สื่อนอกจับตา #เลือกตั้ง2566 โอกาสครั้งสำคัญที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงประเทศไทย 14 พฤษภาคมนี้

สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักเฝ้าติดตามและจับตามองการเลือกตั้งครั้งสำคัญของประเทศไทยที่จะจัดขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ นับเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ทุกเสียงของประชาชนชาวไทยจะมีส่วนช่วยในการกำหนดทิศทางประเทศนี้อีกครั้ง

โดยขณะนี้นับเป็นช่วงโค้งสุดท้ายแล้วสำหรับการหาเสียงเลือกตั้งในปีนี้ ทุกพรรคการเมืองต่างขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในการเดินสายหาเสียงสนับสนุน รวมถึงการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายขึ้นในวันนี้ (12 พฤษภาคม) ก่อนที่คูหาเลือกตั้งจะเปิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้

ในการเลือกตั้งครั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยมากถึง 62 คน จาก 43 พรรคการเมือง โดยตัวอย่างแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่น่าจับตามอง เช่น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกล, แพทองธาร ชินวัตร, เศรษฐา ทวีสิน และ ชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย, พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรครวมไทยสร้างชาติ, พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐ, คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, น.ต. ศิธา ทิวารี และ สุพันธุ์ มงคลสุธี จากพรรคไทยสร้างไทย, อนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย, พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส จากพรรคเสรีรวมไทย, วราวุธ ศิลปอาชา จากพรรคชาติไทยพัฒนา, กรณ์ จาติกวณิช จากพรรคชาติพัฒนากล้า, จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ และ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม จากพรรคไทยภักดี

โดยชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่จะสามารถนำมาพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรได้นั้น จะต้องมาจากพรรคการเมืองที่ได้ที่นั่ง ส.ส. ไม่น้อยกว่า 5% ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ หรือมีจำนวน ส.ส. 25 คนขึ้นไป

หลายฝ่ายเฝ้าจับตามองว่า การสืบทอดอำนาจของกองทัพและนายทหารระดับสูงที่ก้าวขึ้นมามีอำนาจนำ นับตั้งแต่การก่อรัฐประหารเมื่อปี 2557 นั้นจะยังคงอยู่ต่อไปหรือไม่ หรือเจตจำนงของประชาชนจะสร้างโอกาสของการเปลี่ยนแปลง ปลดล็อกพื้นที่ทางการเมืองให้เป็นพื้นที่ของประชาชนอย่างแท้จริงอีกครั้ง

14 พฤษภาคมนี้ เข้าคูหารับบัตร 2 ใบ กาคนที่ใช่ เลือกพรรคที่ชอบ เพื่อหยิบยื่นโอกาสให้เสียงของประชาชนคนไทยทุกคนมีส่วนช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยในช่วง 4 ปีต่อจากนี้

อ้างอิง: