×

ผลชันสูตรผู้กำกับโจ้ เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ให้น้ำหนัก ‘กระทำด้วยตัวเอง’ ครอบครัวส่งชันสูตรซ้ำ เปรียบเทียบข้อมูล

โดย THE STANDARD TEAM
09.03.2025
  • LOADING...

วันนี้ (9 มีนาคม) ผศ. นพ.วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ลงมาเปิดเผยว่า หลังจากแพทย์นิติเวชจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม จังหวัดปทุมธานี ผ่าชันสูตรร่างของ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล (ผู้กำกับโจ้) ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และมีผู้สังเกตการณ์ ได้แก่ ตัวแทนของญาติ ตัวแทนของตำรวจ และตัวแทนของคณะกรรมการชันสูตร 4 ฝ่าย ทั้งฝ่ายปกครอง อัยการ และคณะกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายนั้น 

 

ผศ. นพ.วรวีร์ กล่าวว่า เบื้องต้นให้น้ำหนักไปที่การผูกคอ เพราะเรื่องการถูกทำร้ายอื่นๆ ไม่พบบาดแผลและร่องรอยอื่นๆ จะมีเพียงรอยแผลฟกช้ำบริเวณสะโพก และหลังที่เป็นรอยช้ำเก่า โดยจะมีการตรวจเพิ่มเติมของเนื้อเยื่ออีกครั้งว่าระยะเวลาของการบาดเจ็บเกิดขึ้นช่วงเวลาใด

 

ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากการขาดอากาศหายใจจากการผูกคอ และเท่าที่ดูให้น้ำหนักเกิดจากการกระทำด้วยตัวเอง เนื่องจากลักษณะของแรงที่เกิดขึ้นไม่พบรอยช้ำของเนื้อเยื่อใต้ลำคอ ใต้รอยรัด และไม่พบการช้ำของกล้ามเนื้อลำคอ ไม่พบการบาดเจ็บของกระดูกกล่องเสียง จึงให้เหตุผลว่าแรงที่มากระทำไม่เยอะมากพอที่มากระทำเข้าได้กับการที่ผูกคอเสียชีวิต ไม่ใช่จากการรัดคอ ส่วนผ้าขนหนูตัวเองไม่เห็น แต่รอยแผลเข้าได้กับลักษณะของผ้า เพราะลักษณะความกว้าง กว้างกว่ารอยเชือก โดยมีความกว้างประมาณ 1.4 เซนติเมตร 

 

ผศ. นพ.วรวีร์ ยังบอกถึงกรณีที่ญาติสงสัยเลือดที่ออกบริเวณพื้นในขณะที่เข้าไปดูการชันสูตรที่เรือนจำว่า เลือดที่ออกดังกล่าว จากการสอบถามคณะแพทย์ที่ชันสูตร สงสัยได้ว่าเลือดจะออกมาจากการเสียชีวิต อาจจะมีของเหลวในร่างกายออกมาคล้ายเลือดหลังเกิดการเสียชีวิต อาจจะออกทางปากหรือทางบริเวณอื่น หรือจากบาดแผล มีพบลักษณะแผลถลอกที่แขน โดยสำนักงานพิสูจน์หลักฐานเก็บของเหลวดังกล่าวไปตรวจสอบแล้ว จะต้องรอผลการวิเคราะห์ว่าของเหลวดังกล่าวว่าเป็นเลือดหรือของเหลวที่ไหลออกมาหลังการเสียชีวิตหรือไม่

 

ส่วนแผลถลอกไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร แต่จากการสอบเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เห็นตั้งแต่ช่วงที่ไปชันสูตรศพ อาจจะเกิดขึ้นช่วงที่มีการนำร่างออกมาและอาจจะไปครูดกับของแข็งบางอย่าง ซึ่งเป็นสิ่งที่เจอตั้งแต่ชันสูตรที่เกิดเหตุ เป็นแผลพึ่งเกิดใหม่ ส่วนเนื้อเยื่อที่เล็บและจุดอื่นๆ ต้องใช้เวลาในห้องปฏิบัติการทำการตรวจสอบ รวมถึงจะต้องตรวจสอบสารพิษต่างๆ และสารต่างๆ ในร่างกายด้วย และเท่าที่ตรวจสอบดูยังไม่พบ

 

ทั้งนี้ จะต้องทำการตรวจสอบเลือด-ปัสสาวะในห้องปฏิบัติการก่อน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ และผลชันสูตรละเอียดจะต้องรอผลประมาณ 2-4 สัปดาห์เช่นกัน

 

ทั้งนี้ ก่อนเริ่มกระบวนการผ่าชันสูตร ได้พูดคุยกับทางญาติว่ามีประเด็นตรงไหนบ้างที่ติดใจสงสัยเพื่อทำการตรวจเพิ่มเติม โดยญาติสงสัยที่บริเวณกระดูกชายโครง จึงตรวจโดยใช้เครื่องทีซีสแกนเพื่อจะดูว่าหากเป็นการบาดเจ็บในอดีตตามที่ญาติบอกว่าเกิดขึ้นประมาณ 2 เดือนแล้วจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า จึงต้องใช้เครื่องทีซีสแกนทำการตรวจ และอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ผล แล้วจะระบุไปในรายการผลการชันสูตรโดยละเอียด

 

ขณะที่ วีรศักดิ์ นาคิน ทนายความของ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ กล่าวว่า หลังจากนี้ทางครอบครัวจะส่งร่างของ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ ไปตรวจพิสูจน์ที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์อีกรอบ เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลของทั้ง 2 แห่ง โดยยืนยันว่าไม่ได้มีอะไรที่ขัดแย้งกันกับทางเจ้าหน้าที่ แต่เพื่อความสบายใจของทางครอบครัวเท่านั้น 

 

ส่วนการผ่าชันสูตรพลิกศพ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ในวันนี้ เป็นที่น่าพอใจ เพราะทุกอย่างก็เป็นไปตามขั้นตอน แต่อย่างไรก็ตามต้องรอดูผลจากทางแพทย์และรายละเอียดต่างๆ อีกครั้งเพื่อความชัดเจน

 

ส่วนผ้าขนหนูที่ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ ใช้ก่อเหตุนั้น ทางครอบครัวยังเห็นไม่แน่ชัด เพราะเจ้าหน้าที่มีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานเอาไว้

 

เมื่อถามว่าตอนนี้ทางครอบครัวยังติดใจสาเหตุการตายของ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อยู่หรือไม่ วีรศักดิ์บอกว่า ก็ต้องดูข้อเท็จจริงในส่วนของ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ ซึ่งเราก็ต้องรวบรวมข้อมูลก่อน 

 

เช่นเดียวกับที่ สน.ประชาชื่น ในทางคดี วีรศักดิ์ย้ำว่าก็ต้องรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงก่อนเช่นกัน และให้ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมตอบว่ารายละเอียดเป็นแบบไหน อย่างไรบ้าง เราจึงจะดำเนินการต่อได้ เพราะเราก็ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้วว่าทางญาติติดใจสาเหตุการเสียชีวิต

 

เมื่อถามถึงแรงจูงใจนั้น วีรศักดิ์ กล่าวว่า ก็ต้องรอดูแนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ก่อน แต่ก็ยอมรับว่าทางครอบครัวยังติดใจอยู่ โดยเฉพาะเรื่องมูลเหตุและแรงจูงใจ พร้อมยืนยันว่าการส่งศพชันสูตรในรอบที่ 2 เป็นการเปรียบเทียบข้อมูลเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องติดใจ แต่เพื่อเป็นการให้สิ้นข้อสงสัยเท่านั้น

 

ส่วนเรื่องที่ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ ถูกขังเดี่ยวนั้น ยืนยันตามเดิมว่า เจ้าตัวไม่ได้สมัครใจจะขังเดี่ยว เพราะเขาแจ้งกับทางญาติและทางทนายมาตลอดว่า อยากออกจากขังเดี่ยว เขาไม่ได้เป็นคนขอ ซึ่งการถูกขังเดี่ยวคล้ายกับถูกทำโทษ โดย พ.ต.อ. ธิติสรรค์ ถูกขังมาเป็นเวลา 2 เดือนกว่าแล้ว และยังไม่มีการสอบวินัย หลังที่เจ้าตัวถูกทำร้ายและญาติไปแจ้งความ แต่ถูกแยกควบคุมก่อน

 

ส่วนคลิปวงจรปิดที่ทางกรมราชทัณฑ์เผยแพร่ออกมาเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ทางครอบครัวได้เห็นแล้ว แต่ได้เห็นเป็นช่วงๆ ซึ่งทางครอบครัวอยากให้มีการตรวจสอบของทั้งวันที่เกิดเหตุตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ และอยากให้มีดิจิทัลฟุตพรินต์ออกมาดู เพราะในวันเดียวกันที่ได้เข้าไปเยี่ยม พ.ต.อ. ธิติสรรค์ ก็ยังมีท่าทีปกติ

 

เมื่อถามว่าหลังเกิดเรื่องผู้คุมที่เป็นคู่กรณีได้ติดต่อมาบ้างหรือไม่ วีรศักดิ์ระบุว่า ยังไม่ได้เจอผู้คุมคู่กรณีเลย เพราะเป็นเรื่องภายในและเห็นว่าอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบ จึงขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งเราไม่ได้เน้นย้ำอะไร

 

ด้าน รัฐวิช จิตสุจริตวงศ์ ผู้อำนวยการส่วนกลางสอบสวนคดีอาญา กรมการปกครอง ยังตอบถึงประเด็นช่วงที่เข้าไปสังเกตการณ์ในห้องขังเดี่ยวที่เกิดเหตุว่า ตอนที่เข้าไปสังเกตการณ์ในห้องขังเห็นลักษณะผ้าที่ใช้ก่อเหตุเป็นผ้าขนหนูผืนเล็ก คล้ายกับผ้าขนหนูที่เอาไว้เช็ดผมตามโรงแรม ซึ่งในที่เกิดเหตุพบผ้าถูกตัดออกเป็น 2 ส่วน คาดว่าเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์น่าจะใช้มีดตัดเพื่อช่วยเหลือ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ เพราะชิ้นส่วนหนึ่งยังผูกติดไว้กับลูกกรงตรงประตู ส่วนอีกชิ้นเป็นชิ้นผ้าที่ถูกตัดติดอยู่กับศพ ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บเอาไปตรวจสอบแล้วว่าเป็นองค์ประกอบที่จะทำให้ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ เสียชีวิตได้หรือไม่

 

เมื่อถามว่าผ้าขนหนูที่พบมีลักษณะถูกฉีกแล้วมัดผูกต่อๆ กันหรือไม่ รัฐวิชบอกว่า เห็นเป็นผ้าผืนเดียว ส่วนในห้องขังที่เกิดเหตุไม่พบวัตถุอื่นๆ นอกจากกล่องยา และของใช้ส่วนตัวเล็กน้อย 

 

ทั้งนี้ ครอบครัวได้รับร่างของ พ.ต.อ. ธิติสรรค์แล้ว โดยจะส่งไปชันสูตรรอบ 2 ที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ส่วนการเผาศพนั้นอยู่ระหว่างหารือกับทางครอบครัวว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising