ผลการศึกษาล่าสุดจากวารสารทางการแพทย์ BMJ ซึ่งทำการวิจัยในกลุ่มหญิงวัยหมดประจำเดือนในสหรัฐอเมริกา พบว่า การรับประทานไก่ทอดหรือปลาทอดเป็นประจำจะเพิ่มความเสี่ยงทำให้เสียชีวิตมากขึ้นเมื่อเทียบกับปัจจัยอื่นๆ (ยกเว้นโรคมะเร็ง) โดยผู้หญิงที่ชอบรับประทานไก่ทอดวันละ 1 มื้อหรือมากกว่า มีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าคนที่ไม่ได้รับประทานเป็นประจำถึง 13% ขณะที่ผู้หญิงที่ชอบรับประทานปลาทอดเป็นประจำ ก็มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตมากกว่าคนทั่วไปถึง 7%
Wei Bao ผู้ช่วยศาสตราจารย์ฝ่ายระบาดวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยไอโอวา กล่าวว่า “เราทราบดีกว่าการรับประทานของทอดถือเป็นเรื่องปกติในสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก แต่โชคร้ายที่เราไม่ได้ตระหนักถึงผลกระทบในระยะยาวของอาหารเหล่านี้ต่อสุขภาพของเรา”
ผลการศึกษาดังกล่าวนับเป็นงานวิจัยชิ้นแรกในสหรัฐฯ ที่มุ่งเน้นไปที่ประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคของทอดและอัตราการเสียชีวิตของคน อย่างไรก็ตาม งานวิจัยก่อนหน้านี้เคยแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคของทอด และอัตราความเสี่ยงของการเป็นโรคอ้วนและโรคหัวใจ
ในปี 2017 มีผลการศึกษาว่า ผู้ที่กินมันฝรั่งทอดมากกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากกว่าคนที่ไม่กินถึง 2 เท่า
ทั้งนี้ ทีมงานของ Bao ได้ศึกษาพฤติกรรมการรับประทานอาหารของผู้หญิงเกือบ 107,000 คนในช่วงอายุ 50-79 ปี จากคลินิก 40 แห่งทั่วสหรัฐฯ ระหว่างปี 1993-1998 และติดตามกลุ่มตัวอย่างต่อเป็นเวลา 18 ปี โดยกลุ่มผู้หญิงที่เข้าร่วมงานวิจัยได้ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการบริโภคและปริมาณอาหาร 122 ชนิด ซึ่งรวมถึงไก่ทอด ปลาทอด เฟรนช์ฟราย ตอร์ติญา และทาโก้
สำหรับปัจจัยอื่นๆ ที่ทางทีมงานใช้เพื่อคำนวณอัตราการเสียชีวิตนั้น รวมถึงระดับการศึกษา รายได้ ปริมาณการบริโภคพลังงาน และคุณภาพอาหารโดยรวม
ทั้งนี้ ผู้หญิงที่รับประทานอาหารทอดมากกว่า 1 มื้อต่อวัน มีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าสาเหตุอื่นๆ ถึง 8% รวมถึงอัตราการป่วยเป็นโรคหัวใจ เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับประทานอาหารทอด
ยิ่งไปกว่านั้น การรับประทานไก่ทอดยังทำให้เผชิญความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงถึง 13% รวมถึงมีความเสี่ยงจากการเสียชีวิตจากโรคหัวใจอีก 12% ส่วนอัตราการเสียชีวิตและโรคหัวใจจากการรับประทานปลาทอดอยู่ที่ 7% และ 13% ตามลำดับ
แม้การรับประทานปลาทอดจะมีความเสี่ยง แต่เนื้อปลานั้นมีประโยชน์ในแง่ของการรักษาระบบหัวใจหลอดเลือด โดย Bao กล่าวว่า “ความเสี่ยงจะลดลง หากคุณลดความถี่ในการรับประทานของทอดลง”
นอกจากนี้ Bao กล่าวว่า ผลการศึกษานี้สามารถนำไปอ้างอิงกับชายชาวอเมริกันได้เช่นกัน โดยผลการศึกษาก่อนหน้านี้ ซึ่งทำการวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของอาหารที่มีต่อสุขภาพไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างทางเพศ
นอกจากนี้การศึกษายังระบุอีกด้วยว่า ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ด้วย อาทิ ขั้นตอนการแปรรูปอาหารที่อาจมีการเพิ่มโซเดียมมากจนเกินไป หรือการใช้น้ำมันเก่าทอดอาหารซ้ำๆ
สำหรับชาวอเมริกันแล้ว ผู้คนนิยมรับประทานอาหารทอดในร้านฟาสต์ฟู้ด ซึ่งนั่นส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะหากผู้คนเลือกที่จะทอดอาหารเองที่บ้าน เปอร์เซ็นต์การใช้น้ำมันทอดอาหารซ้ำก็จะลดลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพมากกว่า
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: