เข้าสู่สัปดาห์ที่ 5 ของม็อบเสื้อกั๊กเหลืองในฝรั่งเศสที่ดูท่าว่าจะยังไม่เลิกง่ายๆ กับ
การประท้วงต่อต้านการขึ้นภาษีเชื้อเพลิงและค่าครองชีพที่สูงขึ้น ล่าสุดวันเสาร์ที่ผ่านมา (15 ธ.ค.) มียอดผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 7 ราย
กระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสเผยว่ามีประชาชนเข้าร่วมการชุมนุมกว่า 66,000 รายทั่วประเทศ ทั้งในเมืองหลวงอย่างปารีส ตูลูส บอร์กโดซ์ แซ็งเตเตียน หรือน็องต์ แต่ถือว่าจำนวนผู้ชุมนุมนั้นลดลงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับวันเสาร์ที่แล้วที่มี 125,000 คน โดย BBC รายงานว่าการชุมนุมในปารีสนั้นลดลงเหลือเพียง 2,000 คน จาก 10,000 คนเมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอย่างฌ็องเซลิเซ หอไอเฟล และพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์นั้นยังเปิดให้บริการตามปกติ แต่พิพิธภัณฑ์บางแห่งยังคงปิดให้บริการ
การประท้วงในสัปดาห์ที่ 5 นี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้ทั้งปืนฉีดน้ำแรงดันสูง แก๊สน้ำตา และสเปรย์พริกไทยในการควบคุมความสงบ โดยตำรวจได้จับกุมตัวผู้ประท้วงในปารีสได้ 115 คน
แม้ว่าประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส จะออกมาขอให้หยุดการประท้วง หลังจากเกิดเหตุกราดยิงตลาดคริสต์มาสในเมืองสตราสบูร์กที่มีผู้เสียชีวิต 4 ราย แต่กลุ่มม็อบเสื้อกั๊กเหลืองยังคงปฏิเสธ โดยประเด็นการประท้วงได้เคลื่อนจากการต่อต้านการขึ้นภาษีเชื้อเพลิงและค่าครองชีพที่สูงขึ้นไปสู่การปฏิรูปการศึกษา
ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ยอมถอยอีกก้าว โดยประกาศปรับขึ้นฐานค่าแรงขั้นต่ำและยกเลิกแผนขึ้นภาษีสำหรับผู้มีรายได้น้อยเพื่อยุติเหตุการณ์ประท้วงที่ยืดเยื้อ หลังก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ประกาศชะลอการเก็บภาษีคาร์บอนออกไปอีก 6 เดือน แต่ก็ไม่สามารถยุติเหตุการณ์รุนแรงในประเทศได้
อย่างไรก็ดี สื่ออังกฤษอย่าง Telegraph ได้รายงานว่าการสนับสนุนจากประชาชนต่อการประท้วงของม็อบเสื้อกั๊กเหลืองนั้นลดลงจาก 80% เหลือ 50% หลังจากเห็นการถอยของผู้นำฝรั่งเศส แต่กลุ่มผู้ประท้วงหลายคนยังคงยืนยันว่าจะประท้วงต่อไป
ทั้งนี้การประท้วงแบบม็อบเสื้อกั๊กเหลืองได้ลุกลามไปยังประเทศเบลเยียมและสหราชอาณาจักร
สำหรับม็อบเสื้อกั๊กเหลือง เริ่มชุมนุมกันครั้งแรกในวันที่ 17 พฤศจิกายน มีผู้ชุมนุม
282,000 คน, ครั้งที่ 2 วันที่ 24 พฤศจิกายน มีผู้ชุมนุม 166,000 คน, ครั้งที่ 3 วันที่ 1 ธันวาคม มีผู้ชุมนุม 136,000 คน, ครั้งที่ 4 วันที่ 8 ธันวาคม มีผู้ชุมนุม 125,000 คน สรุปแล้วมียอดผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย โดยรายล่าสุดเกิดขึ้นชายแดนประเทศฝรั่งเศส-เบลเยียม ซึ่งตำรวจเบลเยียมรายงานว่าเกิดจากอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถบรรทุกที่จอดกลางถนน เนื่องจากติดขบวนประท้วงม็อบเสื้อกั๊กเหลือง
นับเป็นการก่อเหตุความไม่สงบที่รุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปีของฝรั่งเศส ตั้งแต่การประท้วงของกลุ่มนักศึกษาและชนชั้นแรงงานในปี 1968
สำหรับคนไทยที่กำลังจะเดินทางไปประเทศฝรั่งเศส สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีสแนะนำให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง หลีกเลี่ยงสถานที่ที่เคยมีการชุมนุมแล้วในช่วงที่ผ่านมา และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการฝรั่งเศสอย่างเคร่งครัด
หากมีคำถามทั่วไป โปรดติดต่อทางอีเมล [email protected] และกรณีฉุกเฉิน โปรดติดต่อหมายเลข +33 6 46 71 96 94 และ +33 6 03 59 97 05 หรือ www.facebook.com/ThaiEmbassyParis/
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- www.bbc.com/news/world-europe-46577598
- www.news.com.au/world/europe/yellow-vest-protestors-face-tear-gas-pepper-spray-in-fifth-weekend-of-chaos/news-story/5d9062fe945dd4e6670037d03babac3e
- www.telegraph.co.uk/news/2018/12/15/paris-braces-fifth-weekend-yellow-vest-protests/
- สถานีรถไฟใต้ดิน / รถไฟ RER ที่ปิดให้บริการ และสายรถเมล์ที่อาจเปลี่ยนเส้นทาง ดูรายละเอียดได้ที่ www.ratp.fr/travaux-manifestations/manifestations
- ตัวอย่างสถานที่ที่ปิดทำการ เช่น พิพิธภัณฑ์ Le Petit Palais, Jeu de Paume, Musée Cernuschi, Musée d’Art Moderne, Les Catacombes, Arc de Triomphe และร้านค้า Gucci, Saint Laurent และ Boucheron ทั้งนี้ อาจมีสถานที่อื่นประกาศปิดทำการเพิ่มเติม