วันนี้ (20 มิถุนายน) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ทางสมาคมฯ ร่วมกับ บริษัท ไทยลีก จำกัด พร้อมด้วยฝ่ายเทคนิคทีมชาติ และหัวหน้าผู้ฝึกสอน ร่วมประชุมเพื่อจัดวางโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลลีกภายในประเทศ ฤดูกาล 2022/23 ให้สอดคล้องกับโปรแกรมทีมชาติไทยในการเก็บตัวก่อนเข้าสู่รายการแข่งขันระดับนานาชาติ
การประชุมในครั้งนี้ นำโดย พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ พร้อมด้วย กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธาน บริษัท ไทยลีก จำกัด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการแข่งขันไทยลีก พร้อมด้วย มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่, ซัลบาดอร์ บาเลโร การ์เซีย หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี, พิภพ อ่อนโม้ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี และทีมงานสตาฟฟ์โค้ช
โดยวัตถุประสงค์ในการประชุมครั้งนี้ เพื่อเป็นการวางโปรแกรมฟุตบอลลีก ให้มีความเหมาะสม และมีช่วงเวลาให้ทีมชาติไทยทุกชุดเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับทำการแข่งขันที่เหมาะสม
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลในช่วงฤดูกาล 2022/23 นั้น ก่อนหน้านี้ การแข่งขันเอเชียนเกมส์ ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ที่จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 10-25 กันยายนนี้ ได้ถูกเลื่อนออกไป ทำให้ บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้ตัดสินใจนำโปรแกรมการแข่งขันดังกล่าวมาใส่ในช่วงเวลาดังกล่าวแทน
นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ ยังได้วางกรอบเวลาในการเตรียมทีมชาติไทย ก่อนลุยศึกมิตซูบิชิ อีเล็คทริค คัพ 2022 ให้มีเวลาเตรียมทีมก่อนการแข่งขันตามที่ มาโน โพลกิง ต้องการ
โดยมาโนกล่าวภายหลังการหารือว่า “เป็นการประชุมที่ดีและสำคัญมาก ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ได้มาตัดสินใจร่วมกันแบบนี้ เพื่อให้ทีมชาติและลีกมีโปรแกรมที่สนับสนุนกัน แม้ว่าบางการตัดสินใจอาจจะมีผลลัพธ์ที่แตกต่างจากที่คาดหวังไว้ เพราะมันคือเรื่องของอนาคต แต่โค้ชทีมชาติทุกชุด และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง มาตัดสินใจด้วยกัน และเดินหน้าไปด้วยกัน
“สำหรับวันนี้มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก หากเราหาทางที่ลงตัวสำหรับทุกคนได้ ผมเชื่อว่าเราทำได้ดีกว่าเดิม การประชุมมันออกมาดีมาก เรามีเวลามากมาย และจะได้นักเตะที่ดีที่สุดที่พร้อม มันเป็นสิ่งสำคัญในการระเบิดฟอร์มในระดับสูง ที่ต้องมีเวลาและมีนักเตะที่ดีที่สุด นั่นคือสิ่งที่โค้ชทุกคนต้องการ ผมรู้ว่ามันไม่ง่าย บางครั้งเราต้องช่วยเหลือสโมสรด้วย แต่นั่นคือเหตุผลที่เรามานั่งประชุมกันในวันนี้ ผมเชื่อว่าการประชุมครั้งนี้เป็นสิ่งสำคัญ
“โปรแกรมหลังจากนี้เราจะมีฟีฟ่าเดย์ในเดือนกันยายน เราหวังว่าจะได้คู่ต่อสู้ที่ดี โดยเฉพาะการได้ทีมที่อันดับฟีฟ่าแรงกิ้งที่ดีกว่าเรา เพราะเราจะได้เห็นนักเตะของเราในเกมเหล่านี้ หาข้อผิดพลาด และนำมันไปแก้ไข หลังจากนั้น เราจะมีเวลาเตรียมทีมหลังจบเลกแรก สำหรับศึกชิงแชมป์อาเซียน
“เรารู้ว่าถ้าเรามีเวลามันก็เป็นเรื่องดี เราจะพยายามสเกาต์นักเตะในฤดูกาลใหม่ ผมตื่นเต้นกับสิ่งที่เรากำลังจะก้าวไป และหวังจะได้เห็นฟอร์มการเล่นของนักเตะหลายๆ คน นี่คือหน้าที่ของเราในการตามหาคนที่ดีที่สุดมาติดทีม
“การป้องกันแชมป์คือเป้าหมายของเรา เพราะมันมีความกดดันเข้ามา หลังเราลงเล่นครั้งนี้ในฐานะแชมป์เก่า ทุกคนต่างคาดหวังว่าเราจะทำได้เหมือนเดิม แต่มันไม่ง่าย ซึ่งผมก็อยากจะทำให้ได้อีกครั้ง ผมเชื่อเสมอว่าทีมชาติไทยมีความแข็งแกร่ง และเราก็แสดงให้เห็นในซูซูกิคัพครั้งล่าสุด ว่าแม้เราจะไม่มีเวลา แต่ถ้าเรามีนักเตะที่ดี นักเตะโชว์ฟอร์มได้ดีมาก ผมหวังว่าเราจะทำได้อีกครั้ง ถ้าเรามีเวลาและมีนักเตะที่ดี ผมเชื่อว่าเราจะเป็นตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์กลับมาที่บ้านของเราได้อีกครั้ง” หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่กล่าวทิ้งท้าย
ส่วนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ซึ่งจะมีโปรแกรมแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนที่ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม 2565 และฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่ประเทศโอมาน ระหว่างวันที่ 10-18 กันยายน 2565 ส่วนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี มีโปรแกรมเข้าร่วมแข่งขันรายการชิงแชมป์อาเซียน ที่ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 13 สิงหาคม 2565 และทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี มีโปรแกรมเข้าร่วมแข่งขันรายการชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 1-9 ตุลาคม 2565 ซึ่งฝ่ายจัดการแข่งขันได้เตรียมแผนในการวางโปรแกรม โดยจะไม่ให้ทับซ้อนกับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลยูธลีกที่จะเริ่มในช่วงปลายเดือนกันยายน เพื่อประโยชน์สูงสุดของฟุตบอลทีมชาติไทยต่อไป