อดีตขุนคลังญี่ปุ่นชี้หากเงินเยนอ่อนค่าทะลุ 130 เยนต่อดอลลาร์ จะเป็นสัญญาณเตือนให้แบงก์ชาติต้องระวัง

เออิซุเกะ ซากากิบาระ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่รู้จักภายใต้ฉายา ‘มิสเตอร์เยน’ จากการที่เขาเป็นผู้ออกนโยบายแทรกแซงค่าเงินเยนหลายครั้งในช่วงทศวรรษ 90 ได้ออกมาให้ความเห็นถึงสถานการณ์ของค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างรุนแรงในขณะนี้ว่า หากเงินเยนอ่อนค่าจนหลุดกรอบ 130 เยนต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ จะถือเป็นสัญญาณแจ้งเตือนที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะต้องระมัดระวัง เพราะการอ่อนค่าที่ระดับดังกล่าวอาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้

ค่าเงินเยน ณ วันที่ 7 เมษายน เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 123.77 เยนต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ แต่เงินเยนได้มีการอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐไปแล้วมากกว่า 5% ในเดือนมีนาคม

โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า การอ่อนค่าของเงินเยนเป็นผลมาจากการที่ญี่ปุ่นยังดำเนินนโยบายส่วนทางกับธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางในหลายประเทศที่เริ่มทำนโยบายการเงินตึงตัวดูดสภาพคล่องกลับ โดยธนาคารกลางญี่ปุ่นยังส่งสัญญาณออกมาชัดเจนว่าจะปล่อยสภาพคล่องอย่างต่อเนื่อง และพยายามดูแลดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลให้อยู่ในระดับต่ำต่อไป

สำหรับสาเหตุที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นเลือกที่จะใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป เป็นเพราะเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังฟื้นตัวได้ไม่ดีนัก และการที่รัฐบาลมีหนี้สูงถึง 236% ของ GDP หากมีการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อดึงสภาพคล่องกลับ ก็จะกระทบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และอาจจะกระทบถึงภาครัฐที่จะมีภาระดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นปัญหาการคลัง

“การอ่อนค่าของเงินเยนเป็นผลในทางตรงข้ามกับการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งขณะนี้ตลาดคาดการณ์ว่าเยนจะอ่อนค่าต่อเนื่องไปสู่ระดับ 130 เยนต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในกรณีดังกล่าวหรือหากเงินเยนอ่อนค่ามากกว่านั้น อาจจะก่อให้เกิดปัญหาบางอย่างตามมา และนั่นจะเป็นสัญญาณเตือนให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นต้องระมัดระวัง” ซากากิบาระ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานของ Institute for Indian Economic Studies กล่าว

อ้างอิง: