หลังเข้าฉายสุดสัปดาห์แรก เจ้าหญิงเอลซ่า ราชินีหิมะจากภาพยนตร์ Frozen 2 ก็สร้างตำนานไปทั่วโลก เมื่อกวาดรายได้มากกว่า 350 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นรายได้รวมจากสหรัฐอเมริกา 127 ล้านเหรียญสหรัฐ และจากต่างประเทศ 223.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันเปิดตัวสูงสุดตลอดกาล เอาชนะ The Lion King ที่เคยสร้างสถิติที่ 245 ล้านเหรียญสหรัฐ และ Toy Story 4 ที่ 240.9 ล้านเหรียญสหรัฐ
ตัวเลขที่น่าสนใจคือ รายได้จากต่างประเทศ โดยเฉพาะเอเชีย ซึ่งมาจากประเทศจีน 53 ล้านเหรียญสหรัฐ เกาหลี 31.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ญี่ปุ่น 18.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนอันดับ 4-5 เป็นรายได้จากประเทศอังกฤษ 17.8 ล้านเหรียญสหรัฐ และเยอรมนี 14.9 ล้านเหรียญสหรัฐ
Cathleen Taff ประธานฝ่ายจัดจำหน่ายภาพยนตร์ของ Disney ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำรายได้ให้เท่ากับ Frozen ภาคแรก พวกเราตั้งใจสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ให้มีทิศทางของตัวเอง ผมหวังว่าเทศกาลวันหยุดจะช่วยให้เราทำรายได้เพิ่มมากขึ้น”
Frozen 2 เข้าฉายเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยยังคงตัวละครหลักๆ ครบทีมจากภาคแรก ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหญิงเอลซ่า, เจ้าหญิงอันนา, คริสตอฟฟ์, สเฟน, และเจ้าโอลาฟ เรื่องราวของการเดินทางสุดแสนอันตรายเพื่อหาคำตอบว่าทำไมเธอจึงเกิดมาพร้อมกับพลังวิเศษที่อาจควบคุมไม่ได้จนทำลายคนรอบข้าง
ส่วนทีมผู้สร้าง เป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของ เจนนิเฟอร์ ลี และ คริส บัค สองผู้กำกับจาก Frozen (2013), ผู้ให้เสียงพากย์ ไอดินา เมนเซล (เอลซ่า), คริสเตน เบล (อันนา), โจนาธาน กรอฟฟ์ (คริสตอฟฟ์), จอช แกด (โอลาฟ) และผู้เขียนเพลงประกอบภาพยนตร์ โรเบิร์ต โลเปซ และคริสเตน แอนเดอร์สัน โลเปซ สองสามีภรรยาเจ้าของผลงานเพลงประกอบใน Frozen ภาคแรก
Frozen 2 (2019)
Frozen (2013)
สำหรับภาพยนตร์ Frozen (2013) ต้นเรื่องของราชินีหิมะที่เข้าฉายในปี 2013 แม้ว่าจะทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกไปเพียง 67 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่กลับสร้างปรากฏการณ์ทำรายได้ทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 1.27 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งหากเปรียบเทียบกับรายได้เปิดตัวของ Frozen 2 ก็นับว่าสูงขึ้นราว 233% เลยทีเดียว ดังนั้นการที่ Disney จะหวังไกลว่าจะได้เห็นรายได้แตะหลักพันล้านเหรียญสหรัฐก็ไม่น่าเป็นเรื่องยาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องคอยติดตามตลาดต่างประเทศที่เป็นกำลังสำคัญ เพราะกับ Frozen นั้นรายได้ราว 68.6% หรือราว 873.4 ล้านเหรียญสหรัฐมาจากต่างประเทศ ในขณะที่รายได้ในสหรัฐอเมริกาทำไปได้เพียง 31.4% หรือราว 400.7 ล้านเหรียญสหรัฐ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: