ความจริงแล้วเกมที่เวมบลีย์เมื่อคืนนี้ ซึ่งจบลงด้วยผลเสมอสุดมัน 3-3 ระหว่างคู่ปรับอังกฤษและเยอรมนีในเกมระดับ ‘ทริลเลอร์แมตช์’ มีสิ่งดีๆ ที่น่าพูดถึงอยู่ไม่น้อยสำหรับทีมสิงโตคำราม
จูด เบลลิงแฮม ในแดนกลาง, บูกาโย ซากา ผู้ลงมาจุดประกายให้แก่ทีม และทีมสปิริตที่กลับมา ซึ่งถือเป็นการตอบสนองที่ดีหลังจากผลงานที่ย่ำแย่ต่อเนื่องกันหลายนัด
แต่คนที่ได้อยู่ในกระแสและถูกพูดถึงมากที่สุดกลับเป็น แฮร์รี แม็กไกวร์ และแน่นอนว่าไม่ใช่ในทางที่ดี ซึ่งกลายเป็นคำถามใหญ่สำหรับ แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ
โดยที่กุนซือชาวผู้ดีที่นำทีมเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีที่แล้วและผ่านเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2020 เมื่อปีกลาย ยังถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับการปฏิเสธ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวาจอมบุกที่โดนตัดออกจากทีมก่อนเกมด้วย
ทั้งสองเรื่องล้วนเป็นคำถามที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
เชื่อใจในคนที่ไม่ควรเชื่อใจ?
ตั้งแต่ก่อนลงสนามกับเยอรมนีแล้วที่มีคนตั้งคำถามว่าเซาธ์เกตจะยังไว้ใจ แฮร์รี แม็กไกวร์ ต่อไปอีกนานแค่ไหน? ในเมื่อชัดเจนว่าไม่มีใครที่เชื่อในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว
กัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้สูญเสียตำแหน่งตัวจริงในสโมสร ได้รับการต้อนรับจากแฟนบอลในสนามด้วยเสียงโห่ดังสนั่นไม่ต่างจากในทีมปีศาจแดง และเป็นอีกครั้งที่ผลงานในสนามแสดงให้เห็นว่า ทำไมการตัดสินใจที่ดีที่สุดสำหรับ เอริก เทน ฮาก คือการดร็อปเขาออกจากทีม
ผลงานในสนามของกองหลังค่าตัว 80 ล้านปอนด์ บ่งบอกชัดด้วยตัวของมันเอง
ถึงจะเริ่มเกมได้คล้ายจะดี แต่แม็กไกวร์ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเขายังเป็นแม็กไกวร์คนเดิม เมื่อจ่ายบอลพลาดถูก จามาล มูเซียลา ตัดบอลได้หน้ากรอบเขตโทษ เท่านั้นไม่พอ เมื่อพยายามไปขวางไว้ก็เสียเหลี่ยมกองหน้าดาวรุ่ง ทั้งช้าและอ่านทางไม่ดี สุดท้ายแหย่ขาสกัดกลายเป็นการฟาวล์ และทำให้อังกฤษเสียจุดโทษ เป็นประตูนำของเยอรมนี
แม็กไกวร์ได้แล้ว 1 คอนเทนต์โดยไม่ตั้งใจ
เท่านั้นยังไม่พอ เขายังทำพลาดอีกครั้งเมื่อพยายามเติมเกมขึ้นมาแต่เสียบอล และสุดท้ายนำไปสู่ประตู 2-0 ของทีมอินทรีเหล็ก
ฟอร์มของอดีตกองหลังเลสเตอร์ ซิตี้ ในเวลานี้จึงเป็นคำถามใหญ่ในระดับชี้ชะตาสำหรับเซาธ์เกตว่า เขาจะยังไว้ใจและฝากเกมรับของทีมเอาไว้กับคนที่ฟอร์มดำดิ่งเหวมาเป็นปี โดยไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาเป็นคนเดิมได้อีกครั้งแบบนี้จริงๆ หรือไม่ ในเมื่อฟุตบอลโลกกำลังจะมาถึงในอีกไม่ถึง 2 เดือนข้างหน้าแล้ว
ตลอดมาเซาธ์เกตไม่เพียงแค่พูด แต่ทำให้เห็นด้วยว่าเขาไว้ใจในตัวแม็กไกวร์เสมอ เพราะ ‘เป็นคนที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง’ ซึ่งหากมองย้อนกลับไปมันก็มีช่วงเวลาที่กองหลังรายนี้คือเสาหลักในแนวรับของทีมชาติอังกฤษจริงๆ โดยเฉพาะในระบบ 3-4-3 ซึ่งนายใหญ่สิงโตคำรามเชื่อว่าเขาคือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับกองหลังฝั่งซ้าย
แต่ตอนนี้แม็กไกวร์ไม่ใช่คนเดิมอีกแล้ว และการฝืนส่งเขาลงเล่นแบบนี้แม้มันจะมีโอกาสที่จะเป็นการช่วยเรียกความมั่นใจกลับมา แต่มันก็มีโอกาสเช่นกันที่จะเป็นการทำลายลูกทีมคนนี้ให้เหลวแหลกยิ่งขึ้นโดยไม่ตั้งใจ
เซาธ์เกตต้องทบทวนเรื่องนี้ให้จงดี
ความเชื่อใจจนถึงที่สุดนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่ได้แปลว่ามันจะใช้ได้ตลอดไป
ไม่ดีพอหรือไม่พอดี?
อีกคนที่กลายเป็นคำถามสำหรับนายใหญ่ทีมชาติอังกฤษคือ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ถูกตัดชื่อออกจากทีมในเกมกับเยอรมนี
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่ในเวลาเดียวกันก็ยากที่จะเข้าใจ
ในความเข้าใจได้คือทีมชาติอังกฤษของเซาธ์เกตใช้ระบบการเล่นกองหลัง 3 คน และนั่นหมายถึงริมเส้นจะเป็นหน้าที่ของวิงแบ็กที่จะเติมขึ้นและลงตลอดเกม ซึ่งฟังดูคอนเซปต์แล้วน่าจะดีสำหรับจอมเติมอย่างแบ็กขวาจากลิเวอร์พูล
แต่ปัญหาคือ เซาธ์เกตไม่ได้ต้องการวิงแบ็กที่เล่นเกมรุกขั้นเทพ แต่ต้องการวิงแบ็กที่สามารถเล่นทั้งรุกและรับได้ดีพอๆ กัน ซึ่งจุดอ่อนของอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ในเรื่องของเกมรับจึงทำให้เขากลายเป็นตัวเลือกต่อท้ายรองจาก รีซ เจมส์, ไคล์ วอล์กเกอร์ และ คีแรน ทริปเปียร์
ทั้งสามคนนี้เกมรับดีพอถึงขั้นสามารถจะเล่นในตำแหน่งกองหลังตัวกลางฝั่งขวาได้เลยด้วยซ้ำ
เมื่อรวมกับฟอร์มของเทรนต์ในช่วงตั้งแต่เปิดฤดูกาลมาที่ตกลงอย่างหนัก จากจุดอ่อนเฉยๆ กลายเป็น ‘บ่อ’ ที่คู่แข่งแย่งกันขุดอย่างสนุกสนานทุกนัด ทำให้การดร็อปเขาออกจากทีมไม่ใช่เรื่องที่ถึงกับน่าประหลาดใจมากนัก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับความไว้ใจที่มีให้แม็กไกวร์
อย่างไรก็ดี ก็มีคนทักท้วงในเรื่องนี้อยู่ไม่น้อยว่าจริงอยู่ที่แบ็กวัย 23 ปีรายนี้จะมีปัญหาในเรื่องของเกมรับ แต่สิ่งที่อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มีและไม่มีใครในทีมมีเลยคือ ความสามารถในการสร้างโอกาสในเกมรุกที่เป็นอาวุธทีเด็ดของทีมได้
เฮนรี วินเทอร์ หนึ่งในผู้สื่อข่าวระดับชั้นนำของวงการฟุตบอลอังกฤษจาก The Times มองว่า การที่เซาธ์เกตเลือกจะตัดแบ็กจากลิเวอร์พูลออกจากทีม เป็นการ ‘เสียของ’ อย่างยิ่ง เพราะเป็นนักฟุตบอลที่มีพรสวรรค์และความพิเศษในตัว
ขณะที่ เจมส์ เพียร์ซ จาก The Athletic มองว่า เจมส์, วอล์กเกอร์ และทริปเปียร์ นั้นเป็นแบ็กขวาที่มีความคล้ายคลึงกัน ในขณะที่อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ นั้นเป็นนักเตะที่มีความแตกต่างจากอีก 3 คน ทั้งยังเป็นฟูลแบ็กที่ ‘กำหนดนิยามใหม่’ ของตำแหน่งนี้ การตัดออกจากทีมจึงเป็นเรื่องน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง
สิ่งที่น่าสนใจคือ เทรนต์ในความรู้สึกลึกๆ ของเซาธ์เกตนั้นตกลงแล้ว ‘ไม่ดีพอ’ หรือ ‘ไม่พอดี’
หรือเป็นทั้งสองอย่างในตอนนี้?
อ้างอิง: