วันนี้ (8 พฤศจิกายน) อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยถอนร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างชาติ ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. …. ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อนำไปศึกษาเพิ่มเติม รวมทั้งการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์อย่างรอบด้านของผู้ที่เกี่ยวข้อง
มติดังกล่าว ครม. ได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างชาติตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. …. เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์เป็นการเฉพาะเกี่ยวกับการได้มาซึ่งที่ดินของกลุ่มคนต่างชาติที่มีศักยภาพสูง 4 ประเภท
- กลุ่มประชาคมโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง
- กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ
- กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย
- กลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ
ทั้งนี้ เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยไม่เกิน 1 ไร่ ตามมาตรา 96 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน โดยต้องนำเงินมาลงทุนในธุรกิจหรือกิจการประเภทหนึ่งประเภทใดไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท โดยต้องดำรงการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 3 ปี เช่น การซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
ทั้งนี้ การได้มาซึ่งที่ดินที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างชาติโดยทั่วไป ยังคงเป็นไปตามกฎกระทรวงฯ พ.ศ. 2545 ที่ประกาศใช้อยู่ในปัจจุบัน
อนุชากล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยได้ขอถอนร่างกฎกระทรวง เพื่อนำไปรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบ และนำไปศึกษาเพิ่มเติมให้มีความรอบคอบ ถี่ถ้วน และครอบคลุมผู้เก่ียวข้องอย่างรอบด้าน รวมไปถึงการฟังความคิดเห็นจากประชาชน เพื่อพิจารณาถึงผลดีผลเสียที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้ร่างกฎกระทรวงเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติต่อไป
ในช่วงเช้าที่ผ่านมา พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า เนื่องจากเรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน จึงต้องนำไปศึกษาใหม่เพื่อกลับไปพิจารณาถึงผลดีและผลเสียที่มีผลต่อด้านเศรษฐกิจและสังคม
ขณะที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยขอกลับไปพิจารณาใหม่และรับฟังความคิดเห็นอย่างน้อย 15 วัน ตามกฎหมาย ส่วนสาเหตุที่ยอมถอนร่างในวันนี้เนื่องจากมีประเด็นความอ่อนไหว ซึ่งมีหลายสาเหตุประกอบกัน 1 ในสาเหตุสำคัญคือการที่ทุกคนรุมด่าว่าขายชาติ ก็ต้องนำกลับไปทำความเข้าใจ และเป็นการนำร่างกฎกระทรวงดังกล่าวกลับไปพิจารณาทำให้ดี และปรับปรุงถามความเห็นให้เข้มงวดกวดขันและรับฟังสิ่งที่เขาวิจารณ์