ฌอง กัสเต็กซ์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส เตือนว่าไวรัสโควิดสายพันธุ์โอไมครอนกำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในยุโรป และมีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักในฝรั่งเศสภายในต้นปีหน้า
คำเตือนของนายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศสมีขึ้นในวันศุกร์ ก่อนที่ฝรั่งเศสจะประกาศใช้ข้อจำกัดการเดินทางที่เข้มงวดสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักร
สหราชอาณาจักรได้รับผลกระทบจากโอไมครอนหนักที่สุดในยุโรปเวลานี้ โดยมีรายงานผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ที่ได้รับการยืนยันแล้วเกือบ 15,000 รายในวันศุกร์ ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขของประเทศต่างๆ ทั่วทวีปต่างกำลังเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์การติดเชื้อระลอกใหม่ ซึ่งรวมถึงเยอรมนี สาธารณรัฐไอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ ที่ได้ออกมาประกาศมาตรการป้องกันและควบคุมโควิดเพิ่มเติมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หวังสกัดการระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ในประเทศ
ฝรั่งเศสประกาศปิดพรมแดนไม่ให้ผู้ที่เดินทางมาจากสหราชอาณาจักรเข้าประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเพื่อธุรกิจหรือท่องเที่ยว โดยมีผลตั้งแต่เวลา 23.00 น. GMT ของวันศุกร์
กัสเต็กซ์กล่าวก่อนที่มาตรการจำกัดการเดินทางดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ว่า ข้อจำกัดในการเดินทางเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลนำมาใช้เพื่อยับยั้งการระบาดระลอกใหม่ ซึ่งรวมถึงการลดระยะห่างของการฉีดวัคซีนระหว่างเข็มที่ 2 และ 3 และการกำหนดให้ประชาชนต้องฉีดวัคซีนครบโดสจึงจะเข้าร้านอาหารและบริการขนส่งสาธารณะทางไกลได้
นอกจากนี้งานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่และการแสดงพลุดอกไม้ไฟอย่างเป็นทางการจะถูกยกเลิกทั้งหมด
นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสยังกล่าวอีกด้วยว่า รัฐบาลจะประกาศมาตรการใหม่ๆ ในปีหน้า เพื่อจัดการกับประชาชนที่ยังไม่ยอมฉีดวัคซีน โดยกล่าวว่า “เป็นเรื่องยอมรับไม่ได้ที่การปฏิเสธการฉีดวัคซีนของชาวฝรั่งเศสไม่กี่ล้านคนทำให้ชีวิตของทั้งประเทศตกอยู่ในความเสี่ยง”
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โอลิวิเยร์ เวอรอง รัฐมนตรีสาธารณสุขของฝรั่งเศส เปิดเผยว่า 7-10% ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศเชื่อว่าเป็นสายพันธุ์โอไมครอน
ภาพ: Kiran Ridley / Getty Images
อ้างอิง: