค จะมาร่วมการสืบทอดอำนาจของรัฐบาล คสช. จะมาร่วมกันสู้เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยอย่างแท้จริงกลับคืนมา ผมต้องขอโทษพี่น้องประชาชนที่ ส.ส. ของเรานั้น ได้ลงมติ สวนมติของพรรคไปถึง 2 ครั้งติดต่อกัน” ปิยบุตร กล่าว
ยันไม่มีความขัดแย้ง ส.ส. เขต-ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์
ปิยบุตร กล่าวอีกว่า จากกรณีข่าวลือความขัดแย้งระหว่าง ส.ส. เขต และ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นผลโดยตรงจากการออกแบบระบบเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2560 ที่มักจะเชื่อกันไปว่า ส.ส. เขต ลงไปเก็บคะแนนให้ ส.ส. บัญชีรายชื่อ นักวิชาการหลายท่านได้แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่า เป็นจุดอ่อนของระบบการเลือกตั้งที่ออกแบบมา ทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกัน อย่างไรก็ตามในส่วนของพรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่า ทั้ง ส.ส. เขต และ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ทำงานด้วยกันเป็นอย่างดี สมัครสมานสามัคคี
โดยมีการสร้างกระบวนการภายในพรรค เพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุยกระชับความสัมพันธ์ ร่วมกันทำงานให้สอดคล้องตามอุดมการณ์ของพรรค เราเชื่อว่าจากข่าวลือที่ออกไปนั้น มาจากแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ดี ให้ข่าวออกไปว่าในพรรคอนาคตใหม่นั้นมีรอยร้าวระหว่าง ส.ส. เขต และ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ แต่ในส่วนการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมที่นครปฐม เขต 5 อำเภอสามพราน ถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงการร่วมใจกันของ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ ทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ ซึ่งน่าจะเป็นหนึ่งในไม่กี่พรรคการเมืองที่ ส.ส. ทุกคนพร้อมใจกันไปช่วยกันหาเสียง ในเขตเลือกตั้งเขตเดียว นี่คือบทพิสูจน์ให้เห็นว่า ส.ส. ทุกคนทำงานกันอย่างสามัคคี
ระบบของพรรคออกแบบถ่วงดุล ส.ส.-ทีมจังหวัด-สมาชิก
ปิยบุตร กล่าวว่า “อยากเรียนสื่อมวลชนผ่านไปยังพี่น้องประชาชนว่า เวลามองมาที่พรรคอนาคตใหม่ ถ้าท่านมองจากมิติการเมืองแบบเดิม ท่านก็จะได้ผลลัพธ์แบบเดิม แต่ถ้าท่านมองจากมิติการเมืองแบบใหม่ ท่านก็จะได้ผลลัพธ์แบบใหม่ มิติการเมืองแบบใหม่คือ เราฝันกันมานานไม่ใช่หรือ ว่าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ควรจะต้องมีลักษณะเป็นพรรคของมวลชน พรรคของสมาชิก พรรคของคนทุกๆ คน
“พรรคการเมืองจะต้องไม่ใช่เป็นเพียงที่สังกัดของคนที่มาลง ส.ส. แต่ควรจะเป็นพรรคการเมืองของมวลชน ที่เห็นพ้องต้องกันในอุดมการณ์เดียวกัน และต่อสู้ร่วมกันเพื่อให้ดำเนินการผลักดันตามอุดมการณ์นั้น นี่คือสิ่งที่เราฝันว่าอยากมีพรรคการเมืองแบบนี้ แน่นอนว่าเรายังทำได้ไม่เต็มร้อย เพราะทุกๆ อย่างมีขั้นตอนของมัน แต่นี่คือจุดประสงค์ จุดหมายของเรา ที่เราตั้งใจจะทำพรรคอนาคตใหม่ให้เป็นลักษณะแบบนี้ให้ได้
“ดังนั้น พรรคอนาคตใหม่จึงไม่ได้เป็นบ้านที่คนอยากเป็น ส.ส. มาสังกัดเพื่อลงสมัคร พรรคอนาคตใหม่ ไม่ใช่พรรคที่คนเห็นว่ากระแสพรรคกำลังดีเลยของอาศัยชื่อของพรรคเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่พรรคนี้คือที่รวมตัวกันของคนที่คิดแบบเดียวกัน มีอุดมการณ์ มีแนวทางแบบเดียวกัน และจะต่อสู้ร่วมกัน ผมยืนยันว่า ตั้งแต่เริ่มต้นตั้งพรรคอนาคตใหม่มา หัวหน้าพรรคได้เปิดโอกาสให้สมาชิก และ ส.ส. พูดคุยแลกเปลี่ยนกันอยู่เสมอ ดังนั้น จากข่าวที่ออกไปว่า หัวหน้าพรรคเป็นเผด็จการรวบอำนาจ ไม่เป็นความจริง ในทางกลับกันถ้าหัวหน้าพรรคเป็นเผด็จการรวบอำนาจจริง จะไม่มีกระแสออกไปแบบนี้ แต่เป็นเพราะเรายอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และมาปรับความเข้าใจกัน ไม่เห็นด้วยเรื่องใดก็มาพูดคุยกัน นี่คือกระบวนการการทำงานของพรรคอนาคตใหม่” ปิยบุตร กล่าว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์