×

พบคนไทยเป็นไบโพลาร์กว่า 30,000 คน ทั่วโลกพบผู้ป่วยราว 60 ล้านคน

โดย THE STANDARD TEAM
31.03.2018
  • LOADING...

วันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา ถือเป็นวันไบโพลาร์โลก หรือ World Bipolar Disorder Day เพื่อรณรงค์สร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคไบโพลาร์ หรือโรคอารมณ์สองขั้ว ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยคิดเป็น 1-5% ของประชากร

 

มีการประมาณการว่าทั่วโลกมีผู้ป่วยเป็นโรคนี้ราว 60 ล้านคน ถือเป็นโรคที่สร้างความสูญเสียเนื่องจากการเจ็บป่วยอยู่ในอันดับ 6 ของโลก สำหรับประเทศไทยมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลรัฐทั่วประเทศในปี 2560 จำนวน 31,521 คน ตามข้อมูลของกรมสุขภาพจิต

 

ด้าน นายแพทย์ศิริศักดิ์ ธิติดิลกรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีธัญญา กล่าวว่า โรคไบโพลาร์เกิดได้จากหลายปัจจัย และถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ โดยมีความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 18, 21, 22 เด็กที่เกิดจากพ่อหรือแม่ที่เป็นโรคนี้ จะมีโอกาสเป็นโรคได้สูงกว่าคนทั่วไปถึง 4 เท่าตัว

 

นอกจากนี้ ยังพบว่าสามารถเกิดได้จากความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมอง ความเครียดต่าง ๆ รวมถึงการใช้สารเสพติด โดยผู้ป่วยจะมีความผิดปกติทางอารมณ์อย่างชัดเจน 2 แบบ คือ แบบอารมณ์ซึมเศร้า ผู้ป่วยจะเศร้าซึม หดหู่ ร้องไห้ง่าย เบื่ออาหาร เชื่องช้า ลังเล คิดช้า ไม่มีสมาธิ รู้สึกว่าชีวิตตนเองไม่มีคุณค่า และมีความคิดฆ่าตัวตาย

 

และอีกแบบ คือ แบบอารมณ์คลุ้มคลั่งหรืออารมณ์รื่นเริงสนุกสนาน ผู้ป่วยจะรู้สึกมีความสุขมาก อารมณ์ดี คึกคัก มีกำลังวังชา ขยันกว่าปกติแต่ทำได้ไม่ดี นอนน้อยลง พูดคุยมาก พูดเร็ว มีกิจกรรมทางเพศเพิ่มขึ้น ใช้จ่ายเปลือง เชื่อมั่นตนเองมาก ขาดความยับยั้งชั่งใจ หากถูกห้ามปรามหรือขัดขวางในสิ่งที่ต้องการจะหงุดหงิดฉุนเฉียว อาการเหล่านี้เป็นสิ่งที่คนรอบข้างสังเกตเห็นได้ และช่วยกันให้ผู้ป่วยได้เข้ารับการบำบัดรักษา

 

ทั้งนี้ โรคไบโพลาร์ มักเริ่มมีอาการในช่วงวัยผู้ใหญ่ตอนต้น มักพบร่วมกับปัญหาสุขภาพจิตทั้งการใช้สารเสพติด ภาวะเครียด หรือโรควิตกกังวล ที่สำคัญพบว่าโรคนี้ทำให้ผู้ป่วยมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงกว่าประชาชนทั่วไปอย่างชัดเจน จึงขอให้ประชาชนทุกคนตระหนัก และให้ความสำคัญกับโรคนี้ โดยหมั่นสังเกตลักษณะการแสดงออกทางอารมณ์ของตัวเองและคนใกล้ชิด หากพบมีอารมณ์เปลี่ยนแปลงแบบหน้ามือเป็นหลังมือ คือ มีอารมณ์ดี ตื่นตัวมากจนผิดปกติ สลับกับมีภาวะซึมเศร้า ขอให้รีบพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านเพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา หรือโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง

 

Photo: shutterstock

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X