เป็นประจำทุกปีที่ Deloitte สถาบันการเงินจะเปิดเผยอันดับของสโมสรฟุตบอลที่รวยที่สุดในโลกที่เรียกว่า ‘Football Money League’
อันดับในแต่ละปีนั้นจะคำนวณจาก ‘รายได้’ ของสโมสรประจำฤดูกาล 2022/23 ว่าทีมใดทำรายได้มากที่สุด และรายได้นั้นมาจากอะไรบ้าง
สำหรับคนที่อยากรู้ว่าทีมไหนรวยที่สุด? เฉลยให้เลยก็ได้ เพราะไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น มันต้อง ‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด อยู่แล้วด้วยรายได้ 831.4 ล้านยูโร ซึ่งมากกว่าปีกลายถึง 117.6 ล้านยูโร ล้มแชมป์เก่าอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจ้าของ ‘เทรเบิลแชมป์’ ทำรายได้ถึง 825.9 ล้านยูโร มากกว่าฤดูกาลที่แล้ว 98.5 ล้านยูโร
สิ่งที่น่าสนใจใน Football Money League ประจำปีนี้อยู่ที่ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ที่ตอนนี้กลายเป็นทีมที่รวยที่สุดของลอนดอน แซงหน้าอาร์เซนอลและเชลซีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
บอกใบ้ให้นิดๆ ว่าเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Beyoncé และ NFL!
อันดับ Football Money League ที่ทาง Deloitte เปิดเผยออกมามีตัวเลขที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยในภาพรวมแล้วรายได้ของสโมสรฟุตบอลต่างๆ นั้นเพิ่มขึ้นจากเมื่อปีกลาย ซึ่งมาจากหลายเหตุผลด้วยกันไม่ว่าจะเป็นรายได้จากวันแข่งขัน (Matchday Revenue) ผ่านค่าบัตรเข้าชมและรายได้ทางอื่น, รายได้ทางการค้า (Commercial Revenue) ซึ่งจะมาจากการจำหน่ายสินค้า สปอนเซอร์ และอื่นๆ สุดท้ายคือรายได้จากลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด (Broadcast Revenue)
ในกลุ่ม Top 5 นั้นน่าสนใจที่มีสโมสรอังกฤษที่ว่ากันว่ารวยที่สุดในโลกติดเพียงแค่ 2 อันดับคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อันดับ 2) และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อันดับ 5)
ส่วนอีก 3 อันดับยังเป็นทีมใหญ่จากภูมิภาคยุโรปอย่างเรอัล มาดริด (อันดับ 1), ปารีส แซงต์ แชร์กแมง (อันดับ 3) และบาร์เซโลนา (อันดับ 4) ส่วนบาเยิร์น มิวนิก ยักษ์ใหญ่จากเยอรมนี อยู่ในอันดับที่ 6
แต่อันดับถัดไปนั้นเป็นสโมสรจากอังกฤษที่ยึดหัวหาดตั้งแต่ลิเวอร์พูล, ท็อตแนม ฮอตสเปอร์, เชลซี และอาร์เซนอล ที่ครองอันดับตั้งแต่ 7-10
ขณะที่ทีมดังอย่างยูเวนตุส, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน, แอตเลติโก มาดริด, ไอน์ทรัคท์ แฟรงก์เฟิร์ต, นาโปลี และโอลิมปิก มาร์กเซย อยู่ในกลุ่ม 11-20 โดยในกลุ่มนี้มีสโมสรจากพรีเมียร์ลีกติดอีกแค่ 2 ทีม คือ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และเวสต์แฮม ยูไนเต็ด
นั่นคือภาพรวมที่พอมองเห็นคร่าวๆ
แต่จุดที่น่าสังเกตในตารางดังกล่าวคือ การที่ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ กลายเป็นทีมที่ทำรายได้สูงที่สุดในกลุ่มสโมสรลอนดอน แซงหน้าทั้งเชลซีและอาร์เซนอลได้สำเร็จ
เรื่องนี้มีที่มาที่ไปที่น่าสนใจ
มองเฉพาะตัวเลขรายได้ก่อน ในปี 2022/23 สเปอร์สมีรายได้ทั้งหมด 631.5 ล้านยูโร เพิ่มขึ้นจากในปี 2021/22 ที่ทำได้ 522.9 ล้านยูโรถึงกว่า 108.6 ล้านยูโรด้วยกัน
จุดที่สร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญคือ เรื่องของรายได้ส่วนของ Matchday Revenue ซึ่งได้ถึง 135 ล้านยูโร
ในอังกฤษมีเพียงแค่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมเดียวที่ทำรายได้ส่วนนี้มากกว่า โดยอยู่ที่ 151 ล้านยูโร ขณะที่ลิเวอร์พูลเองก็ทำได้เพียงแค่ 103 ล้านยูโรเท่านั้น และในโลกมีเพียงแค่บาร์เซโลนากับปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่มากกว่า (166 กับ 153 ล้านยูโร)
พูดง่ายๆ คือ สเปอร์สทำรายได้จาก Matchday เป็นอันดับ 4 ของโลก
ส่วนเชลซีกับอาร์เซนอล? อยู่ที่ 88 กับ 118 ล้านยูโร เป็นรองอยู่พอสมควร
สิ่งที่ทำให้สเปอร์สชิงความได้เปรียบตรงนี้ได้คือประโยชน์จากการสร้างสนามใหม่ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม ที่นอกจากจะมีความจุถึงกว่า 62,850 ที่นั่ง สนามแห่งนี้ยังเป็นมากกว่าแค่สนามฟุตบอล เพราะรองรับการจัดอีเวนต์ใหญ่ได้สบายๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดคอนเสิร์ต หรือการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล NFL และการแข่งรักบี้ยูเนียน
ในช่วงปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงที่คอนเสิร์ตกลับมาบูมอีกครั้งทั่วโลก (กดบัตรกันจนหมดตัว!) มีศิลปินระดับโลกมาจัดคอนเสิร์ตที่ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ สเตเดียม กันหลายราย ยกตัวอย่างเช่น Beyoncé, P!NK, Lady Gaga และ Gun N’ Roses
เรื่องนี้ แซม บอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจกีฬาของ Deloitte ถึงกับเอ่ยปากชม “เหตุผลสำคัญในการเติบโตของสเปอร์สคือ การที่สโมสรสามารถหาเงินรายได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากเรื่องของสนาม ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของรายได้จากเกมการแข่งขันหรือการจัดกิจกรรมหารายได้”
นี่เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการเป็นสนามกีฬาสมัยใหม่ที่จะต้องเป็นได้มากกว่าแค่สถานที่จัดแข่งขันกีฬา แต่ต้องรองรับงานอีเวนต์ใหญ่ในระดับโลก และเป็นเหตุผลที่ทำให้สโมสรยักษ์ใหญ่หลายแห่งมีความพยายามที่จะปรับปรุงสนามสุดขลังกันยกใหญ่
โปรเจกต์ใหญ่ที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคือ สนามซานติอาโกเบอร์นาบิวโฉมใหม่ของ เรอัล มาดริด และคัมป์นูแห่งอนาคตของบาร์เซโลนา
ขณะที่ในพรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูลปรับปรุงสนามแอนฟิลด์ไปมาก แต่ในแง่ของการปรับเปลี่ยนแล้วยังไม่อยู่ในระดับเดียวกับสนามใหม่ของสเปอร์สที่สร้างทุกอย่างขึ้นใหม่ ส่วนเชลซีเองก็มีแผนที่จะปรับปรุงสนามหรือสร้างใหม่มานานแล้ว
คาดว่าอีกไม่นานเราน่าจะได้เห็นการปรับปรุงโอลด์แทรฟฟอร์ดของแมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยเช่นกัน
ดังนั้นแม้ว่ารายได้จากส่วนของ Matchday Revenue จะไม่ได้สำคัญเหมือนในอดีตที่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำหลัก เพราะรายได้ส่วนของ Commercial และ Broadcast ทำเงินรายได้มากกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นส่วนที่มองข้ามได้
เหมือนในเกมฟุตบอล บางครั้งมันแพ้-ชนะกันด้วยความแตกต่างทาง ‘รายละเอียด’ นิดๆ หน่อยๆ
เกมในปีนี้สเปอร์สอาจจะไม่ได้ชนะทุกทีม แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ชนะทีมร่วมลอนดอนด้วยกัน
ได้ยืดนิดๆ!
ภาพประกอบ: ฉัตรชัย เฉยชิต
อ้างอิง: