หลังปิดศูนย์บริการเบ็ดเสร็จขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวในทั่วประเทศไปแล้วเมื่อวานนี้ กระทรวงแรงงานเผยตัวเลขพบว่ามีแรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียนแล้วกว่า 1,300,000 คน เหลืออีกประมาณ 75,000 คน พร้อมย้ำว่าแรงงานต่างด้าวที่ไม่ลงทะเบียนจะต้องกลับประเทศต้นทาง หากอยู่ในประเทศไทยจะมีความผิดตามกฎหมาย
จากข้อมูลของกรมการจัดหางานพบว่า มีแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา ที่ขึ้นทะเบียนแล้วทั้งหมด 1,303,929 คน คงเหลืออีก 75,324 คน จากยอดแรงงานต่างด้าวทั้งหมด 1,379,252 คน คิดเป็นร้อยละ 95 ส่วนยอดแรงงานต่างด้าวรายงานตัวผ่านระบบออนไลน์จำนวน 190,098 คน และรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศกว่า 29,658 คน
ทั้งนี้ แรงงานต่างด้าวที่ไม่ลงทะเบียนกว่า 75,000 คน จะตรวจเช็กอีกครั้งว่าเป็นแรงงานต่างด้าวที่กลับประเทศต้นทางไปแล้วหรือไม่ ซึ่งหากเป็นแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยแต่ไม่ลงทะเบียนตามเวลากำหนด จะถือว่าแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายไม่มีสิทธิ์อยู่และทำงานต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม แรงงานต่างด้าวที่ลงทะเบียนรายงานตัวไว้ จะต้องไปดำเนินการตามวันเวลา ที่จะมีข้อความ SMS ส่งไปยังมือถือนายจ้างหรือเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งลงทะเบียนไว้ เพื่อไปดำเนินการจัดทำทะเบียนประวัติออกเลข 13 ตรวจสุขภาพ/ประกันสุขภาพ ตรวจลงตราวีซ่า ขออนุญาตทำงาน และตรวจพิสูจน์สัญชาติให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 30 มิถุนายนนี้
หลังจากวันที่ 31 มีนาคมนี้ แรงงานต่างด้าวที่ไม่มาขึ้นทะเบียนไว้ จะถือเป็นแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ไม่สามารถทำงานในประเทศไทยได้ หากฝ่าฝืนทำงานต่อถือว่ามีความผิดในข้อหา ‘ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน’ ต้องระวางโทษปรับ 5,000-50,000 บาท ตรวจพบจับปรับแล้วส่งกลับประเทศทันที ส่วนนายจ้างที่จ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย มีความผิดในข้อหา ‘รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน’ ต้องระวางโทษปรับ 10,000-100,000 บาท ต่อแรงงานต่างด้าว 1 คน และหากทำผิดซ้ำ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 50,000-200,000 บาท ต่อแรงงานต่างด้าว 1 คน และห้ามจ้างแรงงานต่างด้าวเป็นเวลา 3 ปี