รัฐบาลฝรั่งเศสเดินหน้านโยบายจัดเก็บภาษีดิจิทัลกับบริษัทเทคโนโลยีต่างชาติ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเทคส่วนใหญ่ซึ่งเป็นของสหรัฐฯ อย่าง Google, Amazon และ Facebook จะต้องเสียภาษีจากรายได้ที่ทำได้ในฝรั่งเศสที่อัตรา 3% ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ออกมาประกาศเตือนก่อนหน้านี้ว่าจะดำเนินมาตรการตอบโต้ เพราะมองว่าเป็นการเจาะจงบริษัทเทคโนโลยีอเมริกันอย่างไม่เป็นธรรม
วุฒิสภาฝรั่งเศสได้ลงมติรับรองกฎหมายภาษีดิจิทัล หลังผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยบริษัทดิจิทัลที่มีรายได้มากกว่า 750 ล้านยูโร (850 ล้านเหรียญสหรัฐ) และทำรายได้อย่างน้อย 25 ล้านยูโรในฝรั่งเศส จะต้องเสียภาษีที่อัตรา 3% โดยจะมีผลย้อนหลังไปจนถึงช่วงต้นปี 2019 ซึ่งคาดว่าจะเก็บภาษีได้ราว 400 ล้านยูโรในปีนี้
รัฐบาลฝรั่งเศสระบุว่า บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่เหล่านี้มีสำนักงานใหญ่อยู่นอกประเทศฝรั่งเศส แต่ที่ผ่านมาไม่เคยเสียภาษีหรือจ่ายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ ได้แสดงท่าทีไม่พอใจกับกฎหมายภาษีดิจิทัล และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสอบถามไปยังรัฐบาลฝรั่งเศส โดยคาดว่าสหรัฐฯ อาจตอบโต้ด้วยมาตรการภาษีเช่นกัน
ทั้งนี้คณะกรรมาธิการยุโรปประมาณการว่า ธุรกิจทั่วไปในสหภาพยุโรปมีการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉลี่ยอัตรา 23% จากผลกำไรของบริษัท ในขณะที่บริษัทอินเทอร์เน็ตจ่ายเพียง 8-9%
แต่ระบบภาษีดิจิทัลของฝรั่งเศสจะเรียกเก็บจากยอดขายในฝรั่งเศส แทนที่จะเก็บจากผลกำไรของบริษัท โดยหลังจากที่ประกาศใช้แล้ว จะมีบริษัทเทคโนโลยีประมาณ 30 แห่งที่อยู่ในข่ายต้องเสียภาษี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทในสหรัฐฯ ได้แก่ Alphabet (บริษัทแม่ของ Google), Apple, Amazon, Facebook และ Microsoft นอกจากนี้บริษัทเทคโนโลยีบางแห่งจากจีน เยอรมนี และอังกฤษ ก็จะถูกเรียกเก็บด้วยเช่นกัน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: