วันนี้ (28 กุมภาพันธ์) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
ขณะที่เจ้าหน้าที่รายงานว่า ได้เพิ่มความเข้มงวดการเข้าออก โดยเฉพาะคนไทยหากออกนอกประเทศจะต้องมีการเซ็นยินยอม ตั้งแต่ต้นปี 2568 จนถึงปัจจุบัน พบว่ามีการปฏิเสธเข้าออกเมือง จำนวน 120 ราย และยืนยันว่าไบโอเมตริกซ์ของ ตม. ยังใช้งานได้ตามปกติ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรได้ขอให้นายกรัฐมนตรีอนุมัติเครื่องเอ็กซเรย์ทั้งขาออกและขาเข้า ซึ่งพบว่ามีคนขนเงินออกนอกประเทศ โดยวิธีการตรวจค้นต้องใช้สัญชาตญาณ เนื่องจากมีเครื่องเอ็กซเรย์ 1 เครื่องที่ใช้การไม่ได้ และมีค่าซ่อมแซมจำนวน 1 ล้านบาท หากซื้อใหม่ในราคา 5 ล้านบาท จะคุ้มค่ากว่า จึงอยากให้รัฐบาลสนับสนุนเครื่องเอ็กซเรย์จำนวน 4 เครื่อง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับปาก และเห็นถึงความจำเป็น โดยระบุว่า ให้ส่งเรื่องไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี แต่จะให้ทีเดียว 4 เครื่องคงเป็นไปไม่ได้ อาจจะทยอยให้
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินไปทักทายเจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชา และขอบคุณที่ช่วยกันดูแล และฝากทักทายพี่น้องประชาชนฝั่งนั้นด้วย
ต่อมาได้ไปติดตามการดำเนินการตัดและการลดสายสัญญาณการสื่อสารบริเวณด้านหลังสถานีรถไฟคลองลึก พร้อมย้ำว่า ตัดออกแล้วต้องรื้อออกให้หมด เพราะประชาชนจะไม่เชื่อมั่นว่าตัดแล้วจริงๆ
ด้าน ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ระบุว่า บางส่วนต้องรอให้เจ้าของสายสัญญาณมายืนยัน และมีสายบางส่วนที่ข้ามไปฝั่งกัมพูชาที่ยังไม่สามารถรื้อถอนได้ โดยทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมีนาคมนี้