สำหรับนักฟุตบอลอาชีพแล้ว นอกจากเรื่องของการพยายามฝึกซ้อมให้ดีที่สุดในทุกวัน เพื่อที่จะทำผลงานให้โดดเด่นในทุกเกม อีกสิ่งหนึ่งที่จะสามารถสร้างความแตกต่างระหว่างนักฟุตบอลอาชีพด้วยกันเองก็คือ เรื่องของการดูแลร่างกาย
การดูแลร่างกายนั้นประกอบไปด้วยหลายอย่าง ตั้งแต่เรื่องของการหลับนอน การพักผ่อน การดูแลสภาพจิตใจ ไปจนถึงเรื่องยิบๆ ย่อยๆ อย่างเช่น ระบบการขับถ่าย และแน่นอนที่สุดต้องมีเรื่องของโภชนาการหรืออาหารการกินด้วย
โดยปกติแล้วนักฟุตบอลอาชีพ โดยเฉพาะในสโมสรฟุตบอลสมัยใหม่ จะมีนักโภชนาการที่จะตรวจสอบสภาพร่างกายอย่างละเอียด เพื่อจะดูว่าควรจะเสริม เพิ่ม เติม หรือต้องลดสารอาหารอะไรลงบ้าง เพื่อให้สภาพร่างกายนักเตะดีที่สุด
เพียงแต่มันจะมีช่องว่างในระหว่างที่นักเตะกลับไปพักผ่อนที่บ้าน ซึ่งนักโภชนาการไม่ได้ตามไปด้วย ตรงนี้เองที่แต่ละคนก็จะสรรหาอะไรก็ตามที่กินแล้วรู้สึกดีต่อร่างกายและจิตใจของตัวเอง
ปัญหาก็คือ บางอย่างมันอยู่เหนือจินตนาการไปบ้าง!
เช่น ‘ตีนไก่’ ที่กลายเป็นอาหารบำรุงสำหรับนักฟุตบอลระดับพรีเมียร์ลีกที่อยู่ยั้งยืนยงอย่าง แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ปีกจอมเก๋าของลูตัน ทาวน์
เรื่องราวสนุกๆ นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทาวน์เซนด์ ซึ่งเป็นนักเตะจอมพเนจรคนหนึ่งด้วยการผ่านการเล่นมาถึง 14 สโมสรในระยะเวลาการค้าแข้งอาชีพ 14 ปี โดยทีมล่าสุดของเขาก็คือ ลูตัน ทาวน์ น้องใหม่ที่เป็นที่สนใจมากกว่าใคร (เพราะสนามจิ๋วอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา)
ประเด็นคือ แม้อายุอานามจะล่วงเข้าถึงวัย 32 ปีแล้ว แต่ทาวน์เซนด์ก็ยังคงฟิตเปรี๊ยะ (ยังกับติดเทอร์โบ) อยู่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือประสบการณ์ในการเล่นและลูกล่อลูกชนที่สูงขึ้น
มันทำให้มีหลายคนสงสัยว่า อะไรที่ทำให้นักฟุตบอลที่เหมือนจะเคยดูหมดสภาพไปนานแล้วกลับมามีสภาพร่างกายที่ฟิตปั๋งแบบนี้ได้
เขามีเคล็ดลับเรื่องนี้หรือไม่?
ปรากฏว่าเมื่อทาวน์เซนด์เปิดเผยเคล็ดลับในการดูแลร่างกายจากการให้สัมภาษณ์กับรายการ 5 Live’s Monday Night Club ทาง BBC ก็กลายเป็นประเด็นขึ้นมาทันที
เพราะของดีที่เขากินก่อนนอนนั้นคือ ‘ตีนไก่’
อดีตสตาร์ที่มีดีกรีทีมชาติอังกฤษบอกแบบนี้ “ผมกินตีนไก่ทุกคืน น่าจะมี 5-6 ชิ้นต่อวัน”
คำตอบของทาวน์เซนด์ทำเอา มาร์ค แชปแมน พิธีกรรายการ ถึงกับขมคอขึ้นมาทันที ก่อนจะถามว่า “ทำไมถึงเป็นตีนไก่นะ”
ปรากฏว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของความชอบส่วนบุคคล หรือแม้แต่เรื่องของความเชื่อที่ได้รับการบอกต่อมาเท่านั้น เพราะความจริงแล้วมันเกิดจากการที่ทาวน์เซนด์ตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมเขาถึงต้องกินยาเป็นกำมือเพื่อรับสารอาหารหรือวิตามินบางอย่างจากสิ่งเหล่านี้
สิ่งที่เขาอยากได้คือสารอาหารที่มาจากอาหารจริงๆ
“เมื่อสัก 2-3 เดือนก่อน ผมเพิ่งมาคิดได้ตอนที่แบมือออกมาแล้วเห็นแคปซูลยา 10 เม็ดเต็มมือไปหมด แต่ละเม็ดก็จะมีไว้เพื่อกินสำหรับเรื่องนั้นเรื่องนี้ มันดูประหลาดมาก จนสุดท้ายผมเริ่มคิดได้ว่าผมอยากได้สารอาหารที่มาจากอาหารจริงๆ”
เมื่อค้นคว้าปรากฏว่าทาวน์เซนด์ได้ค้นพบว่าสิ่งที่จำเป็นสำหรับร่างกายโดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่เขาต้องใช้งานในการเล่นกีฬาคือ ‘คอลลาเจน’ ซึ่งจะช่วยในการซ่อมแซมและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ
ในตอนนั้นเขาอยู่ระหว่างการพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บที่เข่าพอดี จึงต้องการปริมาณคอลลาเจนที่สูง
และบนโลกใบนี้หนึ่งในอาหารธรรมชาติที่ให้คอลลาเจนสูงที่สุดก็คือ ‘ตีนไก่’ นั่นเอง
สำหรับการกินตีนไก่ในหมู่คนเอเชียแล้วอาจไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สำหรับชาวตะวันตกแล้วมันดูเป็นอาหารที่ไม่พึงปรารถนามากนัก และนั่นทำให้ทาวน์เซนด์โดนยิงคำถามต่อว่า “กินตีนเล็กหรือตีนใหญ่”
ปีกจอมเลื้อยก็ตอบว่า “ใหญ่บ้างเล็กบ้าง บางอันเล็บยาวบางอันเล็บสั้น”
ถึงตรงนี้แชปแมนทำหน้าผะอืดผะอมแล้ว ขณะที่ คริส ซัตตัน อดีตหัวหอกแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ที่ร่วมดำเนินรายการด้วยเริ่มกลั้นขำไม่ได้ เพราะคำถามต่อมาคือ รสชาติมันเป็นอย่างไร แล้วมันหนึบๆ หรือมันกรุบๆ กันแน่
“มันก็เหมือนปีกไก่นั่นแหละ แต่มีเนื้อน้อยหน่อย มีเส้นเอ็นบ้าง แล้วก็มีหนังติดมานิดหนึ่ง” ซึ่งตัวเขาเอาไปปรุงด้วยการอบในเตาอบ 20 นาที เพื่อให้มันกรุบๆ กรอบๆ
“สำหรับผมมันก็คือปีกไก่แต่มีหน้าตาเป็นตีนแค่นั้นแหละ ถ้าเปิดใจได้ก็จะรู้เลยว่ามันดีงาม ที่จีน โปรตุเกส หรือแอฟริกา เขาก็กินกันทั้งนั้น”
ถึงตรงนี้อยากจะบอกว่า อยากให้ทาวน์เซนด์ได้มาบ้านเราเลย รับรองว่าได้เจอ ‘ซูเปอร์ตีนไก่’ ไปแล้วลืมตีนไก่ทุกสถาบันแน่นอน
ว่าแต่การกินตีนไก่มันช่วยได้จริงๆ ใช่ไหม?
เรื่องนี้นักโภชนาการอย่าง วิกกี นิวโบลด์ จากสถาบัน UK Sports ออกมายืนยันแบบแบ่งรับแบ่งสู้ว่า “ถ้าคุณกินตีนไก่ไปทั้งอันหรือกินไปหลายอันก็ถือว่าได้รับคอลลาเจนมากเพียงพอแล้ว แต่คำถามก็คือ คอลลาเจนเหล่านี้มันช่วยลดอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อลงจริงไหม
“เราได้เห็นงานวิจัยอยู่บ้างที่ใช้คอลลาเจนในการทำให้ข้อต่อทำงานได้ดี ลดการบาดเจ็บของข้อต่อ และช่วยรักษาเส้นเอ็นที่ได้รับบาดเจ็บไปจนถึงการปรับตำแหน่งของเส้นเอ็น”
ในมุมของนักโภชนาการแล้ว ความเข้าใจของทาวน์เซนด์ว่าตีนไก่เป็นยาวิเศษนั้นดูจะคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง แต่อย่างน้อยถ้ากินแล้วออกกำลังกายอย่างเหมาะสมด้วยก็น่าจะช่วยได้ และการเลือกที่จะรับสารอาหารจากอาหารโดยตรงก็อาจมีข้อดีตรงที่ลดความเสี่ยงที่จะทำผิดกฎเรื่องของการใช้สารกระตุ้นที่อาจเกิดขึ้นจากการกินยาหรือสารอาหารในแคปซูล
แต่นักโภชนาการจะว่าอย่างไรก็ตาม สำหรับทาวน์เซนด์แล้วตราบใดที่กินตีนไก่แล้วรู้สึกว่าร่างกายดี ไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครก็กินไปเถอะ
ว่าแต่อ่านจบแล้วอยากจะลองสักตีนสองตีนไหม? (ตีนไก่นะ!)
อ้างอิง: